ใครเป็นสายอาร์ตคงเคยได้ยินคำว่า สตรีทอาร์ต (Street Art) กันมาบ้าง เพราะเป็นศิลปะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาในรูปแบบของกราฟฟิตี้ หรือรูปการ์ตูนผ่านลวดลายต่างๆ ที่มีสีสันสวยงาม ตามผนังกำแพงหรือริมทางเท้าที่ผู้คนทั่วไปสามารถพบเห็นได้ ซึ่งแต่ละผลงานจัดเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนความเป็นอยู่ของคนที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ หรือการสร้างผลงานเพื่อสื่อสารความคิด ความคาดหวังของศิลปินที่อยากกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าในกรุงเทพฯ มี Street Art อยู่หลายแห่งที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์ก วันนี้เราเลยจะพาเหล่าไบเกอร์สายอาร์ตไปเช็กอิน 10 ที่เที่ยว Street Art สุดชิคในกรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้างตามไปดูกัน
|
|
ชุมชนหัวตะเข้
เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ในอดีตมีชื่อว่า หลวงพรต-ท่านเลี่ยม ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิม แต่ด้วยเรื่องราวที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาว่าคลองสายนี้มีจระเข้ชุกชุม บ้างก็บอกว่าเจอซากโครงกระดูกส่วนหัว แต่ไม่เจอตัวจระเข้บริเวณที่ค้นพบ จึงทำให้ชุมชนแห่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ชุมชนหัวตะเข้” นั่นเอง
ปัจจุบันชุมชนหัวตะเข้ได้เปลี่ยนจากย่านการค้าสู่พื้นที่แห่งงานศิลปะ ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้กับวิทยาลัยช่างศิลป จึงทำให้ชุมชนหัวตะเข้แห่งนี้เต็มไปด้วยผลงานศิลปะมากมาย โดยเฉพาะงานสตรีทอาร์ตริมกำแพงที่พร้อมเป็นจุดเช็กอินถ่ายรูปให้ชาวโซเชียลและสายฮิปสเตอร์ได้เก็บภาพสวยๆ ซึ่งมีความยาวตั้งแต่สี่แยกหัวตะเข้ไปจนถึงจุดตัดระหว่างคลองจระเข้ คลองประเวศ คลองลำปลาทิว ก็จะพบกับ “กำแพงตะเข้” ผลงานศิลปะบนกำแพงที่ไม่ควรพลาด
นอกจากงานสตรีทอาร์ตแล้ว ชุมชนหัวตะเข้ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งการชิมขนมโบราณหายากที่บ้านต้นมะขาม, เดินชิลล์ตลาดเก่าริมคลองหัวตะเข้, สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ AT Press Art Studio, เที่ยวคาเฟ่ 274 Bed & Brew เป็นต้น
สำหรับการเดินทางมายังชุมชนหัวตะเข้ก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่ขี่เจ้า Yamaha Grand Filano Hybrid ไปตามถนนลาดกระบังแล้วเลี้ยวเข้าซอยลาดกระบัง 17 ขับเข้ามาสุดซอยและเลี้ยวขวาจะเจอกับที่จอดรถ โดยเสียค่าจอดรถ 10 บาท เดินต่อมาอีกหน่อยก็ถึงชุมชนหัวตะเข้ หรือจะขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link มาลงที่สถานีลาดกระบัง และเดินหรือนั่งรถสองแถวเข้าซอยลาดกระบัง 17 ก็ได้เช่นกัน
|
|
Chula Art Town
สำหรับ Chula Art Town เป็นโครงการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อยากจะฟื้นฟูชุมชนเก่าแก่รอบๆ มหาวิทยาลัยทั้งย่าน “สวนหลวง - สยามสแควร์ - สามย่าน” ให้กลับมาครึกครื้น มีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยการรังสรรค์ผลงานกราฟฟิตี้ลงบนกำแพง โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างคณะศิลปกรรมศาสตร์ (FAA) กับศิลปินสตรีทอาร์ตชั้นนำ นิสิตเก่าจุฬาและนักศึกษากว่าร้อยชีวิตมาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของชุมชนแห่งนี้ ด้วยการวาดภาพลงบนกำแพงในจุดต่างๆ ทั้งพื้นที่สวนหลวง - สยามย่านที่มี 12 จุด สยามสแควร์ ที่คณะทันตแพทย์จุฬาฯ 15 จุด และ ลิโด้ คอนเน็ค 12 จุด ทำให้รอบมหาวิทยาลัยกลายเป็นที่เที่ยวในกรุงเทพแห่งใหม่ที่ดึงดูดสายฮิปสเตอร์ให้สะพายกล้องมาถ่ายรูปเช็กอินกันไม่พัก
มากกว่านั้น Chula Art Town ยังนำเทคโนโลยี QR Code เข้ามาใช้เพื่อระบุตำแหน่งบนแผนที่เสมือนจริง พร้อมจัดแสดงวิดีทัศน์บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจของเหล่าศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาในแต่ละจุดผ่านสมาร์ทโฟน เพียงแค่สแกน QR Code ก็สามารถเข้าชมได้ผ่านทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม Google Art & Culture ด้วยเทคนิค Augmented Reality (AR) ทำให้ Chula Art Town เป็น 1 ใน 5 สตรีทอาร์ตที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นงานแสดงศิลปะแบบไร้พรมแดนและไร้ขีดจำกัด วัดได้จากผู้เข้าชมทางออนไลน์ที่เข้ามาชมกว่า 3,700 ครั้ง
ไบเกอร์คนไหนอยากมาชมงานสตรีทอาร์ตสวยๆ ที่ Chula Art Town สามารถขี่มอเตอร์ไซค์โดยใช้เส้นทางถนนบรรทัดทอง ถนนพญาไท และถนนอังรีดูนัง และนำรถไปจอดที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ หรือที่จอดรถเอกชนในโซนสยามสแควร์ - สามย่านก็ได้เช่นกัน หรือจะขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีสยามก็สะดวกไม่แพ้กัน
|
|
สวนเฉลิมหล้า
อีกหนึ่งทำเลสตรีทอาร์ตยอดฮิตของวัยรุ่นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่สามารถมองเห็นได้จากถนนพญาไทหรือบนชานชาลา BTS ราชเทวี โดยสวนเฉลิมหล้าเป็นสวนสาธารณะอีกหนึ่งแห่งที่รวมงานศิลปะแนวกราฟฟิตี้ ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินไทยหลายคนที่แวะเวียนกันมาโชว์ฝีไม้ลายมือลงบนกำแพงเก่าสุดคลาสสิก ทำให้สวนเฉลิมหล้ากลายเป็นโลเคชั่นที่มีงานสตรีทอาร์ตที่ดูเท่และไม่เหมือนใคร ด้วยสีสันที่ดูฉูดฉาดและสะดุดตา เรียกได้ว่าเป็นอาร์ตแกลเลอรีริมทางที่มาเสพได้ง่ายๆ ใครที่อยากมีรูปเท่ๆ สวยๆ อัปลงโซเชียลไม่ควรพลาด ที่สำคัญเดินทางง่ายอีกด้วย!
ไบเกอร์คนไหนอยากมาชมงานสตรีทอาร์ตที่สวนเฉลิมหล้า ที่มีทั้งความเท่และสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเที่ยวได้โดยใช้เส้นทางหลักอย่างถนนเพชรบุรี และไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่จอดรถ เพราะสามารถจอดรถได้ที่ Coco Walk (ชั่วโมงละ 20 บาท) หรือจอดรถที่โรงแรมเอเชีย (ชั่วโมงละ 40 บาท) นอกจากขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้ว สามารถใช้รถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีราชเทวี ออกทางประตู 2 แล้วเดินต่อมาอีกเล็กน้อยก็จะพบกับสวนเฉลิมหล้าแล้ว
|
|
สะพานหัวช้าง (คลองแสนแสบ)
ถัดออกมาจากสวนเฉลิมหล้าก็จะเจอกับสะพานหัวช้างย่านปทุมวันที่เต็มไปด้วยงานสตรีทอาร์ตบนกำแพงริมคลองทั้งสองฟากฝั่ง เรียกว่าเป็นระยะทางกว่า 600 - 800 เมตร ที่จัดเต็มไปด้วยงานศิลปะสีสันสดใส บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่สามารถมาถ่ายรูปชิคๆ ได้ แต่แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าหรือเย็นไปเลยจะดีกว่า เพราะได้เดินเล่นถ่ายรูปแบบชิลล์ๆ แบบไม่ต้องกลัวร้อน
|
|
คลองโอ่งอ่าง
สตรีทอาร์ตย่านสะพานเหล็กที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยร้านขายเกมและของเล่นมากมาย หลังจากที่กรุงเทพมหานครได้ทำการปรับโฉมและจัดระเบียบใหม่ ทำให้ริมทางเดินคลองโอ่งอ่างกลายเป็นที่เที่ยวกรุงเทพฯ อีกหนึ่งแห่งที่ดึงดูดสายอาร์ตมากขึ้น เพราะมีงานสตรีทอาร์ตบนกำแพงทั้งสองฝั่งราว 750 เมตร ให้ชมตลอดทางเดินเลียบคลองโอ่งอ่าง ตั้งแต่สะพานภานุพันธ์ยาวไปจนถึงสะพานดำรงสถิต ผ่านการถ่ายทอดฝีมือโดยศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังหลายคน อาทิ Bonus TMC, Happening, Alex Face, Pakorn & Asin เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นงานศิลปะที่สะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากเดินเสพศิลปะแล้ว คลองโอ่งอ่างยังมีร้านค้าและวงดนตรีนักเรียนมาเล่นเปิดหมวกให้ฟังกันสดๆ สลับกับการแสดงต่างๆ ที่จะหมุนเวียนให้ได้ชมแบบไม่ซ้ำในแต่ละสัปดาห์ เรียกว่าเป็นที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก สำหรับไบเกอร์ที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวคลองโอ่งอ่างไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่จอด เพราะรอบๆ คลองโอ่งอ่างมีที่จอดรถรองรับมากมาย ทั้งลานจอดเวิ้งนาครเขษม, ลานจอดรถข้างสถานีรถไฟฟ้าสามยอด, อาคารจอดรถเมก้า พลาซ่า, ศูนย์การค้าดิ โอลด์ สยาม หรือใครอยากไปแบบชิลล์ๆ ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานีสามยอด ทางออกที่ 1 ข้ามถนนมาอีกฝั่งก็จะพบกับคลองโอ่งอ่าง
|
|
ริมคลองยานนาวา
มาต่อกันที่สตรีทอาร์ตย่านสาทร ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานเขตสาทร เฟซบุ๊ก ATM Spray และบริษัท อุไรพาณิชย์ จำกัด จนตกผลึกออกมาเป็นโครงการศิลปะริมคลอง (Art by The Canal) ที่มีแนวคิดอยากสร้างสถานที่เที่ยวในกรุงเทพฯ และแลนด์มาร์กแนวสตรีทอาร์ตแห่งใหม่ เพื่อถ่ายทอดวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนที่เป็นแหล่งรวมความแตกต่าง ทั้งด้านศาสนาและวัฒนธรรม แต่กลับอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว รวมถึงปรับภูมิทัศน์ของชุมชนในเขตสาทรให้สวยงามมากขึ้นผ่านฝีมือการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินร่วมสมัย และศิลปินกราฟฟิตี้แถวหน้าของเมืองไทย จนเป็นหนึ่งสตรีทอาร์ตริมคลองยานนาวาที่พร้อมดึงดูดสายฮิปสเตอร์และสายอาร์ต ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปกันแบบรัวๆ ใครไม่อยากตกเทรนด์ต้องห้ามพลาด!
ไบเกอร์คนไหนที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์มาถ่ายรูปกับสตรีทอาร์ตย่านริมคลองยานนาวา สามารถใช้เส้นทางถนนเจริญกรุง จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 54 มาก็จะพบกับวัดยานนาวา ถ้าอยากไปเช็กอินกับ Wall Art แนะนำว่าให้จอดรถที่วัดยานนาวาแลัวเดินเลียบคลองไปแทน
|
|
ซอยเจริญกรุง 28 /30 /32
ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ยอดฮิตอีกที่หนึ่งคือซอยเจริญกรุง 28 เป็นซอยที่มีอาคารเก่าแก่อยู่เต็มทั้งสองฟากฝั่ง ที่พิเศษกว่านั้นคือในซอยมีชิ้นงานมาสเตอร์พีซอยู่หลักๆ 3 จุดด้วยกัน คือ นกตัวกลม Puk Ruk ของศิลปินชาวไทยที่มีชื่อว่า Meu Bon งานเพ้นท์ขนาดใหญ่บนกำแพง ของตึก Old Town Hostel ที่ใครเดินทางเข้ามาซอยนี้ต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้ เดินต่อมาอีกไม่ไกลกันนักจะเจอกับงานสตรีทอาร์ตสีขาวดำที่เป็น Background ให้คนได้นั่งจิบกาแฟ ถ่ายรูปคูลๆ ซึ่งเจ้าของผลงานเป็นศิลปินชาวเกาหลีที่มีชื่อว่า คิม แดฮยอน ส่วนชิ้นที่ 3 จะอยู่บนกำแพงตึกฝั่งตรงข้าม เป็นผลงานของ Raul Oprea Sebastian ศิลปินชาวโรมาเนียหรือที่รู้จักกันในชื่อ Saddo กับผลงานรูปนกขนาดใหญ่ที่สวมหมวกสไตล์ป๊อปเซอร์เรียลสีสันสดใส
ไปต่อกันที่ซอยเจริญกรุง 30 ทางผ่านที่หากใครเดินมาจาก Warehouse 30 ไปฝั่งตลาดน้อย ต้องเคยเห็นสตรีทอาร์ตที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนกำแพงหน้าสถานทูตโปรตุเกสอย่างแน่นอน โดยศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานนี้มีชื่อว่า Alexandre Farto หรือที่รู้จักกันในชื่อ วิลส์ (Vhils) เขาบินมาที่ประเทศไทยเพื่อสร้างผลงานชิ้นนี้โดยเฉพาะในปี 2560 ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นการแกะสลักพื้นผิวที่เป็นเทคนิคเฉพาะที่วิลส์คิดค้นขึ้นมาเรียกว่า Scratching the Surface จนเกิดเป็นรูปใบหน้าเสมือนจริง ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นตัวแทนเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและโปรตุเกสด้วย
เดินลัดเลาะตามตรอกต่อมาอีกเล็กน้อยก็จะถึง ซอยเจริญกรุง 32 ซอยที่เต็มไปด้วยผลงานสตรีทอาร์ตที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในงานเทศกาล บุกรุก เออร์เบิร์น อาร์ต เฟสติวัล ที่รวมศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังมากหน้าหลายตาทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้ง Alex Face, Bonus TMC, Kult, Lolay มาฝากฝีมือวาดภาพลงบนกำแพง จนทำให้กำแพงในซอยเจริญกรุง 32 เต็มไปด้วยงานเพ้นท์ขนาดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยภาพที่คุ้นตาคือ เด็กสามตาหน้าบึ้งของศิลปินไทยอย่าง Alexmardi ที่ให้อารมณ์แตกต่างจากภาพอื่นเพราะออกแนวดุดันนั่นเอง ไบเกอร์สายสตรีทคนไหนอยากจะไปถ่ายรูปเท่ๆ แนะนำว่าให้ไปหลังบ่าย 3 โมง เพราะช่วงเช้าจะมีร้านค้าตั้งเต็มไปหมดนั่นเอง
เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินสตรีทอาร์ตที่สายอาร์ตไม่ควรพลาดจริงๆ ซึ่งไบเกอร์สามารถขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวได้ง่ายๆ โดยใช้เส้นทางถนนเจริญกรุง และจอดรถได้ที่ Warehouse 30 (มีค่าจอด), ไปรษณีย์กลางบางรัก, ตึก Cat Telecom
|
|
ตลาดน้อย
ชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพมหานครที่อัดแน่นไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบไทยและจีน ที่ผสมผสานงานอาร์ตลงบนตัวอาคารได้อย่างลงตัว รวมถึงสตรีทอาร์ตที่มีสีสันสดใสและไม่เหมือนใครของ Jayoto ศิลปินสตรีทอาร์ตชาวไทยที่ถ่ายถอดเสน่ห์ของความเป็นตลาดน้อย ทั้งร้านอาหารและวัฒนธรรมลงบนกำแพงได้อย่างลงตัว นอกจากเรื่องของศิลปะแล้ว ตลาดน้อยยังเป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อยๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้ไปซึมซับบรรยากาศความเป็นตลาดเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ด้วย
หากไบเกอร์คนไหนสนใจจะปักหมุดมาเช็กอินถ่ายรูปที่ตลาดน้อย แนะนำให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาจอดได้ที่ลานจอดรถตลาดน้อยในซอยเจริญกรุง 22 หรือซอยวานิช 2 ก็ได้เช่นกัน หรือหากเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ และต่อรถเข้ามาซอยเจริญกรุง 22 ได้
|
|
ลาดจอดรถสำเพ็ง
ใครจะไปคิดว่าลานจอดรถสำเพ็งจะมีสตรีทอาร์ตที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครอยู่ ทั้งรูปช้างใหญ่ 2 ตัวบนตึก ฝีมือของ Roa ศิลปินชาวเบลเยียมที่ลงมือวาดกันสดๆ แบบไม่มีการร่างแบบ! และฝั่งตรงข้ามมีงานกราฟฟิตี้ขนาดใหญ่รูปจักรยานสีฟ้าที่วาดโดย Arzy ศิลปินชาวสเปน ถัดมาที่บริเวณหน้าวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร จะเจอกับบ้านเรือนสมัยเก่าที่มีผลงานสตรีทอาร์ตของศิลปินสาว Aitch ชาวโรมาเนีย กับรูปเสือและดอกไม้สีชมพูขนาดใหญ่ที่ดูโดดเด่นอยู่บนอาคารสมัยเก่า ใครที่เดินทางมาแถวเยาวราช สำเพ็ง ก็สามารถแวะเวียนมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ หรือไบเกอร์คนไหนที่อยากมาเห็นสตรีทอาร์ตสวยๆ แบบนี้ก็แค่ปักหมุดลงบน GPS ว่า “ลานจอดรถสำเพ็ง” และขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตามหมุดได้เลย
|
|
สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า
สตรีทอาร์ตแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เลียบคลองภาษีเจริญ เป็นโครงการที่ได้รับความร่วมมือจากเขตภาษีเจริญและสมาคมศิลปะข้างถนน ที่ร่วมการสร้างสรรค์กราฟฟิตี้และผลงานศิลปะต่างๆ ลงบนกำแพงและตอม่อรถไฟฟ้า เพื่อปรับภูมิทัศน์ของชุมชนให้มีความสวยงาม น่าอยู่มากขึ้น ใครอยู่ใกล้ย่านนี้และอยากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เท่ๆ ลองขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยว ตามหมุดดูได้ รับรองได้รูปโปรไฟล์ที่ดูเท่ ไม่เหมือนใครแน่นอน โดยสามารถใช้ถนนเพชรเกษมหรือถนนราชพฤกษ์ และจอดรถได้ที่ลานวัดประดู่บางจาก
ทั้งหมดนี้คือ 10 ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่รอให้เหล่าไบเกอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเช็กอิน เสพงานสตรีทอาร์ตกันได้แบบจุใจ พร้อมทั้งเก็บภาพสวยๆ มาอัปลงโซเชียลหรือเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ได้ด้วย ไบเกอร์คนไหนที่อยากจะไปสัมผัสกับงานอาร์ตแบบนี้ ลองไปตามหมุดที่เราปักให้ดู รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน หรือจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Grand Filano Hybrid ไปเที่ยวก็ได้ เพราะรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีระบบ Stop & Start System ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบเบรกทั้ง ABS ในรุ่น ABS และ UBS ในรุ่น Standard ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น แถมยังมีช่องชาร์จไฟสำรองสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนด้วย หมดกังวลเรื่องแบตหมดตอนดู GPS ไปได้เลย ที่สำคัญยังมาพร้อมดีไซน์ที่ดูพรีเมียม หรูหรา อีกด้วย
|
|
ไบเกอร์คนไหนที่อยากจะมีรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติก สุดคลู ดีไซน์พรีเมียม จัดเต็มทั้งฟังก์ชันการใช้งานและฟีเจอร์ที่โดดเด่น สามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการและร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ พร้อมความคุ้มค่าด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และอย่าลืมแอดไลน์ยามาฮ่าเพื่อรับสิทธิพิเศษหรือติดตามข่าวสารต่างๆได้เลยที่ @yamahasociety
|