|
เปิดประวัติมอเตอร์ไซค์ MAX Series ออโตเมติกพรีเมียมสปอร์ต
เชื่อเหลือเกินว่าเพื่อนๆ ชาวมอเตอร์ไซค์นั้น ย่อมที่จะรู้จักกับตระกูล MAX Series จากทางค่ายดังอย่าง Yamaha แน่ๆ ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกใช้กับรถสกู๊ตเตอร์คันเก่งหลากหลายรุ่น ที่ออกมาโลดแล่นบนท้องถนน แต่อยากรู้กันไหมว่า จุดเริ่มต้นนั้นมีที่มาอย่างไร กว่าจะเดินทางมาถึงทุกวันนี้ ครั้งนี้เราจะพาไปเจาะลึกแบบละเอียดสุดๆ กับที่มาของ Max Series!
|
|
จุดเริ่มต้นในการก่อกำเนิด รถซูเปอร์ออโตเมติก MAX Series
|
|
ย้อนหลังกลับไปในปี 1995 ทางค่าย Yamaha ได้ทำการเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์รุ่นแรกสุดอย่าง Majesty ในพิกัด 250cc ที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างดี และหลังจากนั้นได้มีการพัฒนาต่อยอดมาสู่ TMAX รุ่นแรกที่มีพิกัดใหญ่ขึ้นที่ 500cc พร้อมกับแนวคิดรถแบบ “ซูเปอร์ออโตเมติก” ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในยุคนั้น รวมเข้ากับการออกแบบที่ล้ำสมัย และได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ซึ่ง TMAX นั้นนับได้ว่าเป็นรถรุ่นแรกสุดของ MAX Series และถูกนำเอา DNA จากรถรุ่นนี้สืบทอดลงมาสู่รุ่นน้องอย่าง XMAX และ NMAX ซึ่งทั้ง 2 รุ่นหลังนั้นจะให้การขับขี่ที่มีความคล่องแคล่ว สปอร์ต และมีความสะดวกสบายในตัว โดยได้รับการพิสูจน์จากลูกค้าจำนวนมากแล้วว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน โดยหัวใจสำคัญของรถใน MAX Series นั้นก็คือ สมรรถนะในการขับขี่ ทั้งทางตรง ทางโค้ง และการเบรก ที่สอดคล้องกันอย่างลงตัวนั่นเอง
|
|
ดังนั้นแล้วเราสามารถพูดได้เต็มปากว่า หากไม่มี Majesty นั้น ก็อาจจะไม่มี MAX Series ในปัจจุบันนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเจ้า Majesty ได้รับการออกแบบพัฒนามาในแนวรถสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะที่พาให้คุณเดินทางไปยังจุดหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเน้นความสนุกสนานในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถแนวสปอร์ตไบค์ด้วย ด้วยมิติของตัวรถที่กว้างขวาง การทำแอโรไดนามิกที่ดี เครื่องยนต์อันทรงพลัง เลยทำให้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในญี่ปุ่นขณะนั้น ก่อนจะไปสร้างความนิยมกันต่อในทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี ที่ขึ้นชื่อว่ามีรถสกู๊ตเตอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ Yamaha ก็สามารถเจาะตลาดได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยหัวหอกอย่าง Majesty นั่นเอง ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวสำหรับการจราจรที่ติดขัด ความสะดวกสบายในการเดินทาง และความสนุกสนานของอัตราเร่งและการเข้าโค้ง จึงเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนอิตาลี ที่มีความหลากหลายของสภาวะการขับขี่เอามากๆ
|
|
จากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่ทาง Yamaha ได้สังเกตเห็นนั้น จึงทำให้ต้องการที่จะพัฒนาอะไรที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีก จนนำมาสู่ TMAX รถซูเปอร์สปอร์ตแบบออโตเมติกรุ่นแรกของตระกูล MAX โดยทีมวิศวกรที่ออกแบบรถรุ่นนี้ ต่างก็เคยทำงานกับรถสปอร์ตของทาง Yamaha มาก่อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแชสซี หรือว่าเครื่องยนต์ จึงไม่แปลกใจที่ TMAX นั้นจะมีความเป็นสปอร์ตในตัวอยู่มากๆ ทั้งๆที่อยู่ในร่างของรถสกู๊ตเตอร์
|
|
เพื่อให้ตัวรถ TMAX 500cc รุ่นแรกที่จะถือกำเนิดออกมานั้นมีทั้งพละกำลังที่มากขึ้นกว่า Majesty 250cc ทางทีมวิศวกรของ Yamaha รู้ว่าการจัดวางสวิงอาร์มแบบยูนิตของรุ่น Majesty ไม่เหมาะกับงานนี้ เพราะว่า TMAX นั้นจะมีเรี่ยวแรงของอัตราเร่งที่สูงกว่า ใช้ระบบขับเคลื่อนที่ใหญ่ขึ้นและมีน้ำหนักมากกว่า จึงได้มีการพัฒนาสวิงอาร์มใหม่ขึ้นมาเพื่อเจ้า TMAX โดยเฉพาะ ประกอบกับหัวใจสำคัญอย่างการออกแบบเพลาบาลานเซอร์ในลูกสูบ (TMAX มี 2 ลูกสูบ) ทำให้เมื่อมองดูเครื่องยนต์ของ TMAX จากภายนอกแล้ว จะคล้ายๆ ว่าเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 สูบนั่นเอง โดยลูกสูบที่หันหน้าไปทางด้านหลัง จะทำหน้าที่เป็นตัวปรับสมดุลในการขับขี่ให้กับตัวรถ
|
|
นอกจากนั้นแล้ว การจัดระบบขับเคลื่อน ยังถือว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์ด้วย ซึ่งพวกเขาได้เลือกใช้การแยกระบบ CVT และระบบขับเคลื่อนออกจากกัน เพื่อส่งกำลังจาก CVT ไปยังล้อหลังผ่านทางเฟืองขับและโซ่ ในลักษณะเดียวกันกับรถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ปกติ และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือ TMAX ยังมีเฟืองอีกตัวหนึ่งที่อยู่ระหว่างเฟืองขับหลัก และเฟืองตัวสุดท้าย ในรูปแบบการขับเคลื่อนด้วยโซ่แบบสองขั้น ทำให้การส่งกำลังนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยจะสังเกตได้ว่า TMAX มีระบบการขับเคลื่อนแบบเดียวกันกับรถสปอร์ตไบค์แบบมีเกียร์ และใช้สวิงอาร์มอิสระทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหลัง ที่นอกจากจะได้เปรียบทางด้านสมรรถนะแล้ว สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดยังสื่อให้เห็นชัดเจนว่า แม้ TMAX จะเป็นรถสกู๊ตเตอร์แบบออโตเมติก แต่ก็มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตไบค์อยู่อย่างเต็มตัว
|
|
ในขณะที่การพัฒนาดำเนินการไป TMAX นั้นถูกเรียกตามชื่อรหัสของโปรเจ็กต์ว่า R5 ตรงนี้เพื่อนๆ น่าจะร้องอ๋อกันแล้วใช่ไหม เพราะมันสามารถเปรียบเสมือนได้ว่า มันคือหนึ่งใน R-Series รถสปอร์ตตระกูลดังจากทางค่าย Yamaha เช่นเดียวกันกับ R1, R7 หรือ R6 นั่นเอง ซึ่งเป็นความจงใจโดยตรงของทางทีมพัฒนา ที่จะทำให้เจ้า R5 หรือ TMAX นั้น มีความเป็นสปอร์ตในตัวด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษาจุดเด่นของรถในแนวสกู๊ตเตอร์ ที่จะต้องมีความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือออกทริปเดินทางไว้ด้วย จึงเป็นที่มาของแนวคิด “ซูเปอร์ออโตเมติก” อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นนั่นเอง
|
และเพื่อให้แนวคิดนี้กลายเป็นความจริง ทางทีมพัฒนาจึงต้องออกแบบระบบแอโรไดนามิก (หลักอากาศพลศาสตร์) ที่ยอดเยี่ยมให้ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ขับขี่ใช้ความเร็วที่ 140 กม./ชม. แต่สวมชุดสูทผูกไทอยู่ จะเป็นอย่างไร? หากต้องปะทะกับลมที่แรงในความเร็วระดับนั้น (เพราะคนที่ขับขี่ TMAX ส่วนมากจะไม่ได้ใส่เรซซิ่งสูท แต่จะแต่งตัวตามปกติในชีวิตประจำวันมากกว่า) ซึ่งสุดท้ายได้ผลลัพธ์ของการออกแบบแฟริ่งภายนอกตัวรถ ชิลด์กันลม และองค์ประกอบต่างๆ ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี และมั่นใจว่าสถานการณ์ตามที่ยกตัวอย่างมา จะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
|
|
|
ในที่สุดการพัฒนาของ TMAX รุ่นแรกก็เสร็จสมบูรณ์ในปี 2001 นับเป็นเวลา 6 ปีหลังจากที่ Majesty เปิดตัวในปี 1995 และหลังการเปิดตัวก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จากทางลูกค้า และสร้างชื่อเสียงกระจายไปเป็นวงกว้าง ตรงนี้จึงถือเป็นจุดกำเนิดของ MAX Series ที่เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะกลายมาเป็นรากฐานที่สำคัญของ MAX Seires รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน
|