การจัดทริปทางไกลด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวภาคเหนือ ไม่ว่าจะฉายเดี่ยวหรือสไตล์ทัวร์ริ่ง เชื่อว่าคงเป็นหนึ่งใน Dream Destination ของเหล่าไบเกอร์ที่ชื่นชอบการเปิดประสบการณ์เส้นทางใหม่ๆ ที่ระหว่างทางได้เก็บแต้มความสวยงามของธรรมชาติ สัมผัสไลฟ์สไตล์ผู้คนพื้นที่ต่างๆ ที่พบเจอ ได้เช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยรู้ว่ามีความพิเศษยิ่งกว่าที่เคย และความสนุกที่ได้ร่วมทริปกับแก๊งมอเตอร์ไซค์คอเดียวกัน… วันนี้เราเลยมี Road Trip ที่จะพาเหล่าไบเกอร์แว้นมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกับเส้นทางกรุงเทพฯ เชียงราย พร้อมจุดพักรถ แวะกิน แวะเที่ยวที่ไหนบ้าง รวมถึงให้คำแนะนำในการขับขี่ออกทริปทางไกลที่ละเลยไม่ได้ นั่นคือการเตรียมร่างกายและรถมอเตอร์ไซค์ให้พร้อม! ตามไปดูเส้นทางการขี่ของทริปนี้ได้เลย
|
เริ่มออกสตาร์ทวันแรก… กับมอเตอร์ไซค์คู่ใจกับเส้นทางกรุงเทพไปเชียงรายกว่า 700 กิโลเมตร ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - อยุธยา - อ่างทอง - สิงห์บุรี - นครสวรรค์ - พิษณุโลก โดยวิ่งจากรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1) เข้าสู่จังหวัดอยุธยา และใช้ทางหลวงหมายเลข 3064 เข้าสู่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งที่นี่เราจะแวะจุดพักรถเพื่อจอดพัก ยืดเส้นยืดสาย กินกาแฟ เติมที่ว่างในท้องกับอาหารมื้อแรกกัน
จุดพักรถจังหวัดอ่างทอง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้ชาวไบเกอร์ได้แวะเที่ยวดังนี้
-
วัดขุนอินทประมูล ที่แรกที่อยากแนะนำให้เหล่าไบเกอร์ได้แวะมาก่อนออกทริปทางไกล เพราะที่วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางไสยาสน์เก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 50 เมตร จนถูกขนานนามว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลที่อำเภอโพธิ์ทองนี่เอง
-
บ้านหุ่นเหล็ก อีกหนึ่งจุดพักรถในอำเภอเมืองที่นอกจากจะมีคาเฟ่ให้ได้แวะจิบกาแฟ กินอาหาร นั่งพักเพื่อคลายร้อนกันแล้ว ยังมีไฮไลท์อย่างหุ่นซูเปอร์ฮีโร่และตัวละครต่างๆ ในการ์ตูนรวบรวมเอาไว้มากมาย โดยหุ่นแต่ละตัวถูกสร้างขึ้นจากเศษเหล็กทั้งหมด และยังมีพระพุทธรูป พระพิฆเนศให้ได้กราบสักการะกันด้วย
หลังจากจอดพัก นั่งจิบกาแฟ เติมพลังมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินทางต่อ โดยใช้ถนนหลวงหมายเลข 3454 เข้าสู่จังหวัดสิงห์บุรี ไบเกอร์คนไหนสนใจอยากแวะเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรีเราขอแนะนำให้เช็กอินตามนี้
ตลาดต้องชม อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสิงห์บุรีที่มีครบทั้งของกินเล่น มื้อหนักฝากท้องได้สบาย เป็นตลาดที่ชาวบ้านและคนในชุมชนนำสินค้า OTOP มาขายในราคาย่อมเยา มีร้านค้าให้เดินเลือกซื้อมากกว่า 100 ร้านเลยทีเดียว สามารถจอดพักรถ แวะกิน แวะเที่ยวได้ โดยตลาดต้องชมตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
|
|
แต่ถ้ายังไปต่อได้แบบชิลล์ๆ หรือขี่มอเตอร์ไซค์ยิงยาวมาแบบไม่ได้แวะจุดพักรถในจังหวัดสิงห์บุรี ก็สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไปยังถนนหมายเลข 32 หรือถนนหมายเลข 1 เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครสวรรค์ได้เลย โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที มาถึงตรงนี้ถ้าอยากจะหาจุดพักรถก็สามารถไปจอดพักแวะกิน เดินเที่ยวได้ที่นี่
-
ตลาดริมน้ำเจ้าพระยา ตลาดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี มีสินค้ามากมายให้ได้เดินเลือกซื้อ ชิมอาหารอร่อยๆ โดยจะเปิดตั้งแต่ 10.00 - 22.00 น. ใครที่อยากยืดเส้นยืดสาย รองท้อง ก็สามารถมาฝากท้องได้ที่นี่
-
อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่วงก์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในผืนป่าตะวันตกที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของบ้านเรา และเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดนครสวรรค์และกำแพงเพชร ซึ่งที่นี่มีสถานที่เที่ยวมากมายทั้งแก่งผานางคอย, แก่งหินของลำห้วย, คลองขลุง, จุดชมวิวกิ่วกระทิง, จุดชมวิวช่องเย็น เป็นต้น ยิ่งถ้าได้มาช่วงหน้าหนาวรับรองไม่ผิดหวัง
เผลอๆ อาจโชคดีได้เจอนกกระเต็นขาวดำใหญ่ นกพญาปากกว้างหางยาว นกกางเขนดง นกเงือกคอแดง หรือนกโพระดกหูเขียว ที่พบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยอีกด้วย
|
หลังจากแวะกิน แวะเที่ยวที่นครสวรรค์จนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้ายังจุดหมายสุดท้ายของวันแรกที่จังหวัดพิษณุโลกกันแล้ว ซึ่งเราจะจอดพักค้างคืนชาร์จพลังกันที่นี่ โดยเส้นทางที่ใช้จะเป็นถนนหมายเลข 117 ไปทางถนนหมายเลข 12 เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดพิษณุโลกนั่นเอง
ปิดจบวันแรกหลังจากขี่มอเตอร์ไซค์มายาวนานด้วยการพักที่หมวดทางหลวงแก่งโสภา ทางหลวงหมายเลข 12 ตอนวังทอง - เข็กน้อย จังหวัดพิษณุโลก ที่นี่มีจุดกางเต็นท์ฟรี พร้อมห้องน้ำและร้านอาหารไว้ให้บริการ ใครที่เหนื่อยล้ากับการขี่มอเตอร์ไซค์ทางไกล อยากแวะพักงีบ ชาร์จพลังให้พร้อมในวันต่อไปก็อย่ารอช้า… แวะที่จุดพักรถนี้ได้เลย
|
เช้าวันใหม่ หลังจากตื่นนอน ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็เตรียมพร้อมออกเดินทางได้เลยโดยขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือตอนกลางบนเส้นทาง พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ - แพร่ ผ่านถนนหมายเลข 11 ซึ่งถนนจะเป็นแบบ 2 เลนสวนกัน แต่ยังใช้ความเร็วได้อยู่ ถ้าใครอยากแวะเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลกก่อน เราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำดังนี้
-
สวนบัวอมรรัตน์ สวนบัวขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดพิษณุโลก ที่เน้นจัดรูปแบบตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง ไฮไลท์คือบัววิกตอเรียหรือบัวกระด้ง ขนาด 2 เมตรลอยอยู่เหนือน้ำ ไม่อยากให้พลาดเก็บภาพความสวยงามและทำความรู้จักกับบัวสายพันธุ์นี้
-
ลานหินปุ่ม เรียกว่าเป็นความงดงามทางธรณีหรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยแปลกตาไม่เหมือนที่ไหนๆ และเป็นเหมือนภาพจำของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เพราะมีลักษณะเฉพาะเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มขนาดแตกต่างไล่เลี่ยกันบริเวณริมหน้าผา คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติ แถมมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาชูธงให้เดินชมความสวยงามตลอดสองฝั่งด้วย
วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดริมน้ำที่ตั้งอยู่บนถนนพุทธบูชา ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากที่สุดในประเทศไทย ให้ได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
|
|
แวะชมความสวยงามที่แตกต่างกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ โดยเส้นทางที่เราจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปในวันนี้จะใช้ถนนหมายเลข 11 โดยใช้เส้นทางนี้ขี่ตามทางมาเรื่อยๆ ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนหมายเลข 1246, 1214, 117 และถนนหมายเลข 1146 เพื่อเข้าสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งจะใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง 30 นาที มาถึงตรงนี้เชื่อว่าไบเกอร์หลายคนน่าจะมีอาการล้ากันบ้างไม่มากก็น้อย เพื่อความปลอดภัยอย่าฝืนขับต่อ! ควรแวะจอดจุดพักรถเพื่อยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อไปจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของวันที่ 2 นี้กัน
|
สำหรับเพื่อนๆ ที่มาแวะจอดพักรถกันที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องบอกว่าที่นี่ก็มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจให้ได้แวะเที่ยว แวะกิน เติมพลังก่อนออกเดินทางต่อกันยาวๆ
ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ใหญ่และพิพิธภัณฑ์พระยาพิชัยดาบหัก ที่เก็บรวบรวมประวัติของท่าน แบบจำลองสนามรบ วิถีชีวิตของคนอุตรดิตถ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เครื่องมือเครื่องใช้สมัยโบราณให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้อีกด้วย
-
เขื่อนสิริกิติ์ ชื่อเดิมคือ “เขื่อนผาซ่อม” เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นอ่างเก็บน้ำที่สามารถรองรับน้ำได้สูงสุดถึง 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร เรียกง่ายๆ ว่ามีความจุเป็นลำดับที่ 3 รองจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนภูมิพล ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน จะเห็นแสงพระอาทิตย์ตกลงมากระทบกับน้ำให้ภาพที่สวยงาม
ภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น สวนสุมาลัย สระบัว สวนสมุนไพร ลานสุขภาพ ฯลฯ สะพานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
แต่ถ้ายังไม่ได้แวะพักที่จังหวัดอุตรดิตถ์ก็สามารถใช้เส้นทางถนนหมายเลข 1045 เพื่อผ่านไปยังถนนหมายเลข 11 มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดแพร่ได้เลย
|
|
มาถึงครึ่งทางของเส้นทางกรุงเทพไปเชียงรายกันแล้ว วันนี้ขี่มอเตอร์ไซค์ยาวๆ จากจุดสตาร์ทจังหวัดแพร่ ที่แวะนอนพักเมื่อคืนนี้ไปจนถึงหมุดที่ปักเอาไว้คือจังหวัดเชียงราย ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 45 นาที รวมระยะทางประมาณ 214 กิโลเมตร เกือบลืม… ถึงแม้จังหวัดแพร่จะเป็นเมืองรองที่ไบเกอร์หลายๆ คนอาจจะเคยขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านบ้างแล้ว แต่เรามั่นใจว่าอาจจะยังไม่เคยมีโอกาสแวะเช็กอินที่นี่แน่นอน!
-
พระธาตุช่อแฮ ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่และพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีขาล เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ที่ก่ออิฐโบกปูนหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองเป็นศิลปะแบบเชียงแสน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุส่วนของพระศอกข้างซ้ายของพระพุทธเจ้า ในพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อช่อแฮ พระประธานศิลปะล้านนาผสมผสานเชียงแสนกับสุโขทัย และวิหารที่เต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามเปิดให้เข้าชมทุกวันด้วย
-
อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดแพร่และลำปาง เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ปกคลุมด้วยป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง เป็นแหล่งต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย ทำให้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่หาได้ยากนี้ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายนิยมมาเที่ยวชมและกางเต็นท์ แต่ถ้าไม่ได้เอาเต็นท์มาเอง ทางอุทยานฯ ก็มีบ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมให้บริการด้วย เรียกว่าสะดวกสบายสุดๆ
เก็บสัมภาระ จัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ท้องอิ่ม เติมกาแฟกันแล้ว ก็ได้เวลาบิดมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปบนเส้นทางถนนชนบท แพร่ 3091 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน พร. 3017 ขี่มาตามทางเรื่อยๆ จนเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวังซ้าย ขี่ตรงต่อไปจะเจอกับทางแยกบ้านเปาะ ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 1 แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดพะเยา…
|
มาพะเยาทั้งที… แนะนำให้แวะเช็กอิน 2 ที่นี้ บอกเลยว่าถ้าไม่แวะถือว่ามาไม่ถึง!
ไบเกอร์คนไหนที่น่องยังไม่ล้าจนเกินไปขอท้าให้ปั่นจักรยานต่อได้เลย ถ้าไม่รีบไปไหนแนะนำให้ล่องเรือชมความสวยงามของกว๊านพะเยา พายเรือแคนูชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินก็รับรองว่าได้ภาพสวยๆ แน่นอน
ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวก็อย่าลืมไปสักการะพ่อขุนงำเมืองกันด้วย เพราะถ้าไม่ได้แวะถือว่ามาไม่ถึง!
|
|
แต่ถ้ายังไหวอยู่! ให้ขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไปบนถนนหมายเลข 1 มุ่งหน้าไปทางถนนหมายเลข 1208 ขี่ไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดหมายปลายทางของเราแล้วนั่นก็คือ “จังหวัดเชียงราย” ถ้าความเมื่อยล้าย่างกรายเข้ามาประชิดตัวแล้ว แนะนำให้แวะพักที่ “จุดพักรถหมวดทางหลวงแม่ลาว ตอนพาน - บ้านร่องขุ่น” ที่กรมทางหลวงของจังหวัดเชียงรายจัดเตรียมเอาไว้ให้ มีทั้งจุดให้กางเต็นท์ ห้องน้ำและน้ำดื่มคอยให้บริการ หรือจะแวะจุดพักรถ ทางหลวงหมายเลข 1 แม่คำ - กลางสะพานแม่น้ำสาย ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างจังหวัดเชียงราย ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดสำคัญของภาคเหนือที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้จังหวัดไหนๆ อยากรู้มาตามพิกัดท่องเที่ยวที่เราแนะนำ… ย้ำ! ว่าไม่ควรพลาดได้เลย
→ วัดร่องขุ่น
เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของศิลปะทั้งสถาปัตยกรรมและงานศิลปะ ด้วยงานแกะสลักลวดลายอ่อนช้อย ประณีต ที่ตั้งโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีขาวโพลน และกระจกสีเงินแวววาวที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัย ทั้งหมดเป็นฝีมือของอาจารย์เฉลิม ชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชาวเชียงราย ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) จนเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมวัดตลอดทั้งปี
→ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
จากสีขาว… ถ้ามาที่นี่จะรู้สึกเหมือนถูกเบรกอารมณ์แบบกระชั้นชิดสมชื่อ “บ้านดำ” เพราะบ้านทุกหลังจะถูกทาด้วยสีดำ ให้ความรู้สึกขลัง หนักแน่น ดุดันกับทั้งเฉดสี งานศิลปะและบรรยากาศ ทุกพื้นที่เป็นที่เก็บผลงานศิลปะมากมายทั้งภาพเขียนและปฏิมากรรมของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) นอกจากงานศิลปะแล้วบ้านดำยังมีงานไม้แกะสลักที่มีลวดลายสวยงาม รวมถึงเขาสัตว์ ทั้งเขาควาย เขากวาง และกระดูกช้าง ประดับอยู่ในบ้านอีกด้วย
แม้อาจารย์ถวัลย์จะถึงแก่อนิจกรรมไปนานแล้ว แต่บ้านดำก็ยังคงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานศิลปะอยู่เสมอ
ไบเกอร์ที่ชอบศิลปะแบบ Realism ไม่ควรพลาด!
→ พระธาตุดอยตุง
พระธาตุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทำให้มองเห็นวิวธรรมชาติของเมืองเชียงรายได้อย่างสุดลูกหูลูกตา ไม่อยากให้พลาดเพราะเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือกระดูกไหปลาร้าของพระพุทธเจ้า แถมยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีกุนด้วย
→ ภูชี้ฟ้า
เป็นทั้งจุดชมทะเลหมอกและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวกับภาพวาด และเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่นที่อยู่ติดกับพรมแดนประเทศลาว ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติ อากาศหนาวๆ วิวสวยๆ พลาดไปเสียใจแย่
→ ดอยแม่สลอง
เป็นพิกัดสุดท้ายที่ควรแวะอย่างยิ่ง เพราะวิวสองฝากฝั่งเต็มไปด้วยใบชาและใบสนสามใบ ได้ชื่อว่าเป็นยอดดอยที่ปลูกชามากที่สุดของไทยจนต่อยอดเป็นอาชีพของคนในหมู่บ้านละแวกนี้ได้เลย นอกจากไร่ชาแล้วดอยแม่สลองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะ คือ สำนักสงฆ์ศรีมหาโพธิ์มงคลบุญชุ่ม, อนุสรณ์ชาวไทยเชื้อสายจีน, ไร่ชาหงส์ฝู่, สุสานนายพลต้วน ชี เหวิน, พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี โดยไบเกอร์สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามถนนหมายเลข 1130
|
Tips : เพราะเป็น Road Trip เพื่อความปลอดภัยและการเดินทางที่ราบรื่นตลอดเส้นทาง… ไม่เกิดความเหนื่อยล้าสะสม ไบเกอร์ทั้งหลายควรแบ่งเวลาพักร่างกายและจอดพักรถดังนี้
ที่เหลือคือการเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ฉุกเฉินที่ควรพกติดรถไว้ และเตรียมชุดให้พร้อมกับการเดินทางไกล อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.yamaha-motor.co.th/blog/สิ่งที่ไบค์เกอร์ควรพกติดตัวไว้ เมื่อต้องขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริปทางไกล
https://www.yamaha-motor.co.th/blog/7-จุด-ต้องเช็กก่อนขี่ระยะไกล
|
ทั้งหมดนี้คือเส้นทางการขี่มอเตอร์ไซค์กรุงเทพไปเชียงราย ที่เราอยากแนะนำให้ไบเกอร์ที่มีความฝันอยากจะออกทริปทางไกลสักครั้งให้ได้ลองเตรียมตัวหรือศึกษาข้อมูลดู รวมถึงแบ่งปันทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการขี่มอเตอร์ไซค์ทางไกลว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
สำหรับไบเกอร์คนไหนที่มีไฟ มีใจ ร่างกายพร้อมและวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมนำรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดเข้าไปตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์บริการยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศ ก่อนสตาร์ท! เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยตลอดการเดินทาง และมาเป็นชาวแก๊งเดียวกัน เพื่อไม่พลาดทุกเทรนด์ของไบเกอร์ แอดไลน์ยามาฮ่า @yamahasociety เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย!
|