Reviews
หมดปัญหา!! ต้นจัดแต่ปลายแผ่ว หรือปลายไหลแต่ต้นหาย ด้วยเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน VVA
เชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ค้างคาใจเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลายอยู่ไม่น้อย เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่มีแรงบิด (ทอร์ค) ต้นที่จัดจ้านมากๆ แต่เมื่อไต่ไปถึงความเร็วปลายกลับแผ่วเอาดื้อๆ หรือว่ารถบางรุ่นที่ความเร็วปลายนั้นไหลลื่น แต่กว่าจะไต่ไปถึงจุดนั้นก็เหนื่อยใจกันเหลือเกิน เพราะทอร์คนั้นน้อยมากๆ ต้องคอยเลี้ยงรอบให้มากังวลกันอีก แถมหากอยากได้แรงบิดที่สั่งได้ ก็ต้องใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงอยู่ตลอด ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
ดังนั้นแล้วจึงเป็นที่มาของเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน VVA (Variable Valve Actuation) ซึ่งเป็นนวัตกรรมครั้งแรกในรถจักรยานยนต์บ้านเราที่นำระบบวาล์วแปรผันที่ใช้ในรถยนต์มาใช้ในรถจักรยานยนต์ เพื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้ ด้วยหลักการทำงานที่เน้นให้เครื่องยนต์นั้นมีกำลังเพิ่มขึ้นและช่วยเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงไปในตัวด้วย และในทางเดียวกันค่ามลพิษหากวัดจากเครื่องยนต์ของระบบนี้ก็ถือว่าน้อยมากๆ และทางด้าน Yamaha ก็ได้เลือกใช้เทคโนโลยีตรงนี้กับเครื่องยนต์แบบ BLUE CORE (บลูคอร์) ในรถ Yamaha NMAX (ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์) นั่นเอง
ซึ่งส่วนประกอบหลักๆ ของระบบ วาล์วแปรผัน VVA นั้นจะมีสองอย่างคือกระเดื่องวาล์วต่ำและกระเดื่องวาล์วสูง ที่ต่างทำหน้าที่ควบคุมวาล์วไอดีซึ่งกระเดื่องวาล์วสูงจะเปิดวาล์วไอดีกว้างกว่ากระเดื่องวาล์วต่ำ เพื่อช่วยรักษากำลังของเครื่องยนต์ไว้ที่ความเร็วรอบเครื่องสูงกว่า 6,000 รอบต่อนาที นั่นก็หมายความว่าระบบ VVA นั้นจะทำงานแบบอัตโนมัติทันทีเมื่อรอบเครื่องยนต์นั้นสูงกว่า 6,000 รอบ (ซึ่งหากรอบต่ำกว่านั้นระบบก็จะยังไม่ทำงาน) โดยที่ตัวโซลินอยด์ ซึ่งเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าจะรับกระแสไฟฟ้าตามคำสั่งของ ECU เพื่อดันสลักซิงโครไนซ์ และทำให้การเคลื่อนตัวขึ้นและลงของกระเดื่องวาล์วต่ำ ปรับเป็นจังหวะเดียวกันกับกระเดื่องวาล์วสูงในที่สุด จนส่งผลให้เกิดการเปิดและปิดวาล์วไอดีกว้างขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ประสิทธิภาพของอัตราเร่งย่านนี้นั้นยังคงจัดจ้านอยู่นั่นเอง
หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ให้ลองนึกถึงจังหวะการหายใจของตัวเราเองดู หากว่าเรากำลังเดินช้าๆ แต่ดันหายใจถี่และแรง มันก็ไม่เหมาะทำให้เหนื่อยเกินความจำเป็น ในทางกลับกันหากกำลังวิ่งเร็วๆ อยู่แต่กลับหายใจอย่างช้าๆ ค่อยๆ ก็จะกลายเป็นหายใจไม่ทันและไม่มีแรงจะวิ่งกันต่อไปในที่สุด สรุปก็คือเราจะต้องแปรผันจังหวะการหายใจของเราให้เหมาะสม กับเครื่องยนต์ก็เช่นเดียวกัน ระบบ VVA จึงถือกำเนิดมาเพื่อช่วยในการแปรผันการเปิดวาล์วให้เหมาะสมที่สุดกับความเร็วของรอบในแต่ละช่วงการทำงานนั่นเอง
ดังนั้นแล้วกับรถ Yamaha NMAX (ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์) ก็มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ของตัวรถนั้นจะให้กำลังที่ดีที่สุดในทุกย่านความเร็ว จากตรงนี้เองจึงส่งผลให้ขี่สนุก บิดติดมือแบบไม่ต้องกังวลในเรื่องรอบ และยังช่วยให้การใช้พลังงานเชื้อเพลิง (น้ำมัน) นั้นเป็นไปอย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย ซึ่งตรงนี้น่าจะตอบโจทย์เพื่อนๆ ชาวไบค์เกอร์หลายๆ คนที่อยากได้รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจสักคัน ที่มีคาแรกเตอร์ของระบบเครื่องยนต์แบบนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้กับรถ Yamaha MMAX (ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์) โดยเฉพาะ คลิกเพื่อเช็ค Spec และรายละเอียดเพิ่มเติมของ Yamaha NMAX ได้ที่นี่ และ สามารถคลิกที่นี่เพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของเรา สำหรับในวันนี้ขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ สำหรับบทความฉบับต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรนั้น สามารถติดตามได้ที่นี่เร็วๆนี้ ขอบคุณครับ