วิธีเตรียมรถ Yamaha NMAX ก่อนออกทริป

youtube embed

เตรียมมอเตอร์ไซค์ให้พร้อมก่อนออกทริป กับ Yamaha NMAX

การขี่รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไกล ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีข้อดีคือได้เรื่องของความสะดวกในการเดินทาง อีกทั้งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเดียวที่สัมผัสบรรยากาศระหว่างทางได้อย่างเต็มเปี่ยม

ขี่มอเตอร์ไซค์ทางไกล

ใครว่ารถมอเตอร์ไซค์ต้องขับแค่ในเมืองเท่านั้น ปัจจุบันนี้การขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวต่างจังหวัดยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อดีของรถมอเตอร์ไซค์คือ เข้าถึงได้ง่าย มีราคาไม่สูง มีค่าบำรุงรักษาไม่สูงมากนัก (ถ้าไม่ใช่ BigBike) ค่าพลังงานต่ำ เดินทางได้สะดวก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีการจราจรหนาแน่น การใช้รถมอเตอร์ไซค์นั้น จะช่วยทำให้เราฝ่ากระแสการจราจรอันแสนติดขัดไปได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญหาที่จอดรถง่ายกว่ามาก

รถออโต้ขี่ทางไกล

รถมอเตอร์ไซค์เกียร์อัตโนมัติ หรือรถออโต้ที่เราเรียกกัน หลายๆ คนคงซื้อมาเพื่อใช้งานระยะทางขับขี่สั้นๆ หรือเอาไว้ไปทำงานในชีวิตประจำวันเท่านั้น

โดยเฉพาะรถออโตเมติกอย่าง Yamaha NMAX Connected ที่นอกจากจะใช้งานขับขี่ในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังสามารถนำไปขี่ทางไกลได้อย่างสบายๆ อีกด้วย เพราะเป็นรถที่มีพละกำลังจัดจ้านด้วยเครื่องยนต์ Blue core 155 cc พร้อมวาล์วแปรผัน VVA ช่วยทำให้อัตราเร่งช่วงกลางถึงปลาย ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือท่านั่งของเจ้า Yamaha NMAX Connected สามารถยืดขาออกไปด้านหน้าได้ทำให้เปลี่ยนอริยาบทขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี

การเตรียมตัวก่อนขี่ทางไกล

ในเมื่อมีรถอยู่แล้ว ถัดมาก็ต้องเตรียมความพร้อมก่อนขี่ทางไกล ซึ่งต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งคนขับ, ผู้โดยสาร และยานพาหนะของเรา ส่วนอุปกรณ์การขับขี่ที่ควรใช้งานมีอะไรบ้างนั้น มีดังนี้

1. หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ เพราะจะช่วยเรื่องของอากาศพลศาสตร์ ทำให้ขี่บนความเร็วสูงได้ดี และลดความเหนื่อยล้าได้
2. โม่งคลุมหัว ช่วยซับเหงื่อ และทำให้สวมหมวกกันน็อกได้ง่าย
3. ถุงมือสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อป้องกันอันตรายขณะขับขี่ โดยเฉพาะหินที่สามารถดีดมาโดนมือ ทำให้บาดเจ็บได้
4. เสื้อการ์ด หรือเสื้อแจ็กเก็ต
5. กางเกงขายาว หรือกางเกงการ์ด
6. รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าขี่มอเตอร์ไซค์

การเตรียมรถก่อนขี่ทางไกล

ในส่วนของการเตรียมรถจักรยานยนต์ให้พร้อมสำหรับขี่ทางไกลนั้น ควรเช็คลิสตามนี้
1. ตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้า ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ต้องทำงานปกติ
2. ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเครื่อง โดยการเช็คผ่านหน้าจอเรือนไมล์ ดูอายุของน้ำมันเครื่องได้
3. ตรวจสอบล้อ,ยาง และเบรก
4. พกอุปกรณ์ซ่อมรถพื้นฐานไปด้วย ได้แก่ไขควงและประแจ แนะนำเป็นประแจเลื่อน เพราะเผื่อใช้กับรถคันอื่นได้ด้วย

การขี่รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไกล

ในการขี่รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไกล หากขับขี่ในระยะทางราว 300 กิโลเมตรขึ้นไป สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 300cc จะถือว่าเป็นการเดินทางไกลแล้ว เพราะรถมอเตอร์ไซค์พิกัดนี้ มักจะทำความเร็วสูงสุดได้ราวๆ 120 กม./ชม. ทำให้จะใช้เวลาเดินทางที่ค่อนข้างมากกว่ารถ BigBike พอสมควร การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์พิกัดนี้ ควรมีการแบ่งช่วงการพักคน + เติมน้ำมันรถ เพื่อทำให้การขับขี่นั้นราบรื่นตลอดเส้นทาง และเหนื่อยน้อยที่สุด แนะนำให้วางแผนการขับขี่ตามนี้

1. แวะพักทุกๆ 1-2 ชั่วโมง หรือ 100-200 กม.
2. รถที่มีถังน้ำมันความจุน้อยกว่า 10 ลิตร ควรเติมน้ำมันทุกครั้งที่แวะจอด
3. ถ้าง่วง หรือเหนื่อย ควรจอดพัก
4. หากขี่มาด้วยระยะทางมากกว่า 500 กม. ควรเช็กลมยางอย่างน้อย 1 ครั้ง

รูปแบบการจัดขบวน หากขี่เป็นกลุ่ม

ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่ม แต่ละคนมีทักษะการขับขี่ไม่เท่ากัน ก่อนเริ่มต้นการขับขี่ควรเรียกประชุมพูดคุยทำความเข้าใจกติกาการขับขี่ให้เข้าใจตรงกันว่าควรขับขี่ในรูปแบบลักษณะใด เพื่อทำให้การเดินทางมีความปลอดภัยสูงสุด เพราะเป้าหมายของการขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวคือการกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ

ควรขี่เป็นขบวนในลักษณะสลับฟันปลา เพื่อทำให้ผู้ขับขี่ด้านหลัง สามารถมองเห็นทิศทางด้านหน้าได้อย่างดาย

หากมีผู้ขับขี่เป็นจำนวนมาก ควรมีตำแหน่งคนขับนำ และคนปิดท้าย โดยคนขับนำ ควรเป็นคนที่ทราบเส้นทางเป็นอย่างดี หรือชำนาญพื้นที่ ส่วนคนที่ปิดท้าย ควรเป็นคนที่มีทักษะสูง สามารถแก้ไขสถานการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ออกทริป เกิดอุบัติเหตุ ทำอย่างไร

อุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ทว่าหากเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่เดินทางแล้ว ควรตั้งสติให้ดี และลำดับความสำคัญให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้โดยง่าย

1. กรณีรถล้มแปะ ถือว่าเป็นอุบัติเหตุอย่างเบา หากผู้ขับขี่และผู้โดยสาร(ถ้ามี) ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ สามารถยกรถขึ้นมา สำรวจความเสียหายเบื้องต้น ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานหากต้องนำรถเข้าซ่อมแซม หรือเคลมประกันภัย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วการล้มแปะ จะมีความเสียหายเพียงเล็กน้อยมากๆ

2. กรณีประสบอุบัติเหตุลื่นล้ม แต่ไม่ร้ายแรง หากยังมีสติอยู่ ควรสำรวจร่างกายให้ดี หากไม่มีอาการปวดหรือเจ็บตรงไหน ควรตรวจเช็คตามจุดข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ คอ บ่า ไหล่ แขน ขา เอว ว่าสามารถขยับได้ปกติดีหรือไม่ หากไม่มีอาการใดๆ จึงค่อยสำรวจว่ารถมีความเสียหายขนาดไหน หากเสียหายมาก ไม่ควรขับขี่ต่อ ควรเรียกบริษัทประกันภัยเข้าทำการช่วยเหลือจะดีกว่า

3. กรณีประสบอุบัติเหตุลื่นล้มอย่างร้ายแรง หรือในกรณีที่หมดสติ ไม่ควรทำการขยับร่างกายผู้บาดเจ็บ ควรเรียกรถกู้ภัยเข้ามาทำการช่วยเหลือจะดีกว่า เพราะเราไม่มีทางทราบว่าร่างกายเราเสียหายตรงไหนหรือไม่ ควรให้ผู้ชำนาญการเข้ามาดำเนินการ เมื่อนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลแล้วค่อยจัดการเรื่องรถต่อไป

Yamaha Y-Connect ช่วยทำให้สะดวกขึ้น

Yamaha Y-Connect คือแอปที่ช่วยทำให้การเดินทางไกลของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะในแอป Y-Connect นี้ สามารถแจ้งเตือนการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และแบตเตอรี่เมื่อถึงเวลาที่ควรต้องเปลี่ยนช่วยให้รถมีความพร้อมในการทุกการเดินทาง

นอกจากจะคอยแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความเข้ามาในมือถือผ่านหน้าจอเรือนไมล์ของรถแล้ว ยังสามารถเก็บสถิติการขับขี่ย้อนหลังของเราได้อย่างละเอียดยิบ ตั้งแต่จุดที่เริ่มต้น เส้นทางที่ขับผ่าน ไปจนถึงจุดที่เราจอดรถ โดยสามารถเก็บข้อมูลของระยะทางขับขี่ได้, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ก็สามารถเก็บบันทึกไว้ได้โดยอัตโนมัติ และไฮไลท์สำคัญคือสามารถแชร์ข้อมูลนี้ไปเปรียบเทียบกับผู้ใช้งานรถท่านอื่นๆ ภายในแอปฯ ได้ด้วย

Yamaha NMAX Connected ขี่ออกทริป

Yamaha NMAX Connected นอกจากจะใช้งานขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ยังใช้งานขับขี่เดินทางไกลได้อย่างสะดวกสบายด้วย จากขุมพลังของเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ที่ช่วยทำให้รถมีอัตราเร่งช่วงกลางและปลายที่ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การขับขี่ด้วยความเร็วยืนพื้นราวๆ 100-110 กม./ชม. ของ NMAX ทำได้อย่างสบายๆ
ตำแหน่งท่านั่งของตัวรถ จัดว่าตอบโจทย์การเดินทางด้วยตำแหน่งวางเท้าแบบยืดไปด้านหน้า ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนท่าทางการขับขี่ให้สะดวกสบายมากกว่าการวางเท้าไว้บนฟลอบอร์ดเพียงอย่างเดียว

พละกำลังเครื่องยนต์ของ Yamaha NMAX Connected จัดว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลอย่างแน่นอน แม้ในเส้นทางเขาที่มีความลาดชันสูง กำลังของเครื่องยนต์ก็ยังเหลือมากเพียงพอที่จะพาเราขึ้นสู่เส้นทางธรรมชาติอันสวยงามได้อย่างสบายๆ

นอกจากนี้ การทรงตัวของรถถือว่าออกแบบมาได้ดี ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมากๆ ทำให้เราสามารถทำความเร็วในโค้งได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งใครที่ชอบเล่นโค้งบ่อยๆ บอกเลยว่าถ้าขี่ Yamaha NMAX คันนี้ ขึ้น-ลงเขา สนุกอย่างแน่นอนครับ

ราคา Yamaha NMAX Connected

Yamaha NMAX Connected มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีเขียว, สีแดง และสีเทา เปิดราคาแนะนำที่ 96,400 บาท ท่านที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

ดูรายละเอียดของรุ่น Yamaha NMAX Connected เพิ่มเติมได้ที่นี่