เที่ยวให้สุดแม็กซ์ EP.3/7 ขี่ Yamaha NMAX เลาะริมโขง มุดลงถ้ำดินเพียง by VRthairider

youtube embed

ได้เวลาออกเดินทางต่อเก็บของแล้วก็ออกจากที่พักที่ เฮือน 9.5 ในตอนเช้าๆที่ถนนคนเดินเชียงคานค่อนข้างโล่ง หากอยากถ่ายรูปบรรยากาศถนนที่เชียงคานแนะนำให้ถ่ายช่วงเช้าๆเลยครับ พวกเราขี่รถไปริมน้ำโขงเพื่อไปดูบรรยากาศแถวริมน้ำโขง โดยในช่วงเช้าๆก็จะมีการใส่บาตรซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับคนที่เชียงคานและคนที่มาเที่ยวที่เชียงคานชอบทำกันครับ

เติมพลังกันก่อนออกเดินทางไกล หากมาเชียงคานต้องแนะนำเลยครับว่าให้ไปทาน ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ซึ่งที่เชียงคานจะมีอยู่เจ้านึงที่ผมต้องบอกว่าอร่อยมากก็คือร้าน ป้าบัวหวานข้าวปุ้นน้ำแจ่ว หากผมมาเชียงคานเมื่อไหร่ก็จะมาทานที่นี่ตลอดครับ

จุดเด่นของข้าวปุ้นน้ำแจ่วที่นี่คือน้ำซุปที่เข้มข้นและที่สำคัญเอกลักษณ์คือจะใส่เป็นพริกสดจะได้อารมณ์เหมือนเรากินต้มแซ่บ ต้องบอกเลยว่าร้านนี้แนะนำเลยครับ

เรียกว่ากินกันจนจุกครับวันนี้และอีกจุดหนึ่งที่เราจะไปตอนมาเชียงคานก็คือ ภูทอกเชียงคาน ซึ่งจะเป็นจุดที่มีทะเลหมอกในช่วงหนาวแต่ในวันนี้ไม่แน่ใจว่าพวกเราจะเจอหรือเปล่าเพราะว่าอากาศไม่ค่อยหนาวมากและไม่มีฝนก็ต้องลองขึ้นไปลุ้นกันดูครับ

ระยะทางจากร้านป้าบัวหวานไปยังภูทอกเชียงคานก็ไม่ไกลมากนัก แค่ประมาณ 10 กิโลเท่านั้นเองเดินทางแล้วไปชิวๆเรื่อยๆครับโดยที่ภูทอกเชียงคานเราต้องได้จอดรถไว้ด้านล่าง แล้วจะมีรถบริการจากทางชาวบ้านเพื่อพาเราขึ้นไปด้านบน คิดค่าบริการคนละ 40 บาทนั่งท้ายรถกระบะเปิดโล่งขึ้นไปประมาณ 10 นาทีก็ขึ้นไปถึงด้านบน รถพาขึ้นให้บริการตั้งแต่ประมาณตี 5 จนกว่าจะไม่มีลูกค้า หากเป็นช่วงหน้าหนาวแนะนำให้ขึ้นไปตั้งแต่ตี 5 เลยครับจะได้ลุ้นวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกด้วยครับ

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนก็เป็นไปตามคาดครับด้วยอากาศที่ไม่ค่อยหนาวมากนัก และไม่มีฝนก็เลยไม่ได้เจอทะเลหมอกซึ่งที่ภูทอกเชียงคานจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตรซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ไม่สูงมากนักโอกาสที่จะเจอทะเลหมอกก็ต้องลุ้นกันตามสภาพอากาศกันเอาครับ

เมื่อเราเดินชมวิวเสร็จรถก็จะรอรับเราลงไปด้านล่างซึ่งค่าบริการขึ้น-ลง คนละ 40 บาทถือว่าไม่แพงเลยครับเพราะทางขึ้นและลงค่อนข้างที่จะชันหากให้เอารถขึ้นไปเองอาจจะมีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและด้านบนไม่ได้กว้างมากจึงจะไม่สามารถรองรับรถที่จะขึ้นไปได้เยอะนั่นเองครับ

เดินทางกันต่อจุดหมายต่อไปของเราก็คือ ถ้ำดินเพียง ซึ่งอยู่ในวัดศรีมงคล อ.สังคม จ.หนองคาย กับระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่ผมมองว่าสวยงามมากครับเพราะมีการติดตั้งไฟฟ้าแสงสีแปลกตา พวกเราเดินทางรอบริมน้ำโขงกันไปเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงเราก็มาแวะที่ จุดชมวิวหนองปลาบึก ซึ่งอยู่ในเขตอ.สังคม จ.หนองคาย จุดนี้จะมีร้านกาแฟชาวบ้านๆขายอยู่ที่ศาลาริมทางที่จุดชมวิวนี้ครับ โดยการโดยเป็นกาแฟจากทางหนองคายเองครับรสชาติก็ถือว่าใช้ได้อยู่ครับ

เมื่อเข้ามาถึงวัดศรีมงคลต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ถึงจะเจอถ้ำ ซึ่งทางเดินเข้าไปก็จะเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีการตกแต่งไว้ด้วยรูปปั้นพญานาค ริมทางเดินให้อารมณ์เหมือนกับเรามาเมืองบาดาลเมืองพญานาคเลยครับ จากที่เราดูแผนผังภายในถ้ำจะมีอยู่ทั้งหมด 8 ห้อง แต่หากมองแบบนี้เราก็ไม่รู้หรอกครับว่าด้านในจะเป็นยังไงต้องเข้าไปครับถึงจะได้สัมผัสความงดงามอย่างแท้จริง

สำหรับที่ ถ้ำดินเพียง จะมีคนพาเที่ยวเป็นเด็กในพื้นที่พาเราลงไปด้านล่าง ซึ่งจะมีความยาวของถ้ำอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งทางน้องๆคนนำทางและแนะนำว่าอย่าพกกระเป๋าหรือของที่มีชิ้นใหญ่ลงไปด้านล่างเพราะอาจจะลำบากตอนเดินทางด้านในถ้ำซึ่งตอนแรกผมเองก็ยังงงอยู่ว่าทำไมเอาลงไปไม่ได้เดี๋ยว ลองตามดูเรื่อยๆครับแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงไม่ควรเอาลงไปด้านล่าง

แค่เริ่มจาก 10-20 เมตรแรกก็เริ่มจะเหนื่อยเลยครับเพราะต้องมีการมุดเข้าไปด้านในซึ่งมาห้องมาถึงจุดนี้รู้เลยครับว่าที่น้องๆคนนำทางแนะนำไว้เป็นแบบนี้นี่เองหากใครจะพกกล้องตัวใหญ่เข้าไปแนะนำว่าหาอุปกรณ์ป้องกันไว้ด้วยก็ดีครับเผื่อหล่นตกน้ำจะได้ไม่พัง

น้องๆคนนำทางก็แนะนำในจุดต่างๆได้เป็นอย่างดีพอถึงห้องแต่ละห้องก็จะบรรยายในจุดต่างๆให้ฟังเพลินมากครับซึ่งต้องบอกเลยครับว่าทำที่นี่สวยงามจริงๆครับถ้าเกิดมาเที่ยวอีสานอย่างแนะนำเลยว่าให้มาเที่ยวที่ถ้ำนี้ จากที่คิดว่าจะเข้าไปแค่แป๊บเดียวเพราะเห็นว่าระยะทางแค่ประมาณ 200 เมตรแต่พอเอาเข้าจริงๆพวกเราอยู่ในนั้นเป็นชั่วโมงครับ

ไฮไลท์ก็คือทางก่อนจะออกจากถ้ำนี่แหละ จากที่คิดว่าเข้ามาแรกๆแคบแล้วมาเจอทางที่จะออกไปข้างนอกตอนเห็นแรกๆยังคิดว่าจะออกไปได้หรือเปล่าแต่น้องคนนำทางบอกว่าคนน้ำหนัก 100 กว่ากิโลก็ออกทางนี้ได้ ก็เลยต้องลองครับใช้วิชาทหารคลานต่ำออกกันไปเลยสำหรับทางออกตรงนี้ และจุดสุดท้ายคือการได้ไต่บันไดออกจากปากถ้ำก็อาจจะต้องบอกไว้สักหน่อยสำหรับคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัวก็อาจจะเลี่ยงเข้าถ้ำดินเพียงจะดีกว่าแต่หากคนร่างกายปกติแนะนำเข้าไปเลยครับสนุก

ถือว่าการเข้ามาเดินเที่ยวที่ ถ้ำดินเพียง คุ้มค่ากับการได้ลงไปมาก ต่อไปเราก็จะเดินทางต่อไปที่ ลานพญานาคคู่ จ.หนองคาย ซึ่งห่างจากที่นี่ก็ประมาณ 80 กิโลเมตรครับต้องเร่งตามเวลาหน่อยเพราะว่าเราใช้เวลาในถ้ำค่อนข้างที่จะนานเกินไปครับ

เรียกว่างานนี้เจ้า Yamaha Nmax 155 ได้ช่วยทำเวลาเป็นอย่างมากมาถึงที่ลานพญานาคคู่ก่อนจะเย็น ซึ่งที่ลานพญานาคคู่จะอยู่ที่หน้าวัดลำดวนโดยในจุดนี้ช่วงกลางคืนก็จะมีการขายของคล้ายๆกับถนนคนเดินเหมือนกัน โดยจะเป็นลานที่ติดริมน้ำโขงและมีรูปปั้นพญานาคคู่ที่สวยงามให้มาแวะถ่ายรูปกันครับ

สำหรับเป้าหมายของเราในวันนี้ก็คือการไปพักที่จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเย็นพอสมควรแล้วและจากที่นี่ไปจังหวัดบึงกาฬก็อีกประมาณ 140 กิโลเมตร แน่นอนว่าต้องถึงมืดแน่นอน ซึ่งกว่าจะถึงบึงกาฬก็ตามคาด สองข้างทางถือว่ามืดใช้ได้เลยครับแต่ก็ดีที่ไฟหน้าของเจ้า Yamaha Nmax ค่อนข้างที่จะสว่างเลยมั่นใจในการเดินทางได้ เมื่อมาถึงจังหวัดบึงกาฬเราก็แวะเติมน้ำมันแล้วก็เดินทางเข้าไปยังที่พัก ที่จองไว้ก็คือ Green House Resort บึงกาฬ เพื่อพักผ่อนและเตรียมเดินทางต่อไปในวันพรุ่งนี้

ก่อนที่จะนอนนึกขึ้นได้ว่า Yamaha Nmax ต้องมีการ service เปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามระยะ ดีที่ในเว็บไซต์ของ Yamaha เขามีระบบค้นหาศูนย์บริการใกล้ตัวเราก็เลยเข้าไปใช้ระบบนี้ดูซึ่งก็พบว่าศูนย์บริการ บึงกาฬเจริญยนต์ อยู่ห่างจากเราแค่ไม่ถึง 2 กิโลเองพรุ่งนี้เช้าค่อยนำรถเข้าไปเซอร์วิสแล้วเดินทางต่อกันครับ

สำหรับผู้สนใจ Yamaha NMAX สามารถเช็ก Spec ได้ที่นี่

พร้อมการรับประกันนานถึง 5 ปีหรือ 50,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) สามารถดูรายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่นี่

มาเป็นชาวแก๊งเดียวกัน ไม่พลาดทุกเทรนด์ของไบค์เกอร์ แอดไลน์ยามาฮ่า @yamahasociety
เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย!

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

Products

Yamaha Online Shop

BIGBIKE

DEALER & SERVICES

PRIVILEGE

NEWS&EVENTS

BLOG

MEDIA

YAMAHA MOTOR SPORT

YAMAHA RIDING ACADEMY (YRA)

ABOUT US

Lifestyle

เที่ยวให้สุดแม็กซ์ EP.3/7 ขี่ Yamaha NMAX เลาะริมโขง มุดลงถ้ำดินเพียง by VRthairider

รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc

ผลิตภัณฑ์ยามาฮ่า

สนใจซื้อผลิตภัณฑ์ยามาฮ่า

บริการหลังการขาย

รวมแบบฟอร์ม

เมนูอื่นๆ