สำหรับรถมอเตอร์ไซค์เนกเกต (Naked Bike) นั้น ถือว่าเป็นรถแนวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทยเรา เนื่องด้วยวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ที่เหมาะสมกับทั้งในชีวิตประจำวัน มีความคล่องตัว และสามารถนำไปออกทริปในระยะทางกลางๆ ได้แบบสบายๆ ครั้งนี้ทาง GreatBiker เลยขอนำเอาวิธีการขับขี่รถเนกเกต (Naked Bike) สำหรับมือใหม่ มาฝากกันครับ
|
|
ทำความรู้จักกับรถมอเตอร์ไซค์ในแนวเนกเกต (Naked Bike) กันก่อน
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์แนวเนกเกต (Naked Bike) ในประเทศไทยเรานั้น จะแบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางใหญ่ๆ ซึ่งก็คือแนวคลาสสิกเนกเกต ที่จะมีรูปทรงย้อนยุค เช่น Yamaha XSR155 และแนวสปอร์ตเนกเกต ที่จะมีรูปทรงโมเดิร์นทันสมัย เช่น Yamaha MT-15 ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
|
|
ท่านั่งในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เนกเกต (Naked Bike)
ท่ามาตรฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ก็คือ ขาของผู้ขี่จะหนีบกับตัวถังน้ำมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในทางตรง หรือว่าทางโค้ง ซึ่งท่านั่งแบบนี้ จะถือว่าสร้างจุดสมดุลให้กับรถแนวนี้ได้ดีที่สุด สามารถมุดหรือว่าซอกแซกในการจราจรที่ติดขัดได้ง่าย ในขณะที่การวางแขนนั้นจะวางลงไปแบบปกติ เพราะแฮนด์รถนั้นจะเป็นแบบแฮนด์บาร์ ที่ยกสูงขึ้นมาระดับหนึ่ง หลังจะไม่ก้มต่ำมากนัก แต่หากต้องการทำความเร็วก็สามารถหมอบตัวลง เพื่อช่วยในการสร้างแอโร่ไดนามิกในการขับขี่ได้
|
|
การเข้าโค้ง
สำหรับมือใหม่เลย จะแนะนำให้เข้าโค้งความเร็วสูง ในลักษณะขาหนีบกับถังน้ำมันไว้ตลอด แต่ลำตัวท่อนบนจะเอนไปตามทิศทางของโค้ง กางศอกออกไปตามทิศทางของลำตัวที่เอนไป ลักษณะท่านั่งในโค้งแบบนี้ จะง่ายและสร้างความมั่นใจได้ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ ส่วนการเข้าโค้งในความเร็วต่ำ หรือว่าในการยูเทิร์นนั้น ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ได้ แต่หากว่าความเร็วต่ำมากจริงๆ อาจจะต้องใช้การถ่ายเทน้ำหนักของลำตัวท่อนบน ไปทิศทางตรงข้ามกับโค้ง เพื่อรักษาสมดุลให้รถเลี้ยวได้ง่าย
|
|
การขึ้น-ลง ภูเขา หรือว่าทางชันๆ
สำหรับสายออกทริป หรือว่ามีความต้องการใช้งานตัวรถมอเตอร์ไซค์เนกเกต (Naked Bike) ในทางภูเขาหรือว่าทางลาดชันนั้น ในการขี่ขึ้นที่สูง ให้เลือกใช้เกียร์ต่ำ (เกียร์ 1 หรือว่าเกียร์ 2 ก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์) เพื่อให้ตัวรถนั้นมีอัตราเร่งที่ดี ส่วนการขี่ลงจากภูเขาที่มีความชันนั้น ก็ให้เลือกใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 (แล้วแต่ความชัน) ไม่ต้องกำคลัทช์ แค่ทำการประคองคันเร่งให้อยู่ในความเร็วที่คิดว่าเราเอาอยู่ (ถ้าคิดว่าความเร็วพอดีแล้ว ก็ไม่ต้องเติมคันเร่งอีก) ซึ่งการขี่ลงเขาลักษณะนี้ จะทำให้ระบบเอนจิ้นเบรกของเครื่องยนต์นั้น ทำงานเพื่อช่วยชะลอความเร็วไปในตัวด้วย แต่หากว่าบางช่วงที่เจอทางลงแบบชันมากขึ้น ก็สามารถใช้เบรกหน้าและหลังช่วยชะลอความเร็วได้ แต่พยายามอย่ากดเบรกค้างไว้ตลอดเวลา หากความเร็วเหมาะสมแล้วก็ให้ปล่อยเบรก แล้วใช้เอนจิ้นเบรกทำงานแทน เพื่อป้องกันเบรกไหม้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ ที่เริ่มๆ หัดขี่รถมอเตอร์ไซค์แนวเนกเกต (Naked Bike) ซึ่งสามารถนำไปใช้ฝึกฝนได้ และเพิ่มความสามารถในการขับขี่จริงๆ หรือจะไปลงเรียนคอร์สในการฝึกสอนเพิ่มเติม ก็เป็นการต่อยอดที่ดี
|
|
ส่วนรถมอเตอร์ไซค์แนวเนกเกต (Naked Bike) ที่น่าสนใจในท้องตลาดตอนนี้นั้น ทางเราขอแนะนำเป็น Yamaha MT-15 เวอร์ชั่น 2021 ที่มาพร้อมกับการรับประกันถึง 5 ปี (หรือ 50,000 กิโลเมตร) ทำให้ใช้งานได้แบบยาวๆ อย่างมั่นใจ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ 155cc แบบมีระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ทำให้อัตราเร่งของตัวรถนั้น มีความสม่ำเสมอในทุกๆ ย่านความเร็ว ซึ่งจะทำให้การใช้คันเร่งนั้นทำได้ดั่งใจ มีการตอบสนองที่ดี รวมไปถึงฟีเจอร์อย่างระบบแอสซิสท์แอนด์สลิปเปอร์คลัทช์ ที่จะช่วยป้องกันท้ายปัด ขณะที่เราจำเป็นจะต้องลดเกียร์ลงอย่างกระทันหัน ทำให้รถไม่เสียอาการ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้มือใหม่ สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down มาให้ ทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกกับพื้นผิวได้ดีกว่าปกติด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ Yamaha MT-15 ปี 2021 สามารถเช็ก Spec และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ และสามารถเช็กโปรโมชันเพิ่มได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ
|
