รีวิว All New Yamaha XSR155 เน็กเก็ตไบค์ สไตล์สปอร์ตเฮอร์ริเทจ

     หลังจากที่ค่าย Yamaha ได้มีจักรยานยนต์สไตล์ SPORT HERITAGE มาแล้ว 2 รุ่น คือ XSR700 และ XSR900 จำหน่ายไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาเปิดตัวน้องเล็ก XSR155 ซึ่งเป็นพิกัดเครื่องยนต์ที่ Biker สายคลาสสิคชาวไทยรอลุ้นให้เปิดตัวมานานแล้ว โดยใช้พื้นฐานรถเดียวกับรุ่น YZF-R15 และ MT-15 จากภาพข่าว สื่อต่างๆ รูปลักษณ์ของรถที่สวยโดดเด่น กลายเป็นประเด็น Talk of the town เรียกว่าเขย่าวงการ!! หลายคนตื่นเต้นอยากเห็นคันจริงตัวเป็นๆ กับดีไซน์การออกแบบที่เรียกได้ว่าเข้าตา เข้าถึงหัวใจความคลาสสิค หล่อเกินความคาดหมายกว่าที่ผมและเพื่อนๆ หลายคนเคยจินตนาการไว้อีกนะเนี่ย และรายละเอียดสิ่งที่ผมได้สัมผัสมาตามนี้ครับ

     การออกแบบ XSR155 เป็นรถที่ไทยยามาฮ่าได้รับความไว้วางใจจาก ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ให้ทำการออกแบบโดยคนไทย ภายใต้สโลแกน “ขับเคลื่อนวิถีเดิม ให้ชีวิตไปได้ไกลกว่า” Biker สายคลาสสิครู้กันดีครับว่าการดีไซน์ที่พิถีพิถันกับงานประกอบที่ปราณีต คือหัวใจของรถสไตล์คลาสสิค สำหรับ XSR155 ออกแบบได้โดดเด่นมากๆและถือเป็นจุดขายเลยก็ว่าได้ครับ คันนี้ทางผู้ออกแบบได้ใส่ใจในรายละเอียด ใส่ความคลาสสิคเข้าไปในรถรอบคัน เรียกว่ามองมุมไหนก็หล่อครับ ทั้งไฟหน้า LED ทรงกลม แถมโลโก้ XSR ติดอยู่ด้านหน้า, ไฟท้าย LED ทรงกลม และเรือนไมล์ทรงกลม ถังน้ำมันทรงหยดน้ำหรือทรงไข่ตามสไตล์รถคลาสสิค วางสัดส่วนได้พอดีลงตัวรับกับเบาะนั่งตอนเดียวที่ออกแบบได้สวยเหลือเกิน ดึงดูดสายตามาก อีกจุดที่ผมชอบคือตำแหน่งคนซ้อนเบาะท้ายไม่ยกสูงแต่ค่อนข้างเป็นแนวระนาบสามารถซ้อนใช้งานได้จริง ถังน้ำมันที่ใหญ่ และเบาะที่ยาวได้สัดส่วนทำให้มิติรถดูใหญ่ ในครั้งแรกที่ผมเห็นคันจริงมองผ่านๆ นึกว่ารถขนาด 300 ซีซี เลยทีเดียว

     พละกำลังของเครื่องยนต์ เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ MT-15 ขนาด155 cc. มาพร้อมกับวาวล์แปรผัน VVA ช่วยทำให้รถรอบไม่ตก ผมได้ทดสอบขี่ไปกลับ กรุงเทพฯ-โคราช หลายคนมองว่าเป็นรถเล็กจะออกทริปไปตจว. จะไหวเหรอ? บอกเลยครับสบายมาก อัตราเร่งย่านความเร็วต่ำถึงกลาง 0-90 กม./ชม. ไหลลื่นปรูดปราดรอบจัดมันส์มือเลย, 90-110 กม./ชม. ถ้าไล่เกียร์ดีๆ มีแรงบิดไหลต่อเนื่องครับ พอถึง 110-120 กม./ชม. เริ่มมาช้าหน่อย ผมขี่บนถนนมิตรภาพ สามารถวิ่งขวายืนพื้นที่ 110 กม/ชม. ยาวๆ ได้ เอาอยู่นะครับแบบไม่ต้องหมอบเท่าไหร่ จังหวะตบเกียร์เร่งแซงสิบล้ออาจไม่แซงแบบฉีกกระดาษแบบรถบิ๊กไบค์แต่ถ้าทำความเข้าใจรู้จังหวะรถ ก็ไม่มีปัญหาครับ รวมๆ ผ่านครับ ส่วน top speed ผมทำได้ที่ 135 ครับ (ยังเหลือแต่กลัวแล้วครับ55) แต่ผมแนะนำให้ยืนพื้นที่ 110-120 กม/ชม. กำลังดีครับ

     การควบคุมรถ สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุดสำหรับรถคันนี้ ขี่ง่าย ขี่สนุก คลัชนิ่ม บวกกับการออกแบบตำแหน่งท่าขี่ ความกว้างของแฮนด์บาร์ และตำแหน่งการวางเท้า มันตรงกับท่าขี่ผมมาก เบาะก็นุ่มกำลังดี ขี่ไกลยาวๆ เกือบ 300 กม.ยังเฉยๆไม่เมื่อยไม่ปวดหลังเลยแปลกดี สำหรับช่วงล่างโช้คอัพค่อนข้างนิ่มนวลแต่ไม่ย้วย เทเข้าโค้งได้เนียนมากครับรู้สึกมั่นใจ ถ้าคุณคือขาลุยคันนี้เหมาะกับคุณครับ ทางฝุ่น ลูกรัง ลูกระนาดหลุมบ่อ รูดไปเหอะครับสบาย เพราะยางที่มากับรถสามารถขี่ได้ในหลากหลายสภาพถนนจริงๆ ส่วนสายซิ่งความเร็วสูงๆ 120 กม/ชม.ขี่ผ่านสิบล้อ หรือที่โล่งๆ ลมแรงๆ มีอาการวูบวาบนิดหน่อยนะ

     รายละเอียดอื่นๆ

- สลิปเปอร์คลัตซ์ มันเจ๋งมาก ขี่เร็วๆ แล้วลดเกียร์ฉุกเฉินเมื่อเจอรถเบรคกระทันหัน หรือลดเกียร์เพื่อเข้าโค้ง ไม่มีอาการท้ายสะบัดหรือล้อหลังปัดหรือล็อคครับ มั่นใจขึ้นเยอะ

- เบาะค่อนข้างสูงไปนิดนะผมสูง 172 ต้องเขย่งหน่อยๆ อะครับ

- อัตราการประหยัดน้ำมันขี่ทางไกลมาจากโคราช มาเจอในกรุงเทพรถติดนิดหน่อย อยู่ที่ 39.5กม./ลิตร ถือว่าค่อนข้างประหยัดครับคันนี้

- หน้าจอ LED Meter ชอบตรงตัวเลขบอกความเร็ว และตำแหน่งเกียร์ ตัวใหญ่ดี และตำแหน่งบนจออยู่ใกล้ๆกัน ดูง่ายครับ

- คนซ้อนนั่งสบาย ก้นไม่ชาครับ คอนเฟิร์มจากภรรยาผมเอง 55

     สิ่งที่ชอบที่สุดของรถคันนี้

1. ดีไซน์การออกแบบครับ ปรุงได้กลมกล่อมจริงๆ กับเทคโนโลยีที่ให้มาผสานกับงานออกแบบที่ให้อารมณ์คลาสสิค สไตล์สปอร์ตเฮอร์ริเทจ หล่อทุกมุมมอง ลงตัวมากๆเลย

2. ขี่สนุก ขี่ง่ายครับ ขี่แล้วอยากขี่อีกเรียกว่าติดใจ55

3. สามารถใช้ทางออฟโรดได้ ทางฝุ่น ลูกรังเข้าป่า เหมาะกับสายลุยอย่างผมเลยครับ

     แล้วอยากได้อะไรเพิ่มเติม

1. ไฟฉุกเฉิน ไม่มีติดมาให้ครับ คงไปหาติดตั้งเองได้ไม่ยากครับ

2. ไฟเลี้ยวที่ให้มาดูโมเดิร์นไป ถ้าได้รถมาคงต้องรีบเปลี่ยนเป็นแบบคลาสสิคครับ

3. ปุ่มแตร นิ้วโป้งมันเอื้อมไม่ค่อยถึงครับ ใช้รถไปสักพักถึงจะชินและหาตำแหน่งปุ่มเจอ

     ภาพรวมบทสรุป ถ้าเพื่อนๆ ตั้งงบไม่เกิน 100,000 บาท และมีหัวใจที่รักความคลาสสิคแต่ยังอยากได้เทคโนโลยีและสมรรถนะแบบรถสมัยใหม่ ผมให้คันนี้มาเป็นอันดับ1 ในตัวเลือกครับ ในค่าตัว 91,500 บาท โคตรคุ้มกับสิ่งที่ได้ มิติรถใหญ่มากครับ ดูหล่อ ไปไหนใกล้ไกล ไปได้หมดครับ อยากออกทริปไปเที่ยวกับเพื่อนไปได้สบาย อ้อ.. สายคัสตอมอย่าลืมเตรียมงบไว้แต่งรถด้วยนะครับ55 เดี๋ยวมีของแต่งจากหลายสำนักมาเพียบแน่นอน
คลิก!!เช็ค Spec ของ Yamaha MT-15 ได้ที่นี่