รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc.
รถบิ๊กไบค์
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ
รถกอล์ฟ
ออนไลน์ช้อป
Yamaha Online Shop
BIGBIKE
บิ๊กไบค์
DEALER & SERVICES
ศูนย์บริการ และผู้จำหน่าย
PRIVILEGE
สิทธิพิเศษ
YAMAHA MOTOR SPORT
ยามาฮ่าเรซซิ่ง
ABOUT US
เกี่ยวกับยามาฮ่า
ค้นหา
เมนู
YAMAHA SOCIETY THAILAND
ผลิตภัณฑ์
ข่าวและกิจกรรม
ยามาฮ่าไลฟ์สไตล์ (บล็อก)
มีเดีย
YAMAHA RIDING ACADEMY (YRA)
สั่งจองอะไหล่
สมุดภาพอะไหล่
ติดต่อยามาฮ่า
ดาวน์โหลดโบรชัวร์
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
คู่มือผู้ใช้รถจักรยานยนต์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc. / COMMUTER
รถบิ๊กไบค์ / BIGBIKE
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ / MARINE
รถกอล์ฟ / GOLF CAR
ออนไลน์ช้อป / ACCESSORIES
หน้าหลัก
อุปกรณ์เสริม
หมวกกันน็อก
เครื่องแต่งกาย
ยามาลู้ป
อะไหล่
HOME
MODEL
NEWS
CALCULATOR
FIND A DEALER
TEST RIDING
หน้าหลักศูนย์บริการและผู้จำหน่าย
ผู้จำหน่าย
การรับประกัน
โครงการอบรมผู้จำหน่าย
โปรแคร์
ศูนย์บริการสีเขียว
ตารางตรวจเช็กตามระยะ
แนะนำบริการ
หน้าหลักสิทธิพิเศษ
เข้าสู่ระบบ
สิทธิประโยชน์สมาชิก
ข่าวสาร
ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งหมด
กิจกรรม
บทความทั้งหมด
วิดีโอ
โบรชัวร์
แกลลอรี
wallpaper
สกรีนเซฟเวอร์
เพลง
แอปพลิเคชัน
Home
International
National
Team & Rider Profile
Motorsport Activity
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับ YRA
สมัครอบรม
ข่าวสารและกิจกรรม
02-740-8001
ความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทยามาฮ่าประเทศไทย
ร่วมงานกับเรา
ยามาฮ่ารุกตลาดรถจักรยานยนต์ในเซ็กเม้นท์รถครอบครัวกับการส่งรถครอบครัวรุ่นใหม่ล่าสุดที่อัดแน่นไปด้วยความหรูหราระดับพรีเมี่ยม กับยามาฮ่า ฟินน์ “ฟินน์กว่า ก็โดนกว่า” รถครอบครัวที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ให้มีความพรีเมี่ยมตลอดทั้งคัน ที่มีพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี หัวฉีด พร้อมเกียร์ 4 สปีดแบบเกียร์วน ทั้งมีฟีเจอร์เก๋ๆอีกมากจนได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นอย่างสูง ทั้งยังให้ความประหยัดน้ำมันจากการทดสอบจากสื่อมวลชน ทั้งล่าสุดกับโปรเจ็ค “ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว”ซึ่งล่าสุดได้ผ่านการขับขี่เที่ยวทั่วจังหวัดนครสวรรค์มาแล้วและครั้งล่าสุดที่เกิดกับการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ที่จังหวัดมหาสารคาม กับการขับขี่เที่ยวทั่วเมืองกับระยะทางมากถึง 246 กม.เติมน้ำมันไปเพียง 100 บาทพอดี เข้าสู่โปรเจ็ค ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ที่ผ่านเข้าสู่ทริปการขับขี่เข้าสู่จังหวัดที่สองที่จังหวัดมหาสารคาม ที่สื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์จัดทำทริปขับขี่ท่องเที่ยวขึ้นในรูปแบบใช้งานจริงด้วยความเร็วเสมือนผู้ใช้งานจริงไปในเส้นทางต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้นอกจากสื่อมวลชนแล้วยังได้ชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์มาร่วมพิสูจน์สมรรถนะของยามาฮ่าฟินน์ในครั้งนี้ด้วย โดยการเดินทางเริ่มต้นจากบริษัท อีฮงมดแดงยามาฮ่า จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในจังหวัดมหาสารคามในช่วงเวลา 15.00 น. หลังจากตรวจเช็ครถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นที่เรียบร้อยพร้อมเหล่าสมาชิกผู้ใช้รถจักรยานยนต์อีก 3 คนซึ่งเป็นชาวจังหวัดมหาสารคามมาถึงพร้อมกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวซึ่งในวันแรกนั้นเราวางไว้ถึง 2 จุดด้วยกัน
เข้าสู่การเดินทางจากร้านอีฮงมดแดงยามาฮ่า ขบวนรถยามาฮ่า ฟินน์ ทั้ง 8 คันก็พร้อมเดินทางกับการเริ่มต้นที่แสนง่ายกับระบบสตาร์ทไฟฟ้า หรือที่เรียกตามชาวบ้านว่าสตาร์ทมือ จากนั้นก็เข้าเกียร์ที่แสนจะนุ่มนวลด้วยระบบเกียร์วน 4 ระดับ จากเกียร์ว่างสู่เกียร์ 1 ที่เพียงกดเท้าไปเพียงเบาๆในด้านหน้าของก้านเกียร์ เกียร์1 ก็เข้าง่ายจากนั้นก็ต่อด้วยเกียร์ 2 เกียร์ 3 เกียร์ 4 ที่ทุกเกียร์ล้วนแต่มีความนุ่มนวล ทำความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง ออกจากร้านอีฮงมอแดง รถยามาฮ่า ฟินน์ทุกคันก็เติมน้ำมันลงเต็มถัง จากนั้นก็ขับขี่กันต่อสู่วัดหนองหูลิงจากถนนลาดยางราบเรียบในช่วงแรก จนเลี้ยวเข้าสู่ถนนที่มุ่งตรงสู่วัด สภาพถนนก็เปลี่ยนไป สภาพผิวถนนเปลี่ยนเป็นฝุ่นและขรุขระเป็นหลุดบ่อ ซึ่งยามาฮ่า ฟินน์ ได้รับการออกแบบให้โครงรถเป็นแบบแบ็คโบน ที่ออกแบบขึ้นให้มีความแข็งแรงมีเสถียรภาพในการขับขี่ ลดอาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ได้ดี สวิงอาร์มออกแบบให้มีความแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา ทั้งการทดสอบสมรรถนะในด้านการทรงตัวรวมทั้งระบบกันสะเทือนหน้าและกันสะเทือนหลังที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ซึมซับแรงกระแทกกระทั้นของพื้นถนนได้ดีเยี่ยม ทำให้การขับขี่ไปเป็นอย่างรวดเร็วจนมาถึงวัดหนองหูลิงซึ่งเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และเป็นที่ศรัทธาของชาวมหาสารคาม ทั้งยังเป็นวัดที่ออกแบบอุโบสถรูปทรงเรืออนันตนาคราชสีทอง มีความกว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ซึ่งตัวอุโบสถได้แฝงปริศนาธรรมไว้ให้พุทธได้ศึกษา เราได้ชื่นชมความงามของวัดหนองหูลิงได้สักพักใหญ่จนใกล้ถึงเวลาดวงอาทิตย์จะตก ก็เดินทางต่อสู่ “สะพานไม้แกดำ” สะพานไม้เก่าแก่ที่สร้างขึ้นทอดข้ามพาดผ่านลำห้วยหนองแกดำเพื่อเชื่อมต่อระหว่างวัดดาวดึงษ์แกดำ บ้านแกดำ กับวัดบูรพาวนาราม บ้านหัวขัว โดยสะพานไม้แกดำที่มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยในลำห้วยมีต้นบัวแดงอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากชื่นชมความสวยงามและเดินเที่ยวสะพานจนฟ้าเริ่มมืดแล้วก็เดินทางกลับ ช่วงนี้เราได้เห็นการทำงานของระบบไฟหน้าที่หลอดไฟเป็นแบบฮาโลเจน ที่มีความสว่างไกลส่องสว่างได้ชัดเจนลงบนพื้นถนน ทั้งไฟเลี้ยวก็สว่างชัดยามจะเลี้ยวซ้ายขวา รวมถึงไฟท้ายเมื่อเทียบกับรถครอบครัวรุ่นอื่นๆแล้วยามาฮ่า ฟินน์มีไฟเลี้ยวที่ใหญ่กว่าชัดเจนกว่าเห็นได้ชัดกว่าโดยเฉพาะในระยะไกลๆ ทั้งแผงหน้าปัดก็เห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืนให้การมองเห็นมาตรวัดความเร็วชัดเจน หรือแม้แต่ตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ที่ชัดเจนแต่ไม่รบกวนสายตาเวลามองไปบนถนน เราขับขี่ยามาฮ่าฟินน์ กลับมาสู่ตัวเมืองมหาสารคามก่อนแวะรับประทานอาหารมือค่ำและกลับสู่โรงแรม ซึ่งในวันแรกนี้เราใช้ระยะทางรวมกว่า 90 กิโลเมตร ถือเป็นทริปเดินทางขับขี่ท่องเที่ยวที่สนุกสนานอีกทริปในการขับขี่ในวันแรกนี้
เข้าสู่วันที่สองของการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ที่จังหวัดมหาสารคาม ทริปทัวร์ริ่งออกสตาร์ทของวันนี้กับระบบกุญแจแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการใช้งานได้ในจุดเดียว ไม่ว่าจะเปิดสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ จะล็อครถหรือเปิดเบาะเรียกว่าสะดวกสบายที่สุดในบรรดารถครอบครัว ขบวนทัวร์ริ่งยามาฮ่าฟินน์ออกจากในเมืองมุ่งหน้าสู่ “กู่สันตรัตน์” ซึ่งเป็นศิลปะสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นโรงพยาบาลในสมัยอดีตกาล เราขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ทำความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. กับเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ 115 ซีซีที่มาพร้อมกับสมองกลอัจฉริยะ ECU แบบ FlexFuel Vehicle ที่สามารถเติมน้ำมันเบนซินได้ทุกชนิดรวมถึงแก๊สโซฮอล์E85 เราเดินทางไปแบบฟินน์ฟินน์จนมาถึง “กู่สันตรัตน์” หลังจากชื่นชมความงดงามศิลปะสมัยขอมกันแล้วก็เดินทางต่อสู่วัดพระธาตุนาดูน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวมหาสารคาม เป็นพุทธมณฑลอีสาน เราเข้ากราบสักการะพร้อมเดินเวียนเทียนรอบองศ์พระบรมธาตุเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านช้างทองคำกาแฟขี้ช้าง ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าวัด พร้อมชิมกาแฟขี้ช้างซึ่งมีความหอมและมีรสชาติอร่อยไม่เปรี้ยวไม่ขมทั้งยังนุ่มคอ โดยกาแฟขี้ช้างนี้เป็นกาแฟอราบิก้าที่นำมาให้ช้างกินก่อนที่จะเลือกเอาเมล็ดกาแฟที่มีสภาพสมบูรณ์ในมูลช้างมาผ่านกระบวนการและบ่มอยู่ 2 ปีก่อนที่จะนำมาผลิตเป็นกาแฟขาย โดยกาแฟขี้ช้างราคาละ 400 บาทต่อแก้ว นอกจากนี้ในร้านยังจำหน่ายอาหารหลากหลายประเภทเพื่อเป็นที่พักผ่อนของผู้มาเยือน หลังจากนั้นทริปทัวร์ริ่งยามาฮ่าฟินน์ก็เดินทางสู่พิพิธภัณฑ์บ้านอีสาน ตั้งอยู่สถานีวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยภายในพิพิธภัณฑ์บ้านอีสานนั้นจำลองแบบบ้านของชาวอีสานในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้ของชาวอีสาน ซึ่งยามาฮ่าฟินน์ ให้ความฟินน์กว่าใครเมื่อเป็นรถครอบครัวรุ่นแรกที่มีช่องใส่ของด้านหน้าไม่ว่าจะใส่ขวดน้ำ หรือโทรศัพท์มือถือก็สะดวก ส่วนใต้เบาะนั่งนั้นมีที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 9.7 ลิตร ใส่หมวกกันน็อคครึ่งใบได้ ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกหน้าและดรัมเบรกหลัง ทั้งนี้ยามาฮ่า ฟินน์ มีวงล้อทั้งล้อแม็กซ์ และวงล้อซี่ลวด ให้ผู้ใช้เลือกได้ตามใจต้องการ ขนาดยางที่เพียงพอต่อการใช้งานและการขับขี่ท่องเที่ยวโดยยางหน้ามีขนาด 70/90-17 และยางหลังขนาด 80/90-17
จากนั้นทริปยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เดินทางกลับเข้าสู่ในเมืองมหาสารคามเพื่อร่วมงาน “ยามาฮ่า คัพ เรซ”ที่จัดขึ้นที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ซึ่งจัดการแข่งขันความเร็วเพื่อให้ชาวมหาสารคามได้ชมกัน นอกจากนี้ในงานยังได้เชิญทริปยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เข้าทดลองสนามแข่งเหมือนนักแข่งที่ลงแข่งขันในรายการนี้ อีกทั้งทางยามาฮ่ายังได้จัดเกมการแข่งขัน Yamaha Finn Mechanic โดยนำยามาฮ่าฟินน์มาให้นักแข่งหน้าใหม่ได้ลงขับขี่แข่งขันอีกด้วย...ทั้งนี้ทริปการเดินทางท่องเที่ยวกับยามาฮ่า ฟินน์ ขี่เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ในครั้งนี้ใช้ระยะทางทั้งหมด 246 กิโลเมตร เราทำการเติมน้ำมันกลับลงไปให้เต็มถังปรากฏว่า เราใช้เงินเติมน้ำมันไปเพียง 100 บาท หรือเติมน้ำมันกลับลงไป 3.37 ลิตร ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณหาอัตราความประหยัดน้ำมันแล้วอยู่ที่ 72.99 กม./ลิตร ถือเป็นเป็นอัตราการใช้น้ำมันที่ประหยัดมากกับทริปการขับขี่ท่องเที่ยวในจังหวัดมหาสารคามในครั้งนี้
คำนวณค่างวด
เปรียบเทียบ
ค้นหาผู้จำหน่าย
สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์