ครั้งแรกในไทยพร้อมลงทดสอบกันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ แบบเน้นความแรง และความคล่องตัวไปพร้อมๆกัน แน่นอนเลยว่าเราจะรีดสมรรถนะตัวรถออกมาได้อย่างง่ายดายเพราะมันคือ สนามแข่งระดับโลก รีวิวครั้งนี้จะถูกใจนักทดสอบไหม..ไปลุยกัน
เน็กเก็ตไบค์ที่ทางยามาฮ่าดีไซน์หน้าตาใหม่ ดุดัน มีความสปอร์ตมากขึ้น เส้นสายของหน้ารถดูเหลี่ยมคมเหมือนคนไปศัลยกรรมมา ไฟหน้าแบบ Ultra-Compact Twin Projecter ไฟคู่สูง-ต่ำในโคมเดียวกัน จอเรือนไมล์แบบ TFT จอสีที่แสดงผลต่างๆของตัวรถแบบครบครัน
สามารถปรับธีมการแสดงผลได้ ช่วงแฮนด์บาร์ต่ำลงเล็กน้อย เบาะดีไซน์ใหม่ช่วงขาแคบลงทำให้การขยับตัวขณะขับขี่ดีกว่าเดิม
ตัวถังน้ำมันการออกแบบใหม่ ต่ำลง 30 มิลลิเมตร มีความกว้างมากขึ้น 60 มิลลิเมตร ออกแนวรถซูเปอร์สปอร์ต ทำให้ดูลับเหลี่ยมลับคมของด้านหน้าออกมาได้เป็นอย่างดี ดุดัน เหมาะกับความเป็น Dark Side มากๆ
เครื่องยนต์ CP3
เครื่องยนต์ Crossplane 3 สูบ ผ่านมาตรฐาน Euro5+ เอกลักษณ์เฉพาะตัว ความจุ 890 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 119 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ถือว่าให้แรงบิดตั้งแต่รอบต้นๆ เลยนะเนี่ย คันเร่งไฟฟ้า YCCT เป็นเซ็นเซอร์มาช่วยควบคุมการเปิดคันเร่ง บิดมาตามมือเลยนะ
ตัวเกียร์แบบ 6 สปีด พร้อม Quickshifter รุ่นใหม่ที่พัฒนามาจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า เปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัตซ์ เมื่อความเร็วเกิน 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีสลิปเปอร์คลัตซ์ช่วยให้การขับขี่ได้อรรถรสมากขึ้นกว่าเดิม
SP พิเศษที่ช่วงล่างใหม่คล่องขึ้น
โช้คหน้าเป็นติดมาจากโรงงาน เป็นของ KYB แบบ Upside down ขนาด 41 มิลลิเมตร เพิ่มค่าความแข็งของสปริงขึ้นมาหนึ่งเบอร์ พิเศษด้วยตัวแกนโช้คหน้าถูกเคลือบ DLC (ในรุ่น SP) ช่วยลดความร้อนจากการเสียดสี ให้โช้คอัพทำงานดีกว่าเดิม
ส่วนโช้คอัพหลังที่ให้มาเป็นของ Ohlins ตรงรุ่น แบรนด์นี้ไม่ได้ต้องพูดถึงฟีลลิ่งดีแน่นอน มาพร้อมรีโมทปรับค่าของตัวโช้คได้แบบเต็มระบบ Compress Rebound Pclassoad
พูดถึงตัวเบรกกันบ้าง ปั๊มกระทุ้งบนเป็นของ Brembo เบอร์ 16 สามารถปรับระยะก้านเบรกได้ ส่วนด้านล่างเป็นดับเบิ้ลดิสก์เบรกคู่ คาลิเปอร์เบรกด้านหน้าเป็นของ Brembo แบบเรเดียลเมาท์ Monoblock Stylema มาในตัว SP
และตัว STD จะให้ปั๊มเรเดียลเมาท์ของ ADVICS 4 ลูกสูบมาให้ พร้อมจานดิสก์ขนาด 298 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวของ NISSIN ระบบเบรก ABS สามารถเปิด-ปิดได้ตามใจชอบ รวมไปถึงนักซิ่งสายสนามอยากได้ฟีลลิ่งสไลค์เน้นๆ สามารถปิดเฉพาะล้อหลังได้
ตัวล้อ 17 นิ้วมาพร้อมกับยาง BRIDGESTONE BATTLAX HYPERSPORT S23 ยางหน้า 120/70 ZR17 ยางหลัง 180/55 ZR17 โปรไฟล์ยางแบบสปอร์ตตัวใหม่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆในปี 2024 ใส่ติดรถมาให้จากโรงงานเลย
ตัวใหม่เจนสี่ตัวนี้ปรับองศามุมเลี้ยวใหม่ให้แคบลงกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ ทำให้เลี้ยวง่ายขึ้นคล่องขึ้นกว่าเดิม เฟรมที่มารอบนี้ก็เป็นเฟรมใหม่อลูมิเนียม หล่อขึ้นรูป CF (Controlled Fillng) ปรับจุดติดตั้งตัวโช้คหลังใหม่ให้มีเดือยทำงานกับสวิงอาร์มได้ดีมากขึ้น ซึ่งยามาฮ่าทำการบ้านตรงนี้มาเพื่อที่จะปรับท่านั่งให้สบายขึ้น บังคับเลี้ยว ขับขี่ได้ง่ายมากขึ้น
Riding Mode
นอกเหนือจากโหมดการขี่ 3 โหมด Sport, Street, Rain ที่ตั้งค่าจากโรงงานและยังสามารถ Custom ได้อีก 2 โหมดตามใจชอบแล้ว ในรุ่น MT-09 SP ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า โหมด TRACK ที่เหมาะกับสายแทร็กเดย์ สายสนามแข่ง ที่จะสามารถซิ่งได้มากขึ้น
เทคโนโลยี IMU แบบ 6 แกน ที่จะมาช่วยรักษาสมดุลของตัวรถเพราะเจ้า IMU ตัวนี้จะมีระบบแกนที่จะช่วยทำให้อยู่ในสภาวะมั่นคงขนานกับพื้นผิวโลกมากที่สุด ความปลอดภัยมากก่อนเสมอ
ระบบฟังก์ชันแบบชาญฉลาดที่อยู่ในเจนสี่
PWR – แมพปิ้งกำลังเครื่องยนต์ ตอบสนองตามระดับ
TSC – ระบบแทร็กชั่นป้องกันล้อหน้าหลังหมุนไม่เท่ากัน
SCS – ระบบสไลค์คอนโทรลมีในล้อหลัง ระดับการปล่อยให้สไลค์
LIF – ระบบป้องกันล้อหน้าลอย BC – ระบบเบรกคอนโทรล ทำงานพร้อม ABS
QSS – ระบบควิกซิฟ การตอบสนองการเปลี่ยนเกียร์
BSR – ระบบใหม่ ที่จะมาช่วยทำให้ล้อหลังมีการยึดเกาะมากขึ้น
EBM – ระบบที่จะมาปรับระดับเอ็นจินเบรกได้ (SP Only)
เทคโนโลยีที่จะมาช่วยให้การขับขี่ใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น เริ่มที่แอฟพลิเคชั่น MY Ride ที่เป็นแอพต่อสมาร์ทโฟนเฉพาะยามาฮ่าเท่านั้นที่จะเป็นการเตือนการโทรเข้า ข้อความ การฟังเพลง รวมไปถึงตัวแอปพลิเคชัน Garmin Street Cross ใช้ในการเดินทางง่ายยิ่งขึ้น
และระบบกุญแจอัจฉริยะแบบ Smart Key ที่ใช้สำหรับสตาร์ทตัวรถ และเปิดฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้ง่ายมากขึ้น แถมมีเทคโนโลยี Cruise Control ที่จะช่วยให้การเดินทางไกลสบายมากขึ้นไปอีกด้วย
ราคาคุ้มค่า
New MT-09 SP เปิดราคา 489,000 บาท
– โช้คหน้า KYB เคลือบ DLC
– โช้คหลัง Ohlins Full Adjust
– เบรก Brembo Stylema 4 pot
– กุญแจ Smart Key System
– โหมด Track
– ดีไซน์ สี ได้แรงบันดาลใจจาก R1M
New MT-09 STD เปิดราคา 447,000 บาท
ฟีลลิ่งทดสอบแบบสายสนาม..!!
ยามาฮ่าไรเดอร์คลับจัดให้สำหรับให้สื่อมวลชนได้ทดสอบ เพื่อสัมผัสสมรรถนะตัวรถได้อย่างเต็มพิกัด โดยเน้นความคล่องตัวมากขึ้น เพราะตัวรถมีการปรับองศาการเลี้ยวใหม่
ตำแหน่งพักเท้าใหม่ รวมไปถึงตัวแฮนด์บาร์ที่มีระดับต่ำลง เอาง่ายๆเลยว่า สปอร์ตขึ้น บังคับเลี้ยวดีขึ้นกว่าเดิม..
ท่านั่งสปอร์ต เลี้ยวง่าย
มันเลี้ยวง่ายจริงๆนะ องศาแผงมุมแผงคอแคบลงทำให้หน้ารถจิกพื้นมากขึ้น ส่งผลทำให้เลี้ยวคมขึ้น แต่ต้องให้คุ้นชินมือหน่อยนะ เพราะด้วยคันเร่งที่เบาแล้วรถแรงหน้าจะลอยๆเสียอาการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเพราะถ้าคุ้นกับชินคันเร่งจังหวะดีๆก็ขับได้สบาย
ตัวผมเองให้เวลาปรับตัวไม่นานรู้สึกได้เลยว่าเลี้ยวดีจริงๆ ส่วนท่านั่งถ้าใครเคยขับ เจน 3 มาก่อนจะรับรู้ได้เลยว่าท่านั่งออกแบบมาสปอร์ตมากขึ้นองศาวางตำแหน่งพักเท้าสูงขึ้น ตัวโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อยรู้สึกได้ถึงความสปอร์ตมานิดนึงแต่ก็ยังให้ความเป็นเน็กเก็ตไบค์มากกว่า
กำลังเหลือใช้
เครื่องยนต์ Crossplane ตัวนี้มีกำลังทอร์คให้ใช้แบบเหลือๆเลย ยิ่งช่วงที่เดินคันเร่งออกจากโค้ง 1 ไปยังโค้ง 3 ทางตรงยาวที่สุดของสนามช้างความเร็วเกียร์ 6 สามารถทำได้ทะลุ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมได้สอบถามกับ อาจารย์เป็ด วรวุฒิ พุทโธ สามารถทำได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เอาเข้าจริงๆ ขี่บนถนนไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แค่เกียร์ 3 กลางๆ บิดคันเร่งครึ่งเดียวรถก็พุ่งแล้ว เครื่องยนต์ตัวนี้เน้นทอร์คมาตั้งแต่รอบต่ำๆ บิดเป็นมา ยิ่งมีตัวควิกชิพเตอร์นะเสียงเครื่องทะลุถังน้ำมันขึ้นมาเลย การันตีเครื่องตัวนี้ถูกใจสายซิ่งดีทีเดียว
ช่วงล่าง Ohlins+KYB+Brembo+BATTLAX
เริ่มกันที่ตัว SP ก่อนเลยจับครั้งแรกก็รู้สึกได้ถึงการเลี้ยวได้ดี การเดินคันเร่งในโค้งกว้างๆ ช่วงโค้งต่อเนื่อง 5-6-7 ตัวรถมีกริบการยึดเกาะ สามารถเดินคันเร่งในโค้งได้ดีเลย ส่วนตัวเบรก Brembo จะช่วยในส่วนของความละเอียด เพราะลูกสูบมีขนาดใหญ่สามารถลีนเบรกช่วงเข้าโค้งได้ดี
และจะเห็นผลในโค้ง 12 แบบหักศอก ที่ต้องใช้กำลังความสามารถของเบรกมากพอสมควร บอกเลยว่าเอาอยู่สบายๆ แน่นอนละ การยอมจ่ายอะไรที่มากกว่าย่อมได้อะไรที่ดีกว่าอยู่แล้ว ให้มาขนาดนี้แล้วผมก็อยากให้ใส่กันสะบัดอีกสักตัวนะ แจ๋วเลย
ตัว STD ก็ใช้ได้นะฟีลช่วงล่างไม่ได้น่าเกลียดอะไรขนาดนั้น โช้คหน้าก็ทำงานได้ดี แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น จุดเบรกที่ลึกขึ้นก็ต้องแม่นยำหน่อย เบรกได้ดีเหมือนกัน แต่ฟีลลิ่งสู้ชื่อชั้นของแบรนด์หลักติดตัวในรุ่น SP ไม่ได้แน่ๆ
สรุปให้เลยแล้วกัน
การทดสอบ รีวิว MT09 SP 2024 เจนเนอร์เรชันที่ 4 ใหม่นี้ บอกได้เลยว่าใครที่กำลังหารถเน็กเก็ตไบค์ที่ขี่คล่องตัว คันเร่งเบาๆ ขี่สนุกๆ ต้องมองคันนี้ เพราะมันคือเน็กเก็ตไบค์ที่มีทรง เครื่องยนต์ทอร์คเยอะๆ ช่วงล่างตัวท็อปสายถนน
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ติดมาให้พร้อมใช้แบบรถ SuperBike ราคาไม่เกินครึ่งล้าน ถือว่าตีโจทย์ออกมาได้ดีเลย ส่วนครั้งหน้า ต้องมีทดสอบแบบสายถนนกันหน่อย แบบใช้งานในเมือง ซอกแซก ติดตามเราได้เลย มันส์แน่นอน..
แหล่งข้อมูลจาก :
https://www.motocrossmag.co.th