ไบค์เกอร์คนไหนที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแดนอีสาน แต่ยังไม่รู้ว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง วันนี้ยามาฮ่านำเสนอ "มัดรวมที่เที่ยวแดนอีสาน จากซีรีส์เที่ยวให้สุดแม็กซ์ By Yamaha NMAX" จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันเลย!!
|
|
- ภูทอกเชียงคาน จ.เลย จุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิต
ถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ห่างจากตัวอ.เชียงคานประมาณ 3 กม. ภูทอกมีลักษณะเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นจุดชมวิวทิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นสายหมอกปกคลุมภูเขาคลอเคล้าแสงสีทองของพระอาทิตย์ มีระเบียงชมวิวที่สามารถชมวิวได้ชัดเจนขึ้น
|
|
- ยอดภูเรือ จ.เลย อากาศหนาว โดนในสายแคมป์
เป็นจุดที่สูงที่สุด ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ ที่ความสูงประมาณ 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและเป็นจุดที่หนาวสุดแดนสยาม นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความสวยงามด้านบนยอดดอยและสัมผัสกับไอหนาวที่เย็นถึงใจ
|
|
- ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ชมฝูงค้างคาวขนาดใหญ่
อำเภอในอ้อมกอดแห่งขุนเขาและม่านหมอก ที่ยังคงความสงบและเรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้แวะ ทั้ง ที่พัก คาเฟ่ สวยวิวดีมองเห็นวิวของภูผาม่านเกือบทุกที่ หากมาเที่ยวช่วงฤดูฝน จะได้พบกับเขียวขจีของทุ่งนาป่าเขาและสายหมอก เป็นอีกหนึ่งความสุขของคนรักธรรมชาติที่แนะนำว่าต้องมา เกือบทุกพื้นที่ในอำเภอนี้ สามารถมองเห็นภาพภูเขาหินปูนตลอดเส้นทาง ยิ่งหลังฝนตกยังสายหมอกลอยคลอเคลียไปตามหุบเขาด้วยบรรยากาศแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะได้เห็นทางภาคเหนือ
|
|
- วัดเรืองแสง จ.อุบลราชธานี สวยแปลกตาไม่เหมือนวัดไหนๆ
ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บนยอดเขาเราจะสามารถมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทอง ตั้งเด่นงดงามอยู่ ด้านหลังของอุโบสถจะเป็นงานจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ อยู่ด้านหลังของอุโบสถในเวลากลางคืน สวยงามมากจริงๆ ซึ่งบางเวลาถ้าไปแล้วโชคดีได้เจอกับดาวเรืองแสงรอบๆ อุโบสถ และขอแนะนำให้ไปในคืนเดือนมืด เพราะถ้ายิ่งมืดเราก็จะสามารถเห็นการเรืองแสงของต้นกัลปพฤกและดวงดาวได้ชัดเจนมากขึ้น
|
|
- วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จ.มุกดาหาร รูปปั้นพญานาคใหญ่สุดในไทย
อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร ตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เป็นวัดสวย อีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนยอดเขา สามารมองเห็นวิวของจังหวัดมุกดาหาร แม่น้ำโขง และแขวงสะหวันนะเขต ที่ สปป.ลาว ได้อีกด้วย ภายในวัด จะมีรูปปั้น พญานาค ขนาดใหญ่สวยงามอลังการมากๆ
|
|
-วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด เจดีย์ทรายแห่งแรกในไทย
เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ ที่ทำจากหินทรายธรรมชาติแห่งแรกในประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนสถานที่นับว่าสวยงามมากๆ และยิ่งใหญ่มากเช่นเดียวกัน โดยจำลองแบบมาจาก บุโรพุทโธ ของประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี ที่มาของการก่อสร้างเจดีย์หิน เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ศรี มหาวีโร พระเกจิอาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจจำพรรษาที่ ประเทศอินโดนีเซีย เลยได้ไปนมัสการ เจดีย์โบโรโดร์(บรมพุทโธ) ที่ เกาะชวา จึงได้เห็นยิ่งใหญ่และงดงาม หลวงปู่เลยเกิดความประทับใจ
|
|
- ถ้ำดินเพียง จ.หนองคาย เมืองบาดาลพญานาค
สถานที่แห่งนี้ มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่อง พญานาค จนหลายๆ คนต้องเดินทางมาเพื่อไหว้ขอพรพญานาคกันถึงที่นี่เลย โดยภายในถ้ำนั้น จะมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาและมีลักษณะโพรงให้เดินลอดผ่านเข้าไป ซึ่งลักษณะของถ้ำดินเพียงนี้ คล้ายเมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้าน นั่นเอง และที่สำคัญคือมีจุดเชื่อมต่อกับลำน้ำโขงอีกด้วย
|
|
-หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ อลังการหินยักษ์ สุดอันซีน
หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวของ ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู อีกที โดยบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยกลุ่มก้อนหินรูปทรงต่างๆ หน้าผา และถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เกิดเป็นความสวยงามในแบบต่างๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเองนั่นเอง
|
|
- หอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด ชมวิวเมือง 360 องศา
แลนด์มาร์กสุดอลังการแห่ง จ.ร้อยเอ็ด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง กับตัวตึกที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนด้านบนนั้นเป็นจุดชมวิวเมืองร้อยเอ็ด ขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญประจำเมือง
|
|
- พระธาตุพนม จ.นครพนม เจดีย์เก่าแก่สุดในอีสาน
ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าตั้งตระหง่าน อยู่ริมฝั่งโขง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยโหญ่ ตามตํานานอุรังคธาตุกล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นําพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง ๕ เป็นประธาน ในการสร้างที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนมในปัจจุบัน
|
|