หลังจากที่ Thai Yamaha Motor ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์คันนี้มีความโดดเด่นตรงที่ออกแบบโดยคนไทย ผลิตในประเทศไทยและที่สำคัญส่งขายทั่วโลก จนเรียกได้ว่าสร้างกระแสตอบรับไว้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ Yamaha XSR155 รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมานี้ กับราคาที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์เราทีเดียว เพราะถูกกว่า MT-15 ถึง 7,000 บาท และในที่สุดเราก็ได้รับน้องเล็กสปอร์ต-เฮอร์ริเทจ คันล่าสุด เพื่อมาทำการรีวิว Yamaha XSR155 กันในครั้งนี้ จะขี่ดีแค่ไหน มาเริ่มกันเลยดีกว่า
|
|
– หน้าตาโดยรวม ได้ถูกออกแบบให้ตรงตามคอนเซปท์ รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ต-เฮอร์ริเทจ เหมือนอย่างพี่ๆ XSR700/XSR900 ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดเจนว่า Yamaha XSR155 คันนี้จะมีภาพลักษณ์ที่ผสมผสานกันระหว่าง กลิ่นอายจากอดีตยุค 80’s (80’s Heritage) และความเป็นโมเดิร์นทันสมัย
|
|
– ไฟหน้า กรอบโคมกลม แบบ 2 ชั้น ที่จะพิเศษกว่าพี่ๆพอสมควรตรงที่มันได้ใช้ชุดหลอดไฟภายใน LED แบ่งโซนไฟสูงด้านบน/ไฟต่ำด้านล่างชัดเจนด้วยแถบคั่นตรงกลางพร้อมประทับโลโก้ XSR สีโครเมี่ยม ขณะที่ไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้เช่นเดิมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
|
|
– ไฟท้าย ทรงกลม ทำวงแหวนไฟเป็นทรงโดนัท รับกันดีกับโคมไฟหน้า
|
|
– ท่อไอเสีย ปลายกลม ออกข้าง แผ่นกันร้อนดีไซน์แปลกด้วยการเจาะรู
|
|
– มาตรวัดของ Yamaha XSR155 จะมีลักษณะเป็นถ้วยกลม แสดงผลแบบ Full-Digital Black Light ด้านใน Interface ดีไซน์ให้เหมือนตัวเรือนนาฬิกา แสดงผลครบครันทั้งสเกลวัดรอบตีเป็นกรอบด้านบนกวาดตั้งแต่ 0-13,000 รอบ/นาที (ส่วนเรดไลน์จะเริ่มตั้งแต่ 11,000 รอบ/นาที), เลขบอกตำแหน่งเกียร์ตรงกลางค่อนไปด้านบน, และมีไฟแสดงสถานะระบบ VVA ด้านข้างตำแหน่งเกียร์, ขณะที่มาตรวัดความเร็วจะแสดงผลเป็นเลขดิจิตอลขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางเรือนไมล์, ขยับลงมาอีกนิดจะเป็นช่วงการแสดงผลในหลายๆค่าด้วยกกันทั้ง ระยะทางรวม, ระยะทางทริป, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวม, อัตราเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบเรียลไทม์, ระดับความสว่างหน้าจอ, เวลา เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ด้วยปุ่มปรับข้างเรือนไมล์ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา, ส่วนแถบการแสดงผลด้านล่างสุดจะเป็นแถบระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในถังนั่นเอง น่าเสียดายที่ไม่มีไฟ Shift Light เหมือนอย่าง MT-15
|
|
เบ้ากุญแจของ Yamaha XSR155 จะอยู่ถัดมาจากแผงคอ หรือก่อนถังน้ำมัน ซึ่งจะมีฝาปิดแบบ Shutter มาให้เพื่อความปลอดภัยของตัวรถ
|
|
– Yamaha XSR155 มีถังน้ำมันขนาดความจุ 10 ลิตร ทรงคลาสสิค รองรับการใช้งานได้สูงสุดประมาณ 400 กว่ากิโลเมตร เพราะอัตราสิ้นเปลืองของเจ้า Yamaha XSR155 นั้นอยู่ที่ราวๆ 40-42 กิโลเมตร/ลิตร (เลขตรงนี้ผู้ทดสอบขี่แบบซัดแหลกพอประมาณนะครับ ดังนั้นหากใครมือเบาๆเชื่อว่าจะทำเลขได้ดีกว่านี้อีก) แปะเอมเบลมตัวอักษร “Y A M A H A” ด้านข้าง ขนาดด้านกว้างกำลังดี แต่เรื่องความยาวตัวถังถือว่าเยอะพอสมควรทำให้มีผลกับท่านั่งอยู่บ้าง ขณะที่เส้นสายรอบถังเห็นชัดเจน และมีทำมุมช่วงหว่างขาให้โค้งมนลงบ้าง แต่หากต้องนั่งชิดติดถังก็ยังรู้สึกถึงเหลี่ยมมุมช่วงหว่างขาอยู่ดี นอกนั้นในส่วนของการเกี่ยวถังเพื่อพลิกโค้งไปมาก็ยังถือว่าทำได้อย่างไม่ติดใจเท่าไหร่นัก
|
|
นอกจากนี้ตรงกลางครอบถังยังมีการทำดีไซน์ให้ดูคล้ายเข็มขัดรัดถัง ในแบบรถยุโรป พร้อมทำสีตัดโทนกับสีตัวถังรถคันนั้นๆ และมีการแปะเอมเบลม “XSR” ตรงกลางเพื่อเสริมเอกลักษณ์และความหรูหรา ส่วนฝาถังน้ำมันจะเป็นแบบ Airplane Cap ไม่ต้องถือให้เมื่อยมือเวลาเติมน้ำมัน
|
|
– ครอบแบตเตอรี่ ซ้าย/ขวา สีดำ แปะสติ๊กเกอร์ “XSR” พร้อมเพิ่มลูกเล่นอีกเล็กน้อยด้วยแผ่นอลูมิเนียมปิดช่วงซับเฟรม ซึ่งหากผู้ใช้อยากถอดออกแล้วเปลี่ยนเป็นแผ่นพลาสติกแปะหมายเลขประจำตัวเหมือนรถแข่งแทร็คเกอร์ก็สามารถทำได้ที่จุดนี้เลย
|
|
– เบาะนั่ง
Yamaha XSR155 จะเป็นรูปทรงคลาสสิคทรงขนมปังปอนด์ (อย่างพึ่งหิวกันนะครับ) บุโฟมหนานุ่มพอประมาณ กำลังนั่งสบายทั้งผู้ขี่ผู้ซ้อน ใช้เดินทางใกลได้หายห่วง หากเป็นตัวรถสีเงินจะพิเศษกว่าสีอื่นนิดหน่อยตรงที่มันจะเป็นรุ่นเดียวเท่านั้นที่ได้ใช้ชุดเบาะนั่งสีน้ำตาล นอกนั้นจะเป็นสีดำทั้งหมดดังที่เห็นในรูป
|
|
- มิติตัวรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก Yamaha XSR155
ความยาว 2,000 มม.
ความกว้าง 805 มม.
ความสูง 1,080 มม.
ความสูงเบาะ 810 มม.
ระยะฐานล้อ 1,330 มม.
วงเลี้ยว 2,200 มม.
น้ำหนักรวมของเหลว 134 กก.
|
|
– ท่านั่งผู้ขี่
แม้ความสูงเบาะตัวรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก Yamaha XSR155 จะอยู่ที่ 810 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ MT-15 แต่ด้วยความกว้างของช่วงเบาะและขนาดครอบถังช่วงหว่างขาที่บานออกมากกว่า จึงทำให้ผู้ขี่ต้องถ่างขาออกมาประมาณหนึ่ง ทว่าหากกล่าวถึงการวางเท้าบนพื้นก็ไม่ได้ต่างมากมายนัก เนื่องจากโช๊คของ Yamaha XSR155 จะยุบลงมากกว่า MT-15 ตอนนั่งคร่อมเล็กน้อยนั่นเอง ดังนั้นหากเป็นผู้ขี่ที่สูงมากกว่า 170 เซนติเมตรขึ้นไปนี่แทบจะใช้เท้าวางลงพื้นได้เต็มฝ่าทั้งสองข้างเลยล่ะครับ
ด้านตำแหน่งพักเท้าผู้ขี่นั้น ถือว่ามีความต่างจาก MT-15 พอประมาณ เพราะในฝั่งของสปอร์ตร่างเนคเก็ทนั้นจะจัดตำแหน่งค่อนข้างไปทางรถสไตล์โมตาร์ด (สูงและวางเยื้องไปด้านหลังเล็กน้อย) ทำให้ทั้งคันเกียร์และคันเบรกหลังต้องเหยียบแบบจิกปลายเท้า แต่ทว่าในฝั่ง Yamaha XSR155 นั้นจะเซ็ทใหม่ให้เขยิบมาข้างหน้า พอวางเท้าตำแหน่งจะอยู่เกือบเป็นแนวเดียวกับช่วงบั้นท้ายผู้ขี่พอดี ทำให้ช่วงขาตอนนั่งขี่นั้นถือว่าสบายมากๆเมื่อเทียบกับฝาแฝดที่เหลืออีก 2 คันของมัน
|
|
ส่วนลำตัวช่วงบนนั้นอาจจะด้วยความยาวของถังน้ำมันที่มากไปนิดดังที่เรากล่าวไปข้างต้น ทำให้ผู้ทดสอบรู้สึกว่าต้องโน้มตัวเพื่อจับแฮนด์บาร์ที่กว้าง (มาก)พอสมควร แม้ว่าความสูงของแฮนด์บาร์นั้นจะอยู่ในระดับที่สามารถยืนขี่เพื่อออกแอคชันในแบบสแครมเบลอร์ ได้อยู่บ้างก็ตาม แต่เนื่องจากตำแหน่งความสูงนั้น อาจจะไม่ได้สูงเท่าพวกรถ Scrambler นั่นจึงอาจทำให้ ผู้ขี่ที่สรีระตัวค่อนข้างยาว อาจจะไม่ถนัดเมื่อต้องยืนคอนโทรล
|
|
และหากพูดถึงท่วงท่าการขี่รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันนี้ แม้ในตอนแรกเราจะบอกว่าแฮนด์บาร์ของ Yamaha XSR155 นั้นทั้งกว้างและไกล แต่พอใช้งานจริงด้วยความที่หน้ารถที่หน่วงกว่า MT-15 เพียงนิดเดียวและน้ำหนักรถที่เคลมไว้ 134 กิโลกรัม รวมของเหลวกับน้ำมันเต็มถัง ทำให้ผู้ทดสอบสามารถพลิกเลี้ยวตัวรถได้อย่างคล่องตัวมากๆ ไม่พบการฝืนหรือเหวอแต่อย่างใด เป็นธรรมชาติสุดๆ จะติดก็แค่เพียงตอนมุดการจราจรที่ความสูงของแฮนด์บาร์ดันพอดีกับระดับกระจกของรถยนต์โดยส่วนมาก และความสูงของกระจกมองข้างก็ดันพอดีกับของรถกระบะยกสูงอีก จึงอาจจะต้องระวังพอสมควรสำหรับจุดนี้
-ท่านั่งผู้ซ้อน
ด้วยความที่เบาะของ Yamaha XSR155 ค่อนข้างยาว ทำให้แม้ผู้ขี่ตัวหนา ที่นั่งของผู้ซ้อนก็ยังเหลืออยู่ให้นั่งได้สบายๆ พักเท้าวางตำแหน่งค่อนไปทางด้านหน้านิดๆขณะที่เรื่องความสูงก็หายห่วงเพราะช่วงเบาะผู้ซ้อนนั้นวางระนาบแทบจะเดียวกันกับของผู้ขี่
|
|
– เครื่องยนต์
สำหรับเครื่องยนต์ของ Yamaha XSR155 จะเป็นแบบบล็อกสูบเดียว 155cc SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ พื้นฐานเดียวกับ MT-15 และ YZF-R15 แต่สำหรับเครื่องยนต์ของ Yamaha XSR155 นี้จะถูกปรับจูนใหม่ให้มีความกระชากออกตัวน้อยลงจากรถทั้ง 2 คันที่เรากล่าวมาก่อนหน้า แต่แลกมาซึ่งความนุ่มนวลในการใช้งานแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเกียร์ 2-6 และด้วยระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ใส่เพิ่มเข้ามา ทำให้ย่านกำลังที่สามารถเรียกใช้งานได้ค่อนข้างกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 5,000 – 9,000 รอบ/นาที (VVA เริ่มทำงานตั้งแต่ 7,000 รอบ/นาที) หากใช้งานในเมืองถือว่ากำลังสนุก สำหรับเกียร์ 1-5 เพราะไม่ดีดจนเกินไป แต่ก็ไม่เนือยเกินไปจนน่าเบื่อ สามารถเค้นรอบจนถึงเรดไลน์พร้อมเรียกความเร็ว 0-130 ได้อย่างสนุกมือ (ถ้าเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ในคลาส 150cc ด้วยกันนะครับ)
|
|
อย่างไรก็ดีหากเป็นที่เกียร์ 6 ถ้าขี่มาด้วยความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากไม่เชนจ์เกียร์ลงจะสัมผัสได้ชัดเจนว่ารถมีอาการห้อยหรือความเร็วไม่ยอมใต่ขึ้นเกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากไม่หมอบช่วย อาจจะด้วยรูปทรงที่ไม่ลู่ลมเท่าไหร่นัก (จริงพอขึ้นสัก 110 กิโลเมตร/ชั่วโมงนิดๆ ความเร็วก็จะเริ่มไหลขึ้นช้าลงทีละนิดๆแล้ว สำหรับการขี่ที่เกียร์ 6 โดยไม่เชนจ์ลง) ส่วนความเร็วสูงสุดที่ผู้ทดสอบทำได้ก็อยู่ที่ 142 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่รอบยังเหลืออีกประมาณ 1,000 รอบ/นาที ไม่ต่างจาก MT-15 มากนักในเรื่องความเร็วสูงสุด เพียงแค่ขึ้นช้ากว่า ด้วยรูปทรงรถและการจูนอัพเครื่องยนต์ดังที่เรากล่าวไปก่อนหน้า
|
|
ขณะที่ตัวชุดเกียร์ก็แน่นอนว่าใน Yamaha XSR155 คันนี้ มีระบบแอสซิสต์&สลิปเปอร์คลัทช์มาให้ด้วย ดังนั้นหากขี่มาด้วยความเร็วสูงๆแล้วต้องการเบรกหนักๆพร้อมเชนจ์เกียร์ลงเร็วๆ อาการล้อหลังล็อคสไลค์แทบจะไม่มีให้รู้สึกเลย ดังนั้นมันจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจในการคอนโทรลรถช่วงก่อนเข้าโค้งได้ดีมาก และผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือน้ำหนักก้านคลัทช์จะเบาหวิวจนสามารถใช้นิ้วก้อยนิ้วเดียวเกี่ยวได้สบายๆ ทำให้การใช้งานในเมืองที่ต้องกำคลัทช์เปลี่ยนเกียร์บ่อยๆนั้นสะดวกสบายกว่ารถที่ใช้ระบบคลัทช์ธรรมดาๆพอสมควร
|
|
– ระบบกันสะเทือนของรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก Yamaha XSR155
โช้กคู่หน้าตะเกียบหัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร
|
|
ด้านหลังโช้กเดี่ยวทำงานร่วมกับกระเดื่องทดแรง และสวิงอาร์มอะลูมิเนียม โดยรวมเซ็ตให้มีความนุ่มและหนืดกว่า MT-15, YZF-R15 พอประมาณ รองรับการใช้งานแบบท่องเที่ยวได้สบายๆ และแม้ว่ายางหน้า/หลัง ที่ติดรถมาจะเป็นยางเทรลก็ตาม แต่ผู้ทดสอบกลับรู้สึกว่าตัวรถสามารถดูดไปกับโค้งได้อย่างนิ่มนวล มากกว่าจะจิกไปกับโค้งแบบกระฉับกระเฉงอย่างฝาแฝดร่างเน็กเก็ต ทว่าหากสาดโค้งแรงๆ ช่วงท้ายก็จะมีอาการย้วยโยกขึ้นลงช้าๆ อยู่บ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้วสำหรับการเซ็ตโช้กแบบนี้
|
|
นอกจากซับแรงกระแทกจากผิวถนนได้ดีมากแล้ว หรือเอาไปรูดผิวทางขรุขระอย่างเช่น ทางกรวด ทางดินแดง ก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน เนื่องจากทางวิศวกรตั้งใจให้ตัวรถมีกลิ่นอายความเป็นสแครมเบลอร์หน่อยๆ อยู่แล้ว (ขอบอกเลยว่าสนุกมากกก)
|
|
– ระบบเบรก Yamaha XSR155
ด้านหน้าเป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 267 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับชุดปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 2 ลูกสูบ / ด้านหลังเป็นแบบจานเดี่ยว แต่ใช้จานขนาด 220 มิลเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 ลูกสูบ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็ยกชุดมาจาก MT-15 เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าแตกต่างกันเท่าไหร่นักใน Yamaha XSR155 คันนี้ กล่าวคือเรายังสามารถไล่น้ำหนักเบรกของเจ้านี่ได้ดี หยุดได้ดั่งใจ หายห่วง แม้ว่ายางที่ใส่มาจะเป็นยางเทรล แต่หากเจอทางเปียกขึ้นมาก็อาจจะต้องระวังกันหน่อยนะครับ เนื่องจากมันยังไม่มีระบบ ABS ติดมาให้ ซึ่งผู้บริหารก็ได้บอกกับเราไปแล้วว่า การที่เขาไม่ใส่ ABS เนื่องจากผู้บริหารมองว่า ABS ใช้เฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น แต่ Slpper Clutch ได้ใช้ ตลอดเวลาที่เราขับขี่
|
|
– ชุดล้อ
เป็นแบบอลูมินัมอัลลอยด์ ลาย 5 ก้านตัว Y ขนาดขอบ 17 นิ้ว ซึ่งก็ยกมาจาก MT-15/YZF-R15 อีกตามเคย แต่ที่พิเศษกว่าคือสำหรับล้อของ Yamaha XSR155 มันจะถูกรัดด้วยยาง IRC รุ่น Trail Winner ด้านหน้าไซส์ 110/70-17 และ 140/70-17 ไม่ใช่ Road Winner เหมือนแฝดสปอร์ท ร่างเนคเก็ทและสปอร์ต-เรพลิก้า
|
|
ซึ่งหากมองผิวเผินแล้ว เพื่อนๆหลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วมันจะเกาะเท่ากับยางที่เน้นถนนดำเป็นหลักหรือไม่ ? งานนี้เราบอกได้เลยครับว่าไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะมันเกาะโค้งดีใช้ได้ (เผลอๆจะรู้สึกว่าดีกว่ารุ่น Road เสียด้วยซ้ำ) และในขณะเดียวกันถ้าจะเอาไปลุยทางกรวดก็หายห่วงครับ เพราะด้วยดอกยางแบบนี้ มันรองรับการตะกรุยกรวดละเอียดหรือดินแห้งๆแข็งๆได้ดีอยู่แล้ว
|
|
สรุปแล้วรีวิวรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก Yamaha XSR155 ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นรถที่เปิดตัวในไทยที่แรกในโลก ดีไซน์โดยคนไทย ผลิตในประเทศไทย ส่งขายทั่วโลก นับว่าประสบความสำเร็จมากๆ เรียกได้ว่าความงามไม่แพ้รุ่นพี่ XSR700, XSR900 ขณะที่ด้านของสมรรถนะนั้นเรียกได้ว่า ขี่ดี, สนุก ตอบโจทย์การใช้งานไม่ว่าจะขี่หล่อๆ เน้น Lifestyle หรือจะขี่เพื่อใช้งานในเมืองก็เหมาะสม
ที่สำคัญราคาที่ประกาศออกมาถูกกว่า MT-15 เสียอีก โดยปกติแล้วหากเทียบ XSR ในพี่ใหญ่ มักจะมีราคาแพงกว่าตระกูล MT-Series แต่การประกาศทำราคา 91,500 บาท ในครั้งนี้ ถือได้ว่าผู้บริหารเปิดราคาเพื่อเอาใจคนไทยที่รักการขี่โดยเฉพาะ
|
|
Yamaha XSR155 ราคา 91,500 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ขาวแดง, ดำ, เขียว และ สีเงิน เบาะน้ำตาล
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปรับชมตัวจริงได้ที่ Yamaha Square ทั่วประเทศ หรือ คลิก!!เช็ค Spec ของ All New Yamaha XSR155 ได้ที่นี่
|