แน่นอนว่ารถมอเตอร์ไซค์สำหรับการใช้งานจริงๆ ในชีวิตประจำวันนั้น บางทีก็ไม่ใช่ Bigbike คันใหญ่คันโตแต่อย่างใด หากแต่มันอาจจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวครอบครัวอย่าง ยามาฮ่า (Yamaha)
ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) คันที่เรากำลังเขียนถึงอยู่นี่แหละครับ ยิ่งกับในยุคนี้ที่ต้องการความประหยัด คุ้มค่า ทนทานต่อการใช้งาน
ในวันนี้เราจะพาไปดูทั้ง 5 ความฟินน์ของรถ ยามาฮ่าฟินน์ (Yamaha FINN) คันนี้ด้วยกันเลย ว่าเพราะอะไรมันถึงโดนใจใครต่อใครหลายคนในประเทศไทยเรา
|
ฟินน์ที่ 1 ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) รับประกันตัวรถมากถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
|
|
ข้อนี้ฟินน์กันสุดๆ แน่นอน เพราะยังไม่มีรถจักรยานยนต์รุ่นไหนให้ข้อเสนอนี้ คือซื้อแล้วขี่ยาวๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษา เพราะหากว่าเพื่อนๆ ได้ซื้อรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ทุกรุ่น ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.-30 มิ.ย. 63 นี้ จะได้รับการรับประกันตัวรถนานถึง 5 ปีเต็มๆ แบบไม่จำกัดระยะทางด้วย! บอกเลยว่าทางค่ายใจถึงมากๆ แต่นั่นก็เป็นเพราะความมั่นใจในประสิทธิภาพของตัวรถที่ดีมากด้วยนั่นเอง
|
ฟินน์ที่ 2 ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) มีระบบเบรก UBS ครั้งแรกในรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวของไทย ช่วยกระจายแรงเบรก*
|
|
ครั้งแรกในรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวของเมืองไทยที่มีระบบเบรก
UNIFIED BRAKE SYSTEM (UBS) เพิ่มความปลอดภัยให้คุณอุ่นใจทุกการเดินทาง
เมื่อเบรกเท้ากะทันหัน ระบบ UBS ในรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn)
จะช่วยกระจายแรงเบรกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ผ่านกลไกควบคุม ไปยังล้อหน้า
และล้อหลัง ให้ควบคุมการหยุดรถที่สมดุลอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
(*เป็นฟีเจอร์ที่มีเฉพาะในบางรุ่น) นอกจากนั้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ ฟีเจอร์ครบสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวมีให้เลือกทั้งสตาร์ทมือ
และสตาร์ทเท้า ให้ความสะดวกสบาย ทั้งสวย ทนทาน ไม่จุกจิก
และสุดประหยัดด้วยสมองกลอัจฉริยะ ECU
|
ฟินน์ที่ 3 ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ทน เครื่องไม่สั่น ประหยัดน้ำมันขั้นเทพ!
|
|
จากสถิติการทดสอบการใช้งานของรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) นั้น ได้ระบุไว้ว่ามันเคยทำได้มากที่สุดถึง 96.16กม./ลิตร (ทดสอบโดยสื่อมวลชนสายยานยนต์ 20 สำนัก บนเส้นทางจากศูนย์การค้าเชียร์รังสิต ไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562) ซึ่งถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวทีมีอัตราการสิ้นเปลืองที่เทพเอามากๆ แน่นอนว่าตัวเลขตรงนี้คือการทดสอบ ที่ตั้งใจขับขี่แบบประหยัดน้ำมันมากเป็นพิเศษ แต่ในการใช้งานจริงๆ นั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายๆ อย่าง แต่อย่างไรก็ตามมันก็ชี้ให้เห็นว่าถึงจะขี่กันแบบปกติ ตัวเลขอัตราการประหยัด ก็ยังสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่ดี รวมไปถึงงานประกอบคุณภาพดี ทนทาน ขี่ยาวๆ เครื่องไม่สั่น
|
|
ฟินน์ที่ 4 ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) สามารถเติมน้ำมันได้ถึง E20
|
|
|
ส่วนมากแล้วรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันหลายต่อหลายรุ่นนั้น มักจะเติมน้ำมันได้แค่แก้สโซฮอล์ 91 และ 95 แต่กับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) นั้นสามารถเติมได้ถึง E20 ที่มีราคาน้ำมันประหยัดกว่า ตรงนี้ชัดเจนว่าตัวเครื่องยนต์นั้น ทำออกมาเพื่อสนองความต้องการในการเติมน้ำมันอย่างหลากหลายจริงๆ
|
|
ฟินน์ที่ 5 ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ใช้งานได้คุ้มทั้งครอบครัว
|
|
|
ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) มีการออกแบบตัวรถที่มีท่านั่งแบบสบายๆ สไตล์รถมอเตอร์ไซค์ครอบครัว มันจึงเข้ากันได้อย่างดีกับสรีระคนไทยโดยส่วนมาก ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ตัวใหญ่ ตัวเล็ก หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ก็สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ได้อย่างง่ายๆ สบายๆ
ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) มีที่เก็บของด้านหน้า ไฟหน้าฮาโลเจน กุญแจมัลติฟังก์ชั่นควบคุมในจุดเดียวพร้อมช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 9.7 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้เลย แถมตัวรถยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ยังมีดีไซน์ที่ทันสมัยลงตัวกับไลฟ์สไตล์ในยุคนี้เอามากๆ อีกด้วย
ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) จะมีให้เลือกใช้ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น UBS ราคา 47,000 บาท, รุ่นล้อแม็ก/สตาร์ทมือไฟฟ้า ราคา 45,000 บาท, รุ่นล้อซี่ลวด/สตาร์ทมือ ราคา 43,500 บาท และรุ่นล้อซี่ลวด/สตาร์ทเท้า ราคา 40,900 บาท เพื่อนๆ ที่สนใจรถจักรยานยนต์ Yamaha Finn (ยามาฮ่า ฟินน์) สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ แล้วมาฟินน์ไปพร้อมๆ กันกับ ยามาฮ่า ฟินน์ (Yamaha Finn) ฟินน์กว่า...ก็โดนกว่า
|
|
