ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว สุพรรณบุรี พักผ่อน ชมธรรมชาติแบบ One Day Trip กับ Yamaha XMAX Connected 2023

1.ตลาดสามชุก

     ตลาดเก่าแก่ในจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีอายุมากถึง 100 ปี เป็นตลาดสำคัญในการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าของคนในอดีต ซึ่งหากมีโอกาสขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวสุพรรณบุรี ที่แรกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือตลาดสามชุก เพื่อชมเสน่ห์ความคลาสสิกและความเก่าแก่สไตล์ไทย จีน ที่ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี อย่างบ้านไม้อายุนับร้อยปี ห้องแถวที่เรียงต่อกันทั้งแบบชั้นเดียวและ 2 ชั้น นอกจากนี้ภายในตลาดยังมีร้านอาหารและของกินอร่อยๆ มากมายให้นั่งกิน เลือกชิมตลอดทาง หรือซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย

เวลาเปิด - ปิด : 09.00 - 16.30 น.

2.ถนนเหลืองปรีดียาธร ถนนสายดอกไม้

     เส้นทางขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวที่วิ่งหน้าเข้าสู่ดอนไร่ - อ่างเก็บน้ำกระเสียว ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่เที่ยวสุพรรณบุรีอย่าง ถนนทางหลวงหมายเลข 3502 (อ.สามชุก - อ.ด่านช้าง) เป็นจุดชมดอกตาเบบูญ่า หรือ เหลืองปรีดียาธร ที่ขึ้นเรียงรายสองข้างทางในเดือนมีนาคมของทุกปี โดยถนนเหลืองปรีดียาธรมีความยาวระยะทาง 11 กิโลเมตร สามารถจอดรถแวะข้างทาง เพื่อถ่ายรูปและชื่นชมความสวยงามของถนนสายดอกไม้แห่งนี้ได้

เปิดให้เข้าชม : กุมภาพันธ์ - มีนาคม

3.พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ

     ชมความสวยงามและเก็บภาพดอกตาเบบูญ่าหนำใจแล้ว ที่เที่ยวสุพรรณบุรีที่ควรเช็กอินต่อก็คือ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่พุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง โดยองค์พระพุทธรูปมีความสูงอยู่ที่ 108 เมตร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ตรงหน้าผาหินรอบๆ พระพุทธรูปที่เต็มไปด้วยภาพแกะสลักเกี่ยวกับประวัติต่างๆ และเรื่องราวสำคัญทางพระพุทธศาสนาให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ศึกษาหาความรู้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุพรรณบุรีที่ดึงดูดผู้คนจนหลั่งไหลมาเคารพสักการะไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีช่องอุโมงค์หินเป็นถ้ำลึกประมาณ 20 เมตรที่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูป ซึ่งเป็นที่ตั้งพระแม่ธรณีบีบมวยผมและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อีกมากมาย มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และศาลาสำหรับนั่งชมวิวรับลมเย็นๆ อีกด้วย หากใครขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวสุพรรณบุรีก็สามารถแวะไปสักการะและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันได้

เวลาเปิด - ปิด 08.00 - 17.00 น.

4.หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย

     คงไม่มีใครไม่รู้จัก “หมู่บ้านควาย” ที่เป็นไฮไลท์ที่เที่ยวสุพรรณบุรีเชิงอนุรักษ์ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ผ่านการจัดแสดงความเป็นอยู่ของคนในอดีต ให้ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนในยุคก่อนอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีควายหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ศึกษาและเยี่ยมชม ทั้งควายไทย ควายเผือก รวมไปถึงการแสดงโชว์ของควายด้วย นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านควายไทยยังมีกิจกรรมเชิงเกษตรต่างๆ ทั้งดำนา ไถนา ปลูกข้าว ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้ทำกิจกรรมอีกด้วย

เวลาเปิด - ปิด : 09.00 - 18.00 น. 

รอบการแสดง : วันธรรมดา มี 2 รอบ (วันจันทร์ – วันศุกร์) เวลา 11.00 – 11.30  น. และเวลา 15.00 – 15.30 น. 

วันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 3 รอบ รอบเช้า เวลา 11.00 – 12.00 น. รอบบ่ายเวลา 14.30 – 15.30 น. และรอบเย็น 16.00 – 17.30  น.

5.ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง

     มาต่อกันที่ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงที่ตั้งอยู่ในอำเภออู่ทอง โดยภายในศูนย์เต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งดอกไม้ พรรณไม้ต่างๆ ทั้งไม้ผล ไม้ใบ ที่มีความสวยงามและเต็มไปด้วยสีสัน ภายในมีห้องอาหารรองรับนักท่องเที่ยวที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมถึงด้านหลังศูนย์ยังมีสระน้ำที่ประดับไปด้วยดอกบัววิกตอเรีย หรือบัวกระด้งบานสวยงาม รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้มาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ กันอีกด้วย มีโอกาสเที่ยวสุพรรณบุรี 1 วัน บอกเลยไม่ควรพลาดที่นี่!

เวลาเปิด - ปิด 08.30 - 16.30 น.

6.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง

     เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปะ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงวัตถุโบราณที่ค้นพบจากเมืองอู่ทอง ภายในพื้นที่เต็มไปด้วยห้องจัดแสดงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนอู่ทอง ห้องจัดแสดงโบราณคดี โบราณวัตถุชิ้นสำคัญต่างๆ ที่ถูกค้นพบ ซึ่งไบค์เกอร์คนไหนที่ชื่นชอบหรือสนใจเกี่ยวกับวัตถุโบราณหรือประวัติศาสตร์ ก็สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ Yamaha XMAX Connected 2023 ไปเที่ยวได้

เวลาเปิด - ปิด วันพุธ - วันศุกร์ เวลา 09.00 - 16.00 น. 

ค่าเข้าชม : คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท

หมายเหตุ : ยกเว้นค่าธรรมเนียม นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ พระภิกษุ สามเณร และนักบวชใน ศาสนา ต่างๆ และผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี

7.เขื่อนกระเสียว

     ก่อนปิดทริปเที่ยวสุพรรณบุรี 1 วัน ขอแนะนำจุดเช็กอินสุดท้าย ที่เหมาะกับการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเป็นอย่างมาก ก็คือ “เขื่อนกระเสียว” ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไทยอีกด้วย บรรยกาศสวยงาม วิวสุดลูกหูลูกตา เหมาะกับการไปถ่ายรูปและนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งตอนเย็นๆ อากาศจะดีมากๆ เหมาะกับการมากางเต็นท์โดยเฉพาะ ถ้ามีโอกาสได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวในฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสบรรยากาศสวยงามในสภาพอากาศที่เย็นสบายอีกด้วย ไบค์เกอร์สายแคมป์ปิ้งคนไหนที่ชื่นชอบการเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบนี้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

เวลาเปิด - ปิด : 1 กุมภาพันธ์ - 30 กันยายน เวลา 05.00 - 19.00 น. 

ช่วง 1 ตุลาคม - 31 มกราคม เวลา 05.00 - 19.00 น.