Blog-Review-AEROX-2020-Mocyc-800x420
Reviews

จริงมั้ยที่ Yamaha Aerox 155 เป็นรถที่สุดจัด ในพิกัด 150 by mocyc.com


     ในปัจจุบัน ถ้าถามว่า สุดยอดแห่งรถสปอร์ตออโตเมติก ทุกคนต้องนึกถึง ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) แน่นอนครับ  ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะเครื่องยนต์ Blue Core VVA 4 วาล์ว ในพิกัด 155cc 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ SOHC นั่นเอง เป็นที่ 1 ในด้านเครื่องยนต์ไม่พอ ในเรื่องของช่วงล่างที่ให้มา ต้องบอกว่าเอาอยู่จริงๆครับไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน ก็เอาอยู่ ซึ่ง ในเวอร์ชั่น R โช้กหลังจะมีซับแท้งค์มาให้ด้วย โดนใจสายซิ่งอย่างแน่นอน โช้กหน้ามาในแบบเทเลสโคปิค ต้องบอกว่าเซ็ทค่าเดิมๆที่มาจากโรงงานพอดีกับการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเลย


Yamaha_Blog_Aerox155_2

Yamaha_Blog_Aerox155_3

Yamaha_Blog_Aerox155_4

 

     ระบบเบรกเองก็เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้เลยทีเดียว เบรกหน้าแบบดิกส์เบรก (ตัว R เวอร์ชั่นจะเป็นจานลายพิเศษมาด้วย) ในส่วนของตัวท๊อปต้องบอกว่า มีระบบ ABS มาให้ด้วย สิ่งที่พิเศษอีกอย่างก็คือ กุญแจแบบ Smart Key System ที่มากับตัวท๊อป หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบ  LCD ทำให้มองเห็นได้ง่ายชัดเจน แถมหน้าปัดเรือนไมล์เองยังมาครบทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นบอก ทริป หรือทริปรวม ความเร็ว รอบเครื่อง บอกระดับน้ำมัน ยูบล๊อคขนาด 25 ลิตร ใส่ของได้อย่างจุกใจมากๆ ยางหน้าขนาด 110/80 ขอบ 14 ยางหลังขนาด 140/70 ขอบ 14 ต้องบอกว่าใช้งานในถนนได้ดีเยี่ยมเลยครับ ในสนามแข่งต้องบอกว่า แค่ขี่วอร์มยางสักรอบสองรอบ สามารถซัดเต็มคันเร่งได้เลย

 
Yamaha_Blog_Aerox155_3

Yamaha_Blog_Aerox155_5

Yamaha_Blog_Aerox155_6

Yamaha_Blog_Aerox155_7

Yamaha_Blog_Aerox155_8

 

     ถ้าย้อนกลับไปถามว่าเครื่องยนต์ของ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ดียังไง ต้องบอกได้เลยว่า ถ้าหากใช้ในชีวิตประจำวัน เวลาเร่งรีบ เครื่องยนต์ BlueCore VVA ที่อยู่ใน ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) เนี่ย สามารถสั่งได้ดั่งใจเลย ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเร่งแซง หรือออกตัว ยิ่งพอรอบเครื่องยนต์ถึง วาล์ว VVA ทำงาน (ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที) ขี่สนุกสุดๆ จึงทำให้เราสามารถทำเวลาในการขี่รถได้ดีขึ้นนั่นเอง ไฟหน้า และไฟท้ายมาในแบบ LED ปัจจุบันไฟหน้า และไฟท้าย ต้องยอมรับเลยครับว่า LED มาแรงซะเหลือเกิน  เหมือนกับคำว่า ของมันต้องมีนั่นแหล่ะ ซึ่งไฟหน้าของ Yamaha Aerox 155 เป็นแบบ LED แบ่งเป็นสองโคมซ้ายขวา ทำให้รถดูโฉมเฉี่ยวดุดันมากๆเลยครับ ไฟท้ายก็มาในแบบ LED ทำให้มองเห็นไฟเบรกได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

 
Yamaha_Blog_Aerox155_9

Yamaha_Blog_Aerox155_10

Yamaha_Blog_Aerox155_11

 

     ครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า เราได้พิสูจน์สมรรถนะ และความแรงของ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ปี 2020 โดยเราได้ไปขับขี่ในสนาม ที่ Motor Sport Park สุวรรณภูมิ ซึ่งตอนแรกต้องบอกว่าในหัวของผมเองคิดว่า จะขี่ได้จริงๆใช่ไหม เพราะคิดว่า ถึงจะเป็นรถสปอร์ตออโตเมติก ก็อาจจะขี่ยากแน่ๆ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิดเลย ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ด้วยความที่เป็นรถสปอร์ตออโตเมติก ที่บอกไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเป็นรถที่ยืน 1 ในพิกัดนี้จริงๆครับ เริ่มต้องแต่ท่านั่งกันก่อน ท่านั่งเป็นท่าที่ต้องบอกว่านั่งสบาย หลังตรง ทำให้ไม่เมื่อยเวลาขับขี่ สำหรับการขับขี่ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ในสนาม จะมีอยู่เรื่องเดียวที่ค่อนข้างความคุมยาก คือการวางเท้านั่นเอง เพราะถ้าเป็นรถแข่งที่เป็น

     ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) จะมีพักเท้าเสริมเข้ามา ทำให้โพซิชั่น ในการวางเท้าดีขึ้นนั่นเอง สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำก่อนลงสนามกัน Yamaha Aerox 155 นั่นก็คือ เซ็ตลมยางเสียก่อนครับ ถ้าแข็งไปอาจจะทำให้ยางแถได้ หลังจากที่จัดการเรื่องลมยางเสร็จแล้ว ต่อไปเมื่อลงสนามครั้งแรก ให้ขี่ช้าๆไปก่อน เพื่อทำการสำรวจไลน์ของสนาม และเป็นการวอร์มยางไปในตัวอีกด้วยครับ สนามสั้นอาจจะวนสัก 3-5 รอบ แต่ถ้าสนามใหญ่ๆก็สัก 1-2 รอบก็เอาอยู่แล้วครับ ถ้าถามว่าฟิลลิ่งในสนามจะมันส์หรือ บอกเลยครับว่า พอปรับตัวได้เท่านั้นแหล่ะครับ มันส์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งต้น ที่ออกตัวได้ดีในส่วนของเอ็นจิ้นเบรก อย่างที่เรารู้ๆกันครับ รถออโตเมติกจะมีน้อยมาซึ่ง ถูกใจผมเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยตัวนักแข่งหลายๆคนชอบขี่รถแบบไหลๆ ตัวผมเองก็เช่นกัน ในส่วนของการพลิ๊กรถ Yamaha Aerox 155 พลิ๊กได้ไวมากเลยๆ ซึ่งสำหรับผมการขี่ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ครั้งนี้ซึ่งตัวรถเป็นรถเดิมๆ อาจจะนอนรถไม่ได้เยอะเท่าที่ควร เนื่องจากติดขาตั่งคู่นั้นเองครับ แต่เพียงเท่านี้ เราก็ได้อารมณ์และฟิลลิ่งมาเต็มๆแล้วครับ โช้กหน้าและโช้กหลังถ้าถามว่าในสนามเนี่ย เดิมๆใช้ได้เลยครับ อาจจะมีดิ้นเล็กน้อย เนื่องจากเป็นค่าที่มาจากโรงงานนั่นเอง

 
Yamaha_Blog_Aerox155_13

Yamaha_Blog_Aerox155_12

Yamaha_Blog_Aerox155_14

Yamaha_Blog_Aerox155_15

Yamaha_Blog_Aerox155_16


     สำหรับฟิลลิ่งการขับขี่บนท้องถนน ต้องบอกว่า ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ปี 2020 เป็นรถที่ตอบโจทย์กับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างดีเลย ไม่ว่าจะเป็นการซอกแซกในสภาวะการจราจรตัดขัด การตอบสนองของคันเร่งสั่งได้ดั่งใจเลยครับ การออกตัวรถมีแรงต้นที่ดีมากๆ ทำให้ผมคิดในใจเลยว่า เห้ย !! รอบมันมาไวขนาดนี้เลย?? ในส่วนของช่วงล่างเองอย่างที่บอกตั้งแต่แรก โช้กหน้าและโช้กหลังที่เซ็ทมาจากโรงงานให้มาพอดีเลยครับ ซึ่งตัวผู้ขับขี่มีน้ำหนัก 76 กิโลกรัม ไม่มีอาการยวบย้วย หรือแข็งกระด้างเลย  การขับขี่ทางไกล เนื่องด้วยความที่เป็นรถออโตเมติกสปอร์ตอัตราเร่งดีอยู่แล้ว ท่านั่งของการขับขี่เป็นท่านั่งที่หลังค่อนข้างตรง ทำให้การขับขี่ไม่เมื่อยเลย สามารถขี่ทางไกลนานๆ ได้สบาย ในส่วนของการขับขี่กลางคืน ไฟหน้าของ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) เป็น Full LED สว่างมั่นใจเป็นอย่างมากเลยครับ เวลาเบรกกะทันหัน ระบบเบรกของ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) มั่นใจเลยว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ

 

     สรุปแล้ว ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ปี 2020 เป็นที่สุดของรถสปอร์ตออโตเมติกจริงๆครับ ตอนสนองผู้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือไม่ว่าเป็นการขับขี่ในสนามแข่งเต็มรูปแบบ ยังไม่พอเท่านั้นอ๊อฟชั่นที่ให้มากับตัวรถก็ครบครัน คุ้มค่ากับราคาของตัวรถจริงๆครับ สมแล้วที่เป็น King Of 155 Sport

ถ้าถามอีกว่าผมชอบ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 (Yamaha Aerox 155) ตรงไหนบ้าง จะสรุปให้ดังนี้

1. เครื่องยนต์ Bluecore 155 cc พร้อม VVA ที่สามารถเร่งและสั่งได้ดั่งใจ แรงสุดในคลาสสปอร์ตออโตเมเติก

2. หน้ารถเบา จึงทำให้เราพลิ๊กรถได้ง่าย พลิ้วมากๆ

3. รับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลซึ่งยังไม่มีค่ายมอไซค์ไหนให้เท่านี้

4. ท่านั่งของตัวรถ เป็นท่านั่งที่สบายไม่เมื่อยในการขับขี่

5. ไฟหน้า FULL LED และไฟท้ายแบบ LED ทำให้เห็นได้ในระยะไกล ไฟเบรกเห็นชัดเจน

Yamaha Aerox 155 มีทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ราคาอยู่ที่

รุ่น ABS VERSION  สีเทา-แดง กับ สีดำ-ฟ้า ราคา 75,900 บาท

รุ่น R VERSION สีเขียว และสีเทา-ฟ้า ราคา 68,400 บาท

รุ่น STANDARD VERSION สีดำ-แดง และ สีน้ำเงิน-ขาว ราคา 65,400 บาท

สามารถกดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่