6-places-to-visit-in-Phichit_Cover
Lifestyle

จัดทริปขี่รถเที่ยวเมืองรองสักครั้งกับ 6 ที่เที่ยวพิจิตร ที่ไบเกอร์ต้องลองขี่ไปเที่ยวสักครั้ง!

 
     อยากเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์กับก๊วนเพื่อน แต่ไม่รู้จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวที่ไหนดี?  ขอแนะนำ ‘พิจิตร’ จังหวัดหนึ่งในโซนภาคเหนือตอนล่างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่กลับอยู่ในลิสต์เป็นแค่จังหวัดทางผ่านที่เชื่อมไปจังหวัดอื่นๆ เท่านั้น ทำให้พิจิตรกลายเป็นจังหวัดที่เหมือนจะคุ้นเคยในฐานะทางผ่าน แต่ไม่ได้ทำความรู้จักจริงๆ จังๆ อย่างเป็นทางการสักที ทั้งที่จริงแล้วพิจิตรเป็นที่เที่ยวเมืองรองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวเล่าขานต่อกันมาอย่างยาวนาน ความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ เลย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาตามเราไปดูกันเลยว่าที่เที่ยวพิจิตร มีที่ไหนน่าขี่มอเตอร์ไซค์ไปเช็กอินบ้าง
 
6-places-to-visit-in-Phichit_1

1. อุทยานเมืองเก่า

     เริ่มที่เที่ยวพิจิตรที่แรกกับ “อุทยานเมืองเก่า” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระยาโคตรบอง เมื่อปี พ.ศ. 1601 มีลักษณะเป็นเมืองโบราณที่โดดเด่นด้วยกำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า และวัดมหาธาตุ โบราณสถานเก่าแก่ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า และมีการขุดพบศิลปะโบราณ เครื่องปั้นดินเผา และพระพุทธรูปในสมัยต่างๆ 

ภายในวัดมหาธาตุยังมี พระธาตุเจดีย์ทรงลังกาที่หลงเหลือให้ได้เห็นกันอยู่ ซึ่งกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2478 นอกจากนี้ ภายในอุทยานเมืองเก่าพิจิตรยังมีสวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2520 จากการปรับปรุงพื้นที่บริเวณอุทยานเมืองเก่า ให้เป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้และพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ ภายในอุทยานจึงร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เหมาะสำหรับมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากๆ 

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะภายในอุทยานเมืองเก่าพิจิตรยังเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง อาคาร 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของ “พระยาโคตรบอง” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พ่อปู่” ให้ได้สักการะบูชากันด้วย 

ถ้ำชาละวัน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดพิจิตร ที่อยู่ภายในบริเวณอุทยานเมืองเก่า โดยถ้ำชาละวันมีที่มาจากวรรณคดีเรื่อง ไกรทอง บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 มีลักษณะเป็นช่องเขาขุดลึกลงไปใต้ดิน บริเวณหน้าปากถ้ำมีรูปปั้นไกรทองและชาละวันเป็นสัญลักษณ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์


เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.

การเดินทาง : สามารถใช้เส้นทางสายพิจิตร - สามง่าม - วังจิกได้ โดยขี่มาตามทางหลวงหมายเลข 115 และทางหลวงหมายเลข 1068 หลักกิโลเมตรที่ 6 ก็จะถึงอุทยานเมืองเก่าพิจิตร หรือคลิก https://maps.app.goo.gl/FXkyUigm55UfYtk27
 
6-places-to-visit-in-Phichit_2

2. บึงสีไฟ

     ขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวพิจิตรทั้งที ถ้าไม่ได้แวะที่ บึงสีไฟ เรียกว่ามาไม่ถึง! เพราะบึงสีไฟถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของเมืองพิจิตร ด้วยบรรยากาศรอบๆ มีความสงบและสวยงามเป็นธรรมชาติ ชาวพิจิตรจึงยกให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

บึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ เรียกว่าเป็นแหล่งน้ำที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ แถมยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดและนกนานาชนิด ยังไม่หมดแค่นี้เพราะภายในบึงสีไฟยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เช่น สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศาลากลางน้ำ สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ บ่อจระเข้ อุทยานบัว และรูปปั้นพญาชาละวัน ที่ถูกบันทึกลงกินเนสส์บุ๊กว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาว 38 เมตร สูง 5 เมตร กว้าง 6 เมตร เป็นหนึ่งไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายรูปเป็นระลึก 

แดดร่มลมตก… อย่าลืมนั่งชมพระอาทิตย์ตกกลางบึงสีไฟ เพราะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดความสวยงามที่น่าประทับใจ ที่รับรองว่าหากได้ไปคงไม่มีใครปฏิเสธได้ ใครเป็นสายปั่น ชอบออกกำลังกายยังมี สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข ที่มีเส้นทางจักรยานระยะทาง 10.28 กม. และมีความกว้างของทางจักรยาน 10.28  เมตร ให้ได้ปั่นชมความงามรอบบึงสีไฟด้วย  

ครบขนาดนี้คงต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวพิจิตรที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะไบเกอร์ที่ชื่นชอบธรรมชาติ วิวสวยๆ บรรยากาศสบายๆ เงียบสงบต้องไม่ลืมมาเช็กอิน!


เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 19.00 น.

การเดินทาง : หากขี่มาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางนครสวรรค์มุ่งหน้าสู่แยกหนองหัวปลวก เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดพิจิตร หรือคลิกที่ลิงก์นี้ได้เลย https://maps.app.goo.gl/uPhfABGoy8wwwGsQ6
 
6-places-to-visit-in-Phichit_3

3. ทุ่งดอกกระเจียว

     ที่เที่ยวพิจิตรแห่งใหม่ที่จะบอกว่าที่เที่ยวลับก็ไม่เชิง แต่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากนัก คือความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ที่บ้านเขาโล้น ที่ 1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้น! โดยทุ่งดอกกระเจียวตั้งอยู่ในตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ กินพื้นที่กว่า 400 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาโล้น เขาชะอม และเขาตะพานนาก ความสวยงามที่แตกต่างคือดอกกระเจียวที่ขึ้นในบริเวณนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าดอกกระเจียวทั่วไป 2-3 เท่า และแข่งกันออกดอกกระจายปกคลุมอยู่ทั่วพื้นที่ ไบเกอร์สามารถขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวชมได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน รับรองว่าคุ้มค่าที่มาอย่างแน่นอน 


เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.

การเดินทาง : สามารถขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวได้ โดยถนนเอเชียสายเก่า ตากฟ้า - วังทอง เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากถนนสาย 11 ก็จะถึงป่ากระเจียวยักษ์ (บ้านเขาโล้น) หรือคลิกลิงก์นี้ https://maps.app.goo.gl/Ga5KqBUEeEnsaGW78
 
6-places-to-visit-in-Phichit_4

4. วัดโพธิ์ประทับช้าง

     อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพิจิตร ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความสวยงามของศิลปะยุคก่อนให้ได้ชม ที่นี่คือวัดโพธิ์ประทับช้าง วัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2242 - 2244 ในสมัยสมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี (พระเจ้าเสือ) ช่วงสมัยอยุธยาหรือประมาณ 300 กว่าปีมาแล้ว เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงสถานที่ประสูติของพระเจ้าเสือนั่นเอง 

สิ่งที่น่าสนใจคือ ภายในวัดมีพระวิหารสูงซึ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยา มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต หรือ หลวงพ่อยิ้ม ที่เปิดให้เข้าสักการะบูชา และมีการแบ่งแผนผังออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ฝั่งพุทธาวาสและสังฆาวาส ซึ่งถูกแบ่งในลักษณะนี้มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยฝั่งพุทธวาสจะถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพงแก้ว มีพระอุโบสถ เจดีย์คู่ปรางค์รายมณฑปตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ ส่วนฝั่งสังฆาวาสจะมีกุฏิสงฆ์และแนวเสาขนาดใหญ่ที่ถูกสันนิษฐานว่า เป็นศาลาเก้าห้องมาก่อนตั้งอยู่ในบริเวณนี้ 

มากกว่านั้นที่หน้าวัดยังมีจุดไฮไลท์อย่างต้นตะเคียนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ให้เยี่ยมชมและลองโอบกอดกันด้วย ส่วนใครที่เป็นสายธรรมชาติที่วัดยังมีกิจกรรมล่องเรือชมหิ่งห้อยในช่วงฤดูหนาวให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย


เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 - 17.00 น.

การเดินทาง : เนื่องจากตัววัดอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 27 กิโลเมตร ให้ใช้ถนนสายพิจิตร - วังจิก ในการเดินทางมา ก่อนถึงวังจิก 2 กิโลเมตร จะเจอกับทางแยกซ้ายมือเข้าอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ให้เลี้ยวเข้าไปและขี่ต่อไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะเจอกับวัดโพธิ์ประทับช้าง หรือคลิกที่ลิงก์นี้ https://maps.app.goo.gl/BdpMqd8WyDUKTucX8
 
6-places-to-visit-in-Phichit_5

5. วัดท้ายน้ำ

     เรียกว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีพุทธ อีกหนึ่งที่เที่ยวพิจิตรที่ไม่ควรพลาด! วัดท้ายน้ำ หรือ วัดเก่าหลวงพ่อเงิน อีกหนึ่งวัดขึ้นชื่อของเมืองพิจิตรที่มีอายุเก่าแก่กว่า 140 ปี ที่เราอยากให้ไบเกอร์ไปเช็กอิน โดยวัดท้ายน้ำตั้งอยู่ที่ตำบลท้ายน้ำ อำเภอโพทะเล ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 และจัดตั้งขึ้นเป็นวัดในปี พ.ศ. 2423 

วัดท้ายน้ำมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในสมัยที่ “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” เป็นเจ้าอาวาสและจำพรรษาที่วัดนานถึง 35 ปี โดยช่วงที่หลวงพ่อเงินจำพรรษาอยู่นั้นได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน แม้จะย้ายไปอยู่วัดอื่นๆ ในช่วงบั้นปลายของชีวิต แต่ระหว่างนั้นก็ยังคงกลับมาบำรุงรักษาวัดอยู่เสมอ ด้วยคุณงามความดีและแรงศรัทธาของชาวบ้านวัดท้ายน้ำแห่งนี้จึงมีชื่อที่ถูกเรียกต่อกันมาว่า “วัดเก่าหลวงพ่อเงิน” 

อีกทั้งภายในวัดประดิษฐานหลวงพ่อเงินองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีพิพิธภัณฑ์เก่าที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของหลวงพ่อเงิน ของเก่าอื่นๆ และรูปปั้นขี้ผึ้งหลวงพ่อเงินให้ได้กราบสักการะ รวมถึงเครื่องรางของขลังมากมายให้ไบเกอร์สายเดินทาง ออกทริปบ่อยได้เช่าบูชาติดไม้ติดมือกลับไปด้วย หนึ่งในนั้นคือหลวงพ่อเงิน รุ่นเสาร์ 5, รุ่นช้างคู่, รุ่นสร้างกุฏิ และรุ่นเงินโภคทรัพย์มหาเศรษฐี ครบรอบ 99 ปี บารมีพุทธโชติ ฯลฯ 


เวลาเปิด - ปิด : 08.00 - 17.00 น. 

การเดินทาง : สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสายเอเชียที่มุ่งหน้าสู่ถนนหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวขวาเข้าจังหวัดพิจิตรช่วงแยกจังหวัดนครสวรรค์ และใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ต่อจะถึงสี่แยกโพธิ์ไทรงาม ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่ถนนหลวงหมายเลข 1067 ขี่ต่อไปจะเจอกับสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางก็จะเจอวัดท้ายน้ำ หรือคลิกลิ้งก์นี้ https://maps.app.goo.gl/a2afUc8KBrAC29qG8
 
6-places-to-visit-in-Phichit_6

6. วัดนครชุม

     ปิดท้ายที่เที่ยวพิจิตร ที่เราอยากแนะนำให้ไบเกอร์ขี่ไปเที่ยวดูสักครั้ง เพราะวัดนครชุมหรือวัดใหญ่ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย มีอายุยาวนานกว่า 800 ปี ตั้งอยู่ในกำแพงเมืองเก่าพิจิตร โดยมีการสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย - อยุธยา 

ภายในมีสิ่งก่อสร้างสำคัญที่เห็นได้ชัดคือ อุโบสถที่สร้างขึ้นด้วยอิฐฉาบปูน ซึ่งบริเวณผนังด้านข้างถูกเจาะเป็นช่องแสงแคบๆ แทนหน้าต่างในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัย - อยุธยา และวิหารที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 2 องค์ คือ หลวงพ่อเพชรและหลวงพ่อพัน โดยในปัจจุบันได้มีการสร้างวิหารทับบนวิหารเดิมไปแล้ว ซึ่งภายหลังได้มีการอันเชิญหลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพิจิตร ซึ่งมีศิลปะแบบเชียงแสนไปประดิษฐานที่วัดท่าหลวง วัดประจำจังหวัดพิจิตรจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้ภายในวิหารเหลือเพียงหลวงพ่อพันเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าหลวงพ่อพันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของเมืองพิจิตรในสมัยก่อน

ปัจจุบันวัดนครชุม ยังเป็นวัดเก่าเพียงวัดเดียวในตัวเมืองพิจิตรซึ่งไม่ได้เป็นวัดร้าง ยังมีชาวบ้านมาทำบุญและกราบสักการะหลวงพ่อพันอย่างไม่ขาดสาย ไบเกอร์ที่แวะไปเที่ยวพิจิตร อย่าลืมแวะสักการะขอพรหลวงพ่อพันเพื่อเป็นสิริมงคล และชมความสวยงามของวัดนครชุมที่เก่าแก่ของเมืองพิจิตรแห่งนี้  


เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 17.00 น.

การเดินทาง : สามารถใช้ถนนสายพิจิตร - สามง่าม - วังจิก (ทางหลวงหมายเลข 1068) ในการเดินทางได้ โดยตัววัดจะอยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 9 หรือคลิกลิงก์นี้เพื่อดูพิกัด https://maps.app.goo.gl/QttrHYzzLb2RLuqs5
 

     ทั้งหมดนี้คือ 6 พิกัดที่เที่ยวพิจิตรที่ทางเราอยากจะแนะนำให้ไบเกอร์ได้ลองขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวดูสักครั้ง จะมาเป็นกลุ่มหรือฉายเดี่ยวรับรองไม่ผิดหวังกับความสวยงาม เงียบสงบ แถมยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองพิจิตรแห่งนี้ด้วย ไบเกอร์คนไหนที่อยากหาที่เที่ยวเมืองรองแต่ยังไม่รู้จะไปไหนดี ลองขี่มอเตอร์ตามหมุดที่เราปักไว้ดู แล้วจะได้รู้ว่าเมืองรองก็มีที่เที่ยวสวยงามไม่แพ้เมืองหลักเลย 

     อีกหนึ่งข้อดีของการเที่ยวเมืองรองคือ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อถึงเวลาจ่ายภาษีด้วย โดยนำไปหักค่าใช้จ่ายตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท แต่ต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) และ e-Tax invoice by Time Stamp ของกรมสรรพากรเท่านั้น

 
     สำหรับไบเกอร์คนไหนที่มีแผนจะจัดทริปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกับก๊วนเพื่อน แต่ติดตรงที่ยังไม่มีรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจในการเดินทาง ลองเข้ามาชมรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ศูนย์บริการและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ทุกสาขา ทั่วประเทศ และมาเป็นชาวแก๊งเดียวกัน เพื่อไม่พลาดทุกเทรนด์ของไบเกอร์ แอดไลน์ยามาฮ่า @yamahasociety เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย!