เป็นอีกครั้งนึงที่ผมได้มีโอกาสไปร่วมขับขี่รถจักรยานยนต์ประหยัดน้ำมันอย่างยามาฮ่า ฟินน์ [Yamaha FINN] ท่องเที่ยวพะเยาร่วมกับพี่ๆ สื่อมวลชนและลูกค้า ซึ่งในครั้งนี้เองเราได้เดินทางมาที่จังหวัดพะเยา เมืองชายกว๊าน ที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามกับบรรยากาศกว๊านพะเยา บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน
|
|
|
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เราเริ่มต้นจากร้านยามาฮ่า สินธานี เมืองพะเยา จุดที่เรามารับรถยามาฮ่า ฟินน์ [Yamaha FINN] รถจักรยานยนต์ประหยัดน้ำมันไปขับขี่พร้อมกับน้องๆ ที่เป็นลูกค้าทั้ง 3 คน โดยจุดหมายแรกคือการเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเราเดินทางไปสักการะ อนุสาวรีย์พญางำเมือง กษัตริย์นักปกครองที่เป็นพระสหายของ พ่อขุนรามคำแหงและพญามังราย ซึ่งได้ร่วมกันสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมานั่นเอง โดยอนุสาวรีย์พญางำเมืองตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกที่หนึ่งของจังหวัดพะเยาที่ไม่ควรพลาด
|
|
หลังจากเติมน้ำมันเต็มถังกันแล้ว เราทั้ง 8 คัน ก็มุ่งหน้าไปยังศูนย์วัฒนธรรมไทลื้อ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เชียงคำ ซึ่งห่างจากตัวเมืองพะเยาประมาณ 70 กิโลเมตร ศูนย์วัฒนธรรมไทลื้อ เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม การแต่งกาย ภาษา อาหาร ตลอดจนการดำรงชีวิตของชาวไทลื้อตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทลื้อหรือไตลื้อ เป็นชาติพันธ์ุหนึ่งของคนพะเยา โดยได้อพยพมาจากอาณาจักรสิบสองปันนาทางตอนใต้ของจีน โดยศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์จัดแสดงผลงานทางศิลปวัฒนธรรมและฝึกอาชีพของชาวไทยลื้อ โดยเฉพาะผ้าของชาวไทยลื้อที่มีลวดลายและสีสันสดใส เช่น ลายดอกขอเครือ ลายดอกขอ ลายม้า ลายดอกตั้ง เป็นต้น
ถัดจากนี้อีกไม่ไกลเราเดินทางไปยังวัดนันตาราม โดยวัดนันตารามถูกสร้างขึ้นโดยชาวไทใหญ่ แต่เดิมเรียกวัดจองคา เพราะมุงด้วยหญ้าคา มีฐานะเป็นพระอารามหรือสำนักสงฆ์สำหรับปฏิบัติศาสนกิจ ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเรียกว่า วัดจองเหนือ เพราะตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของอำเภอเชียงคำ และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดนันตาราม ในปัจจุบันเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของผู้สร้าง
|
|
ในส่วนของวิหารเป็นศิลปะแบบไทใหญ่ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง หลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันสวยงาม มุงด้วยแป้นเกร็ด เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรสวยงามไม่ซ้ำกัน เสาทั้ง 68 ต้นลงรักปิดทอง ภายในวิหารยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน เช่น ธนบัตรเก่า ผ้าลายโบราณ หนังสือพิมพ์ แผ่นเสียงและเครื่องใช้โบราณต่างๆ อีกด้วย
|
|
การเดินทางจากตัวเมืองพะเยามาถึงเชียงคำนั้นเป็นเส้นทางที่ขับขี่ง่าย ส่วนใหญ่จะเป็นทางพื้นราบ โดยความเร็วที่เราใช้ในครั้งนี้ยืนพื้นที่ 60-80 กม./ชม. ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างน้อย
เราได้เดินทางต่อไปยังโครงการหลวงปังค่า ซึ่งจุดนี้เองได้ขับขี่ขึ้นเขาทางชันกันแบบเต็มๆ มีทางโค้งและชันอยู่หลายจุด ยามาฮ่า ฟินน์ ก็ขับขี่ได้แบบไม่มีปัญหา โดยส่วนตัวเองต้องบอกว่าขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ขึ้นเขาเป็นรถที่ขี่สนุกมากๆ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปยังร้านกาแฟ Magic Mountain ที่ตั้งอยู่บนดอยภูลังกา อ.ปง ห่างจากเชียงคำไปประมาณ 55 กิโลเมตร เส้นทางการขับขี่ขึ้นดอยลังกาเป็นถนน 4 เลน ทางกว้าง มีรถน้อยสามารถวิ่งไป อ.ท่าวังผา จ.น่านได้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลายใช้ขับขี่ท่องเที่ยวกัน ด้วยบรรยากาศที่มีวิวภูเขา ต้นไม้หนาแน่น ประกอบกับการเดินทางที่ไม่ยากนักจึงเป็นที่ที่เหล่าไบค์เกอร์นิยมใช้เดินทางในการเที่ยวพะเยามากในเส้นนี้
|
|
ในอดีตชนเผ่าม้งและชนเผ่าเย้าอาศัยกันอยู่ที่สวนยาหลวง มีอาชีพปลูกฝิ่น พ่อค้าชาวแพร่ชาวน่านจะนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกันที่สวนยาหลวง ซึ่งอยู่ถัดจากดอยภูลังกาไม่ไกล ชาวม้งและเย้าก็จะนำฝิ่นไปแลกข้าวของเครื่องใช้กันที่สวนยาหลวงแห่งนี้นั่นเอง
หลังจากที่เหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น กลุ่มของทางม้งเองก็เลือกเข้ากับฝ่ายคอมมิวนิสต์ ส่วนทางเย้าเองเลือกที่จะไม่เข้าร่วม จึงถอยตัวเองออกจากสวนยาหลวงมาอาศัยบนภูลังกาแห่งนี้ ปัจจุบันดอยภูลังกาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพะเยาจะต้องมาชมทะเลหมอกในตอนเช้า ซึ่งฤดูท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยจะมีหมอกที่สวยงามให้ได้เห็นกัน และเราได้พักแรมกันที่นี่ 1 คืน ซึ่งช่วงที่เรามาถือว่าโชคดีอากาศเปิดฝนไม่ตก ทำให้เห็นดาวบนฟ้าได้อย่างชัดเจน
การเดินทางในวันแรกเราเดินทางไปทั้งหมด 130 กิโลเมตร เป็นทางราบ 75% ทางเขา 25% ใช้น้ำมันไปไม่ถึงครึ่งถัง
|
|
วันที่สองของการเดินทางเที่ยวพะเยา หลังจากที่ทานข้าวและได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของดอยภูลังกา และประวัติพาสปอร์ตที่ยาวที่สุดในโลกของเจ้าของโรงแรม เราก็เดินทางกลับ โดยเราได้แวะชมและสักการะ พระนั่งดิน เป็นวัดที่องค์พระประธานของวัดไม่มีฐานรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่นๆ เคยมีราษฎรสร้างฐานรองรับเพื่ออัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐานบนฐานรองรับ แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระนั่งดิน นอกจากนี้ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานสืบกันมาว่า เคยมีชาวบ้านได้พากันสร้างฐานชุกชีแล้วได้อันเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับ แต่ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าได้ผ่าลงมาที่กลางพระวิหารถึง 3 ครา พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนาพระเจ้านั่งดินมาประดิษฐานบนพื้นดินดังเดิมตราบจนทุกวันนี้
หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าในเมืองเพื่อปิดจบทริปกันที่ ร้านชายกว๊านกาแฟ ร้านกาแฟที่เป็นบ้านโบราณตกทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ได้กลิ่นไอของพะเยาในอดีตพอสมควร
|
|
การเดินทางเที่ยวพะเยาทั้ง 2 วัน เราเดินทางกันทั้งหมด 255.3 กิโลเมตร ใช้น้ำมันไป 3.49 ลิตร เท่ากับ 97.6 บาท อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 73.15 กม./ลิตร ถือว่ายามาฮ่า ฟินน์เป็นรถจักรยานยนต์ที่ประหยัดน้ำมันเป็นอย่างมาก
|
|
น้องต้อมได้พูดถึงเครื่องยนต์ของยามาฮ่า ฟินน์ ว่าตัวหัวฉีดของฟินน์เองเป็นแบบ 3 รู ควบคุมด้วยระบบจ่ายน้ำมันอิเล็กทรอนิกส์ตัวเดียวกับรถรุ่นใหญ่ใน R1 ซึ่งทำให้ประหยัดน้ำมันและด้วยช่วงชักของลูกสูบที่สั้น ทำให้เวลารถออกตัวไม่พุ่งและรอบที่กว้างขึ้น แต่ก็จะทำให้เกิดความร้อนสะสมในห้องเครื่องเร็ว ช่วงล่างหนึบดี ด้วยความยาวของตัวรถเมื่อเทียบกับยามาฮ่า สปาร์ค แล้วยามาฮ่า ฟินน์มีท้ายที่ยาวกว่าทำให้ศูนย์ถ่วงจะอยู่กลางรถพอดี น้ำหนักของคนขี่จะไม่ลงไปที่ล้อหลังนั่นเอง สังเกตได้จากเวลาเราวิ่งไต่บนเส้นขาวหรือขอบถนน รถจะไม่มีอาการดิ้นแต่อย่างใด โช๊คหลังเป็นแบบหูสั้น ทำให้มีรอบขดของสปริงโช๊คที่มากขึ้นช่วยซับแรงกระแทกได้ดี
น้องโต้ง ได้พูดถึงการที่รถยามาฮ่า ฟินน์เติมน้ำมัน E85 ซึ่งน้องเองได้ศึกษามาพอสมควร ถือว่าดีมากด้วยคุณสมบัติที่ E85 เป็นน้ำมันที่มีค่าออกซิเจนสูง การเผาไหม้จะสมบูรณ์กว่า เบนซิน 91 และ 95 เมื่อการเผาไหม้ดีกว่าห้องเครื่องก็จะร้อนช้ากว่า แต่การที่เผาไหม้ได้ดีกว่าก็ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองที่สูงกว่าน้ำมันตัวอื่นนั่นเอง แต่ในเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็ต้องยกให้ E85
น้องเจ เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้รถครอบครัวท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะไปคนเดียว แต่ครั้งนี้ได้มาขี่กันหลายคันก็รู้สึกสนุกไปอีกแบบ บางที่ในพะเยาก็ยังไม่เคยได้ไป ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เที่ยวพะเยาแบบจัดเต็ม อีกทั้งน้องได้พูดในเรื่องรูปโฉมของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ ว่าเป็นรถที่มีรูปทรงสวยดี ขี่ง่าย ยางที่ให้มาก็เกาะถนนได้ดี
หลังจากจบทริปเที่ยวพะเยา ได้มาสำรวจค่าอัตราสิ้นเปลืองน้องๆ ถึงกับตกใจกับความประหยัดว่าไปไกลขนาดนั้นแต่ใช้น้ำมันไม่ถึง 100 บาท ซึ่งทริปยามาฮา ฟินน์ที่ไปเที่ยวจังหวัดพะเยาเป็นทริปที่วิ่งไกลที่สุดและได้ผลของอัตราการสิ้นเปลืองที่น่าประทับใจ จากการทดสอบวิ่งทางเรียบอย่างเดียวทำสถิติไว้เกือบ 92 กม./ลิตร และครั้งนี้ก็เป็นสถิติใหม่ที่ทางทีมงานทำได้กับระยะทางทั้งหมด 255.3 กิโลเมตร ใช้น้ำมันไป 3.49 ลิตร เท่ากับ 97.6 บาท อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 73.15 กม./ลิตร นั่นเอง
|
|
ขอขอบคุณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และพี่ๆ สื่อมวลชนที่ได้ให้ทีมงาน GreatBiker ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมทริปเที่ยวพะเยาในครั้งนี้ด้วยครับ
เช็ค Spec และรายละเอียดเพิ่มเติมของ ยามาฮ่า ฟินน์ [Yamaha FINN] ที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศ
|