Blog-History-Of-Yamaha-MT-Series-800x420
Reviews

ประวัติ MT-Series สปอร์ตเน็กเก็ต สายทอร์คหนัก แรงบิดมหาศาล


youtube embed

 
1

เปิดประวัติมอเตอร์ไซค์ MT-Series สปอร์ตเน็กเก็ต สไตล์ดุดันจากยามาฮ่า

     
     ในปัจจุบันนั้น MT Series จากทางค่าย Yamaha เป็นตระกูลรถไฮเปอร์เนกเกตชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมจากนักบิดทั่วโลก และมีตัวเลือกที่หลากหลายไล่ตั้งแต่รุ่นเรือธงอย่าง MT-10, MT-09 และ MT-07 ไปจนถึง MT-03, MT-25 ที่เล็กกว่า รวมไปถึง MT-15 และ MT-125

 
2
 

     MT Series นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์ของ Yamaha ที่ได้รับการพัฒนามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะละทิ้งรถสปอร์ต

     เนกเกตในรูปแบบเดิมๆ และสร้างนิยามใหม่ขึ้นมาให้กับมัน เพื่อนำคุณค่าในรูปแบบใหม่ๆ มาสู่ผู้ขับขี่ โดยครั้งนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงการเดินทางของ MT Series นับตั้งแต่รุ่น MT-01 มาจนถึงปัจจุบัน ว่ามีความเป็นมาที่เข้มข้นอย่างไรบ้าง
  
     เนื่องจากประวัติของ MT Series นั้น ยาวนานมากกว่า 15 ปี นับตั้งแต่การกำเนิดของ MT-01 ในปี 2005 ไล่มาอีกหลากหลายรุ่นจนถึงปัจจุบัน และการพัฒนารุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาสู่ตลาดนั้น ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ทำให้เรื่องราวของ MT Series นั้นมีความพิเศษในตัวเอามากๆ และทำให้มันแตกต่างไปจากคู่แข่งนั่นเอง

 

จุดเริ่มต้น

 
3
 

     ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ MT-01 เปิดตัวครั้งแรกในฐานะรถคอนเซ็ปท์ที่งาน Tokyo Motor Show ในปี 1999 ในเวลาเดียวกันกับรถซุปเปอร์สปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง YZF-R1 ได้ทำการเปิดตัว และทาง Yamaha เองก็ได้จินตนาการถึงรถมอเตอร์ไซค์ในแนวสปอร์ต

     เนกเกต ที่จะสร้างความแตกต่างอย่างมีคุณค่าออกไปให้กับกลุ่มเป้าหมาย จึงเป็นที่มาของเจ้า MT-01 รถต้นแบบคันนี้

 
4
 

     โดยทาง Yamaha ได้มองว่า ปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์ในแนวสปอร์ตเนกเกตนั้น ไม่มีการติดตั้งชิ้นส่วนแฟริ่งอะไรมากมายให้เป็นภาระกับตัวรถ และมุ่งเน้นไปที่การทำความเร็วรวมกับมีสเปกของตัวรถที่ดึงดูดใจเป็นหลัก แต่ทาง Yamaha ได้ใช้หลักการ Kodo ( “Soul Beat”) ของเครื่องยนต์ ที่มีแรงบิดสูง และการควบคุมที่ดีเยี่ยม มาเป็นองค์ประกอบของตัวรถในตระกูล MT ด้วย รวมถึงการออกแบบตัวรถอย่างพิถีพิถัน โดยแนวคิดใหม่ของรถในตระกูล MT ก็คือ “MT = Mega Torque” (แรงบิดแบบมหาศาล) และเพื่อไม่ให้มีความแตกต่างไปจากรถสปอร์ตเนกเกตจากค่ายอื่นๆ ของญี่ปุ่น ทาง Yamaha เลยพยายามสร้างอัตลักษณ์แบบ “อิวาตะ” (จังหวัดที่เป็นแหล่งกำเนิดของ Yamaha) ที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นด้วย

      เมื่อโมเดลรถคอนเซ็ปท์ MT-01 ได้รับการเปิดเผยสู่สายตาชาวโลกที่งาน Tokyo Motor Show ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมาตลอด มันเลยกลายเป็นหัวข้อข่าวในสื่อยานยนต์อย่างคึกคัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว Yamaha ได้ทำการทดสอบพัฒนามาแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะสร้างรูปแบบใหม่ของรถสปอร์ตเนกเกต ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างให้กับนักบิด โดยประการแรกนั้น MT-01 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศขนาดมหึมาถึง 1,700cc ที่มาจากรถครุยเซอร์ ซึ่งถือว่าไม่เคยมีมาก่อนในรถแนวสปอร์ตเนกเกต

 
5
 
     เริ่มต้นจากการนำเฟรมอลูมิเนียมไดคาสต์ CF ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Yamaha ในขณะนั้นมาใช้ และเป็นของใหม่สำหรับรถในแนวสปอร์ตเนกเกต รวมไปถึงเครื่องยนต์กับเสียงท่อไอเสียที่ดังกึกก้อง จะทำให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินในขณะที่แล่นผ่านถนนที่คดเคี้ยว รวมไปถึงแรงบิดอันมหาศาลที่จะทำให้การขับขี่นั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายหลักของ Yamaha คือ การผลิตรถไฮเปอร์เนกเกตที่ยังไม่เคยปรากฏโฉมมาก่อนนั่นเอง
 
6
 
     ต้นกำเนิดของ MT-01 นั้น คือปรัชญาการพัฒนาแบบ Jin-Ki Kanno อันเป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha ในการสร้างประสิทธิภาพที่สามารถทำให้ผู้ขับขี่รับรู้ได้ โดยมีการตั้งคำถามว่า การขับขี่เป็นเรื่องสนุกสำหรับนักบิดหรือไม่? ความสนุกนั้นเป็นสิ่งที่นักบิดไม่เคยสัมผัสมาก่อนหรือไม่? และชิ้นส่วนกลไกทุกอย่างของตัวรถ รวมถึงรูปทรงและการออกแบบ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับคำถามดังกล่าวทั้งนั้น

 
     
มีจุดที่น่าสนใจอยู่จุดหนึ่งคือเรื่องของท่อไอเสีย โดยปกติเสียงของท่อไอเสียนั้นจะถูกกำหนดให้ลอยออกไปด้านหลังรถมอเตอร์ไซค์ แต่ในมุมมองของ Yamaha นั้น ท่อไอเสียสำหรับ MT-01 จะต้องมีความแตกต่าง นี่คือเหตุผลที่ MT-01 มีท่อไอเสียที่อยู่ใต้เบาะ และมีเสียงที่จะอยู่ใกล้กับผู้ขับขี่มากที่สุด แต่งานนี้ไม่ได้เริ่มต้นและสิ้นสุดด้วยท่อไอเสียเท่านั้น การวิจัยคุณลักษณะความแข็งแกร่งของเฟรมรถ และการออกแบบสวิงอาร์มก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดีเพื่อรองรับ แรงบิดอันมหาศาลของรถสองลูกสูบที่แต่ละตัวนั้น มีปริมาตรมากกว่า 800cc กันเลยทีเดียว

     
โดยการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ MT-01 คันนี้ ได้ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ได้นำเอารุ่นอื่นๆ เพื่อมาเป็นแรงบันดาลใจเลยแต่อย่างใด มันเลยทำให้ Yamaha MT-01 นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมากๆ


     

ความก้าวหน้าของ MT


7

 

     หลังจากที่ MT-01 เปิดตัวครั้งแรกในยุโรป แม้ว่าจะสร้างความแปลกใหม่ได้จากบรรดาสื่อมวลชน และได้รับการยกย่องจากกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบ แต่ความเฉพาะตัวที่ค่อนข้างมากของมัน ทำให้ไม่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในตลาดทั่วไปมากนัก ทำให้ทาง Yamaha มองเห็นศักยภาพในแนวคิดเดิมของ MT-01 และพยายามที่จะนำความสนุกสนานของการขับขี่มาสู่ผู้ใช้งานในวงกว้างมากขึ้น เลยนำมาสู่การพัฒนา MT-03 รุ่นแรก ที่เดินตามรอย MT-01 แต่ปรับในเรื่องของเครื่องยนต์มาจากในรุ่น XT660 ที่จะเน้นแรงบิดโดยเฉพาะ ทำให้มันเป็นรถที่ขี่สนุกเอามากๆ ตามแนวการเดินทางแบบสปอร์ต แต่ก็ยังคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง

 
8
 

     MT-03 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ตรงกลุ่มเป้าหมาย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักบิดชาวยุโรปเป็นจำนวนมาก โดยมันวางจำหน่ายตั้งแต่ในปี 2006 ถึงปี 2013 แต่ถึงจะประสบความสำเร็จแบบนั้น ทาง Yamaha เองก็ยังไม่หยุดแค่นั้น พวกเขาเดินหน้าพัฒนา MT Series กันต่อ เพื่อจะสร้างมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ตเนกเกตรูปแบบใหม่ ที่มีน้ำหนักเบา เพรียวบาง และกะทัดรัด พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับความรู้สึกของผู้ขับขี่ ตามปรัชญา Jin-Ki Kanno ของ Yamaha ให้ดีที่สุด

      จนนำมาสู่แนวคิดสำหรับโมเดลใหม่อย่าง "Torquey & Agile" (แรงบิดและความคล่องตัว) พร้อมกับเครื่องยนต์ครอสเพลนแบบใหม่ที่จะมีให้เลือกอย่างเครื่องยนต์ 2 สูบที่มีข้อเหวี่ยง 270 องศา และเครื่องยนต์แบบสามสูบ

      สำหรับการออกแบบภายนอก แนวคิดก็คือการแสดงประสบการณ์การขับขี่แบบใหม่ ทำให้ตัวรถนั้นมีตำแหน่งการขี่ที่ตั้งตรง โดยมีระยะห่างระหว่างแฮนด์และเบาะนั่งที่สั้นลง รวมไปถึงการออกแบบที่จะเผยให้เห็นองค์ประกอบทางกลไกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมันได้กลายมาเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับ MT Series รุ่นใหม่ๆ หลังจากนี้

 
9
 

     ในการออกแบบเครื่องยนต์สำหรับ MT Series นั้น แรงบิดถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุด ตรงกันข้ามกับรถแนวซุปเปอร์สปอร์ต ที่จะเน้นความเพลิดเพลินกับพละกำลังในรอบสูงเป็นหลัก ทางทีมวิศวกรถึงได้มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในช่วงรอบต่ำถึงกลางสำหรับเครื่องยนต์ใหม่เหล่านี้ ซึ่งเป็นย่านความเร็วที่ได้ใช้บ่อยที่สุดแล้วสำหรับการขับขี่บนท้องถนนทั่วไป และยังสามารถควบคุมได้ง่ายในสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้คือความสามารถของตัวรถที่ทาง Yamaha ได้ตั้งเป้าไว้นั่นเอง

 
10
 
11
 
12
 

     ในขณะที่การพัฒนามาถึงขั้นตอนสุดท้าย เครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 700cc และเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ 900cc ก็ได้ถูกติดตั้งลงบน MT-07 และ MT-09 ตามลำดับ โดยมีจุดขายคือรถมอเตอร์ไซค์ที่มีทั้งแรงบิดที่ยอดเยี่ยม และมีการขับขี่ที่คล่องตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น ภายใต้สโลแกนสุดเท่ว่า Dark Side of Japan (ด้านมืดของญี่ปุ่น) ที่สื่อความหมายอย่างมีนัยสำคัญเอามากๆ เพราะมันเป็นการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กล้าฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ของประเทศญี่ปุ่นออกไป ที่ผู้คนส่วนมากมักจะนึกถึงแต่ด้านสว่างเพียงอย่างเดียว

 

 


ความหลากหลายของ
MT Series

 
13
 

     ความท้าทายใหม่ของ Yamaha ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าสนใจตามมามากมาย โดยมี MT-10 เป็นรุ่นเรือธง ตามมาด้วย MT-09, MT-07, MT-03, MT-25, MT-15 และ MT-125 โดยตั้งแต่ MT-03 ลงมานั้น จะเป็นการเลือกใช้แพลตฟอร์มเครื่องยนต์และแชสซีจาก R-Series แต่ได้รับการพัฒนาตามแนวคิดหลักของตระกูล MT อย่าง Torquey & Agile (แรงบิดที่ทรงพลังและความคล่องตัว) ซึ่งทำให้มันมีคาแรกเตอร์ในการขับขี่ที่แตกต่างกันชัดเจนกับ R-Seires

 
14
     
     ในปี 2021 MT-09 โฉมใหม่แบบ All New ได้ทำการเปิดตัว เพื่อสร้างการขับขี่ที่เน้นแรงบิดอันเข้มข้น แต่ก็ยังต้องให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้มีการเพิ่มปริมาตรกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ได้ทั้งแรงบิดและแรงม้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เสียงของเครื่องยนต์แบบ 3 ลูกสูบ ยังได้รับการพัฒนาให้ส่งเสียงคำรามไปยังหูผู้ขับขี่ได้โดยตรงมากขึ้น ส่งผลให้มันสร้างความตื่นเต้นในการขับขี่ได้ตลอดเวลา
 
15
 
     และ MT-10 ที่ถือว่าเป็นเรือธงของ MT-Seires ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยใช้เครื่องยนต์และแชสซีที่มีพื้นฐานมาจาก YZF-R1 แบบ 4 สูบ แต่ได้รับการออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับแนวคิดที่ต้องการแรงบิดและความคล่องตัว ตามแบบฉบับของรถในซีรี่ย์นี้ ทำให้ MT-10 กลายเป็นรถไฮเปอร์เนกเกตที่สามารถขี่ได้อย่างสนุกสนานทั้งในเมือง ถนนที่คดเคี้ยว หรือทางโล่งๆ ยาวๆ เรียกว่าเอาอยู่หมดจริงๆ
 
16
 

     โดยการออกแบบ MT-10 นั้น ก็ใช้วิธีการที่คล้ายกับ MT-09 และ MT-07 ก่อนหน้านี้ เช่นกันการออกแบบตำแหน่งการขี่ที่ตั้งตรง แต่ในช่วงด้านหน้ารถนั้นจะออกแบบให้สามารถป้องกันลมปะทะได้ดีขึ้น ทำให้ MT-10 นั้นถือว่ามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไปจาก MT-09 และ MT-07 ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

 

 
17
 

     จากนั้น MT-10 ก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิด MT King's Dignity และเปิดตัวในปี 2022 โดยการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ ทำให้มีรูปลักษณ์ที่คู่ควรกับรุ่นพี่ใหญ่สุดของ MT Series รวมไปถึงมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง IMU ที่พัฒนามาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในระดับเดียวกับ YZF-R1 มี รวมไปถึงการออกแบบระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ เพื่อให้ตอบสนองต่อการบิดคันเร่งได้ดียิ่งขึ้น สนุกสนานตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

 
18
 
     อย่างหนึ่งที่ทาง Yamaha พัฒนามาอย่างต่อเนื่องก็คือ เสียงของเครื่องยนต์ ซึ่งทางค่ายได้มอบประสบการณ์ในการฟังเสียงที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ขับขี่ พร้อมๆ กับที่จะลดระดับเสียงรบกวนสำหรับบริเวณรอบๆ ข้าง โดยวิธีการนี้มีการใช้เทคโนโลยีที่เกียวกับเสียงอย่างซับซ้อน โดยการใส่ท่ออากาศสามท่อเข้าไป เพื่อให้เสียงเหนียวนำที่แต่ละท่อสร้างขึ้นนั้น แยกกันสะท้อนอย่างกลมกลืมในช่วงความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน แรงดันเสียงจากแต่ละส่วนได้รับการปรับเพื่อความสมดุล และทำให้เกิดเสียงที่เร้าใจในช่วงความเร็วรอบ 4,000 ถึง 8,000 รอบต่อนาที ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับแรงบิดที่มากเมื่อเร่งความเร็วหรือออกโค้ง เช่นเดียวกับการออกแบบเสียงที่ผู้ขับขี่จะได้ยินนั้น ตะแกรงขยายเสียงได้ถูกวางไว้บนฝาครอบถังทั้งสองด้าน เพื่อเพิ่มเสียงที่สร้างขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ โดยไม่เพียงแต่ส่งเสียงโดยตรงจากช่องระบายของท่อไอดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของท่อต่างๆ ด้วย สิ่งเหล่านี้ได้เน้นยำคุณภาพเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และปลุกเร้าสร้างความตื่นเต้นในการขับขี่เมื่อรอบเครื่องยนต์ถูกบิดไปจนถึงจุดสูงสุด

 

     ทางด้านการออกแบบ MT-10 โฉมใหม่นั้น ตัวรถได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยใช้แนวคิดในการออกแบบ "The Darkest Diamond" เพื่อเน้นย้ำถึงศักดิ์ศรีและความเป็นเอกลักษณ์ ในฐานะพี่ใหญ่รุ่นเรือธงของ MT Seires โดยวิธีการออกแบบคือ ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก และขัดเกลาคุณภาพที่ดีที่สุดของแพลตฟอร์ม เพื่อทำให้เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องนั้นโดดเด่น และนับตั้งแต่ MT-10 รุ่นแรก มาจนถึงการออกแบบรุ่นนี้ ที่ถือว่ามีความโดดเด่นเอามากๆ ด้วยเป้าหมายคือการรวบรวมแนวคิดแรงบิดที่ยอดเยี่ยม และความคล่องตัว ทำให้ MT-10 โฉมล่าสุดนี้ แสดงผลลัพธ์ของทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจน

 
19
 
     การออกแบบ MT Series รุ่นต่างๆ นั้น ไม่มีบรรทัดฐานหรือกฎเกณฑ์ตายตัวที่จะต้องยึดถือโดยเฉพาะ เพื่อให้แต่ละรุ่นย่อยมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน และมีการออกแบบที่มุ่งเน้นไปที่การแสดงสมรรถนะของตัวรถแต่ละคัน ที่มีคาแรกเตอร์ของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน แต่ธีมหลักๆ โดยรวมที่เชื่อมโยงกันของแต่ละรุ่นก็คือ แรงบิดที่ยอดเยี่ยม และความคล่องตัว สิ่งนี้คือสายสัมพันธ์ที่ เหนียวแน่นของครอบครัว MT

   

ทิศทางในอนาคตของ MT Series

 
20
 
     MT Series นั้นจะเป็นอย่างไรบ้างในปีต่อๆ ไป? แม้แต่ทาง Yamaha ที่มีหน้าที่สร้างอนาคตของซีรี่ย์นี้ ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ทั้งหมด เพราะซีรี่ย์นี้มีตั้งแต่รุ่น 125cc ไปจนถึง 1,000cc และทั้งหมดถูกสร้างขึ้นตามแนวคิด แรงบิดที่ยอดเยี่ยม และความคล่องตัว ซึ่งตรงนี้เองคือสิ่งที่สำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางในอนาคตของ MT Series แต่เหล่าแฟนๆ ของตระกูลนี้ก็มั่นใจได้เลยว่า รถ MT รุ่นใหม่ จะถูกนำเสนอออกมาอย่างพิถีพิถันที่สุดในแต่ละรุ่น โดยจุดเด่นของ MT Series นั้นก็คือการ

     แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติของประสิทธิภาพในการออกแบบแต่ละรุ่นย่อย หรือเราอาจจะกล่าวได้ว่า MT Series ก็คือกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จในการรวบรวมความหลากหลายเข้าด้วยกันนั่นเอง

     หากพูดถึงแนวคิดในการพัฒนา MT Series แล้ว ทาง Yamaha เองได้ปฏิเสธที่จะติดอยู่ในบรรทัดฐานเดิมๆ ที่ถูกกำหนดไว้ มาตั้งแต่สมัย MT คันแรกอย่าง MT-01 แล้ว ดังนั้น MT Series รุ่นใหม่ๆ จะยังคงถูกพัฒนาต่อไปในความตั้งใจที่จะสร้างรถไฮเปอร์เนกเกต ที่ทำให้เกิดการขับขี่ที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน

      ผู้นำโครงการของ MT-09 และ MT-07 ได้กล่าวว่า การพัฒนา MT Series นั้น ไม่มีที่สิ้นสุด โดยหากทีมวิศวกรและนักออกแบบรถตระกูลนี้นั้น ได้ถูกปล่อยทิ้งไว้กับอุปกรณ์ในการทำงานของพวกเขา พวกเขาก็จะยังคงทำงานและพัฒนารถในตระกูลนี้ต่อไปตลอด แม้หลายๆ รุ่นที่เปิดตัวออกมาแล้วนั้น จะถือว่าสมบูรณ์ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่ามันถึงจุดสิ้นสุด ความท้าทายครั้งต่อไปอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วจริงๆ

      ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เราจะได้เห็นความน่าตื่นเต้น ความสนุกสนานใหม่ๆ จาก MT Series ที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับเหล่านักบิดอย่างแน่นอน

     อย่าลืมแอดไลน์ยามาฮ่า @yamahasociety มาเป็นชาวแก๊งเดียวกัน ไม่พลาดทุกเทรนด์ของไบเกอร์ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย!