ชมวีดีโอ

BLOG

รีวิว Yamaha Tracer 9 GT สปอร์ตทัวร์ริ่งฟีเจอร์สุดล้ำ ขุมพลัง CP3 อัปเกรดใหม่ โคตรแรง!!

22

ก.พ. 66

Review-Yamaha-Tracer-9-GT

รีวิว Yamaha Tracer 9 GT มอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่งฟีเจอร์สุดล้ำ

มีไม่บ่อยครั้งที่ทีมงาน Autostation.com ของเรา จะไปออกทริปขี่ Big Bike เดินทางไป-กลับในวันเดียวกว่า 300 กม. แต่ครั้งนี้มันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เพราะเราจะได้ลองขี่ Yamaha Tracer 9 GT ซึ่งจัดเป็น Sport Touring ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ทั้งคัน เพราะฉะนั้นแล้วหยิบหมวก สวมถุงมือ คว้าเสื้อการ์ด และออกไปวาดลวดลายบนเขาใหญ่ให้หายเสี้ยนกันสักรอบดีกว่า…

 
                  HMP2826  

ดีไซน์สปอร์ต สะท้อนความพรีเมียม

สำหรับดีไซน์ของ Yamaha Tracer 9 GT นั้น จัดเป็นรถเทรเซอร์ที่มีความปราดเปรียว ไม่เทอะทะ และมีรูปลักษณ์ที่สปอร์ตโฉบเฉียว แต่ถ้าเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ก็จะได้สัมผัสได้ถึงความพรีเมียม และความล้ำสมัยจากฟีเจอร์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น

            HMP2826  

ARM_4157
ระบบไฟหน้า Full LED ที่ออกแบบให้มี DRL แบบ LED ที่ตัวโคมด้านบน ในขณะที่ไฟหน้ายกมาจาก Yamaha R1 กับโคมกลม 2 ฝั่งใต้หน้ากาก ชุดแฟริ่งหน้าถูกสวมเข้าเพื่อเปลี่ยนสไตล์ให้เป็นเทรเซอร์แบบเต็มตัว รวมถึงวินชิลด์หน้าที่สามารถยกปรับระดับได้เพื่อตัดลม มาพร้อมการ์ดแฮนด์ที่ช่วยป้องกันเศษหินกระเด็นใส่


                 ARM_4174  


เบาะนั่งแบบ 2 ตอนยกระดับผู้ซ้อนตามสไตล์รถ Big Bike ตัวเบาะมีความแน่น นุ่มนวล นั่งสบาย เดินทางไกลไม่เมื่อยก้น มาพร้อมความสูงเบาะ 810 มม. ซึ่งผู้เขียนสูง 168 ซม. ขาทั้ง 2 ข้างสามารถแตะพื้นได้ มือจับผู้ซ้อนท้ายออกแบบให้มีจุดยึดกระเป๋าข้าง และแร็คท้ายที่สามารถติดตั้งกล่องสัมภาระเสริมได้ทันที ก่อนจะปิดท้ายด้วยไฟท้าย Full LED
ARM_4199

ฟีเจอร์แน่น เทคโนโลยีจัดเต็ม

หน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 3.5″ แยก 2 จอ สามารถเลือก Set Up ค่าต่างๆ ที่ต้องการแสดงผลได้เองทั้งหมด เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับระบบประมวลผลแรงเฉื่อยแบบ 6 แกน หรือ IMU ที่ช่วยให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Traction Control System (TCS) ปรับได้ 2 ระดับ, Slide Control System (SCS), Front wheel LIFt Control System (LIF) และ Brake Control system (BC)


HMP2812

ส่วนโหมดการขับขี่ D-Mode สามารถปรับได้ถึง 4 โหมด ด้วยกัน โดยจะไล่ระดับความดุดันจากมากสุดไปน้อยสุดแบบ D1 – D4 หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ D4 คือ Rain Mode ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั่นเอง

แน่นอนว่าการที่จะปรับการตอบสนองของคันเร่งตามโหมดต่างๆ ได้ ระบบคันเร่งมันต้องเป็นคันเร่งไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่ทว่าในตัว Tracer 9 GT นี้ ได้ยังระบบเซ็นเซอร์ใหม่ Accelerator Position Sensor Grip (APSG) แบบเดียวกับที่ใช้ใน R1M มาติดตั้งให้ซะเลย แถมยังมีระบบอุ่นมือ Heat Grip มาให้ด้วย เผื่อใครจะไปออกทริปหน้าหนาวมือจะได้ไม่แข็ง


            ARM_4192  

ระบบช่วงล่างปรับไฟฟ้า KYB

หัวใจสำคัญที่ทำให้ออกทริปแล้วไม่เหนื่อยก็คือระบบช่วงล่าง โดยเจ้า Yamaha Tracer 9 GT ได้จัดเต็มโช้คอัพไฟฟ้าจาก KYB ทั้งหน้า-หลัง ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าได้ 2 ระดับ คือ Sport กับ Touring

            ARM_4151  


โดยด้านหน้าจะเป็นโช้คอัพหัวกลับ Upside Down ระยะยุบตัว 130 มม. ด้านหลัง Mono Shock แทงกลางลำ รับกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมน้ำหนักเบา


           ARM_4150  



ระบบเบรกด้านหน้าเป็นจานดิสก์คู่ขนาด 298 มม. พร้อมคาลิเปอร์แบบ Radial Mount และดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลัง ขนาด 245 ม.ม. เสริมด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel ติดตั้งอยู่บนล้อขนาด 17″ รัดด้วยยาง  120/70 ZR17 ที่ด้านหน้า และ 180/55 ZR17 ที่ด้านหลัง



            ARM_4168  

ขุมพลัง CP3 อัปเกรดใหม่ แรงบิดสูงในรอบต่ำ

สำหรับขุมพลังในตระกูล 900cc. ของ Yamaha ยังคงใช้เครื่องยนต์ 3 สูบทรงพลัง CP3 เหมือนกันทุกรุ่น แต่ทว่าใน Tracer 9 GT MY2022 นั้น จะเป็นเครื่องยนต์ CP3 ที่ได้รับการอัปเกรดมาใหม่ 890cc. กำลังเพิ่มขึ้นไปเป็น 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที ในขณะที่แรงบิดขยับขึ้นมาเป็น 93 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที (รอบมาเร็วขึ้น 1,500 รอบ/นาที) โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม 1.7 กก. และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 เป็นที่เรียบร้อย


            ARM_4173  



นอกจากนั้นแล้วยังมีการเสริมอ็อพชั่นอย่าง Quick Shifter ที่ครั้งนี้อัปเกรดให้สามารถยัดเกียร์ได้ทั้งขึ้น และลง



           HMP1926   

ออกทริปทัวร์ริ่ง 300 กม. เอาให้รู้เรื่องกันไป

มาว่ากันที่สมรรถนะการขับขี่ และฟิลลิ่งที่ได้สัมผัสหลังจากที่ได้ลองออกทริป กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ กว่า 300 กม. กันเลยดีกว่า แน่นอนว่าในเรื่องของอัตราเร่งตรงนี้คงไม่ต้องมีข้อสงสัย แรงติดมือ มาไวตั้งแต่รอบต่ำ เกียร์ 1, 2, 3 สับลอยได้หมด ดุดัน กระชากมันส์ตามสไตล์ CP3 ความเร็วนิ่งๆ ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ เดินทางไกลไม่ต้องเค้นรอบสูง


            DSC8402  


ความเร็วสูงสุดทะลุ 220 กม./ชม. แต่จะมีอาการหน้าเบาให้รู้สึกตั้งแต่ 180 กม./ชม. ขึ้นไป ซึ่งเป็นผลพวงมาจากตัวรถที่เป็นสไตล์หน้าลอย โดยจุดนี้อาจต้องใช้ทักษะในการควบคุม หรือไปติดตั้งชุดกันสะบัดเพิ่มเติมจะช่วยได้มาก แต่ถ้าขี่ด้วยความเร็วคงที่ 160 กม./ชม. ความนิ่งของรถยังอยู่ในเกณฑ์ที่ขี่สบายๆ


            HMP2586  



ระบบช่วงล่างคือไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ทริปนี้มีรอยยิ้ม เป็นเทรเซอร์ที่ขี่สบาย นุ่มนวล แถมมุดมันส์ และคล่องตัวสุดๆ แอบไปร่อนโค้งบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็ยังไม่มีอาการเหวอให้ได้รู้สึก ตัวรถมีบาลานซ์ และการยึดเกาะถนนที่ดี แถมสามารถปรับระบบโช้คอัพเป็นโหมด Sport เพิ่มเติมได้ หากคุณคิดว่าสามารถที่จะไปได้เร็วกว่านี้



            HMP1817  



ท่าทางการนั่ง แรงลมปะทะ เจ้า Tracer 9 GT จัดการให้เรียบร้อย เป็น Sport Touring ที่ขี่สบาย ผ่อนคลายสุดๆ ปรับชิลด์สูงลมปะทะตัวผู้ขี่น้อยมาก การมุดช่วงรถติดก็ทำได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากตัวรถมีน้ำหนักที่เบา และมิติที่กระชับ
ARM_4239

บทสรุป

โดยรวมแล้วต้องบอกว่า Yamaha Tracer 9 GT เป็นรถ Sport Touring ที่สามารถใช้งานได้แบบ Every Day Every Where ขี่ได้ทั้งมือใหม่วัยมันส์ หรือ มือเก๋าวัยเกษียณ จุดเด่นคืออัตราเร่งที่จัดจ้าน มาเร็วตั้งแต่รอบต้น และระบบช่วงล่างที่นั่งสบาย เทโค้งได้ไม่เหวอ และเทคโนโลยีช่วยเหลือที่ครบครัน ส่วนจุดที่ต้องอัปเกรดเพิ่มเติมคือ เสริมชุดกันสะบัด เพราะความเร็วสูงๆ หน้าเบาเกินไปหน่อย

Yamaha Tracer 9 GT ราคา 569,000 บาท (นำเข้าจากญี่ปุ่น)