warning-sign-motorcycle-air-filter_Cover2
Tip & Tricks

จับสัญญาณเตือน! ไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ควรเปลี่ยนตอนไหน?

 

ไส้กรองอากาศ (Air Filter) ของรถจักรยานยนต์ คือ ชิ้นส่วนที่ช่วยในการกรองและดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ได้ เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ช่วยให้รถมอเตอร์ไซค์ของเราทำงานได้ดีขึ้น

แน่นอนว่าชาวไบค์เกอร์หลายๆ คนคงรู้จักกับประโยชน์ข้อนี้ของไส้กรองอากาศมอเตอร์ไซค์ ทำหน้าที่อะไรกันอยู่แล้ว แต่เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไส้กรองอากาศยังมีให้พูดถึงอีกหลายเรื่อง อย่างวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักประเภทของไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ และการดูแลรักษาที่ใครๆ ก็ทำตามได้
                                      

 
warning-sign-motorcycle-air-filter_1
 
1. ประเภทของไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์
 

ไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์มี 3 แบบ คือ “ไส้กรองอากาศแบบกระดาษ” หรือ “ไส้กรองอากาศแบบแห้ง” นิยมติดตั้งมากับตัวรถจักรยานยนต์มากที่สุด ข้อดีคือสามารถดักจับฝุ่นได้ดีที่สุด ต้นทุนต่ำ ข้อด้อยคืออากาศผ่านได้ไม่ดี กำลังรถจักรยานยนต์ก็จะลดลงตามไปด้วย และอายุการใช้งานที่น้อย ส่วนมากจะอยู่ที่ไม่เกิน 10,000 กิโลเมตร ก็ต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่แล้ว เพราะไส้กรองอากาศแบบกระดาษไม่สามารถนำไปล้างทำความสะอาดได้ เมื่อสกปรกแล้วต้องทิ้งอย่างเดียว

“ไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์แบบผ้า” เป็นไส้กรองอากาศที่นิยมใช้ในรถจักรยายนยนต์ทุกประเภทมากที่สุด แม้จะมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศน้อยกว่าไส้กรองอากาศแบบกระดาษ และให้อากาศไหลผ่านได้มากกว่าแบบกระดาษ ข้อดีที่แตกต่างของไส้กรองอากาศแบบผ้าก็คือ มีอายุการใช้งานนานถึง 50,000 กิโลเมตร เพราะดูแลรักษาง่าย สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ อากาศผ่านได้ดีกว่า ส่วนราคาก็จะสูงกว่าไส้กรองอากาศแบบกระดาษเล็กน้อย

“ไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์แบบสเตนเลส” คือไส้กรองอากาศที่เหมาะกับรถจักรยานยนต์ที่เครื่องยนต์แรงๆ เพราะเป็นไส้กรองอากาศที่อากาศไหลผ่านได้ดีที่สุด แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกในอากาศที่น้อยกว่าทั้ง 2 แบบ ที่พูดถึงไปก่อนหน้าเหมาะสำหรับใช้ในรถแข่งหรือรถที่ต้องการอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์มากๆ

 
2. วิธีสังเกตเมื่อไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์สกปรก

เมื่อไส้กรองอากาศสกปรกรถจักรยานยนต์ของเราอาจจะส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการแปลกๆ ของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นไปได้หลายอาการตั้งแต่ กำลังเครื่องยนต์ตก บิดคันเร่งแล้วไม่ตอบสนองเหมือนเดิม หรือเครื่องยนต์อาจมีอาการสั่นผิดปกติ สตาร์ตไม่ค่อยติด เพราะการไหลเวียนของอากาศไม่ดีส่งผลให้การเผาไหม้ไม่มีประสิทธิภาพ กินน้ำมันมากกว่าปกติ ควันดำ ฯลฯ

3. 
ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ตอนไหน?

ไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ ควรเปลี่ยนหลังจากใช้งานรถจักรยานยนต์ที่ระยะทางประมาณ 10,000 - 20,000 กิโลเมตร หรือเร็วกว่านั้นถ้าเราขับขี่บนทางที่มีฝุ่นเยอะ เช่น เขตก่อสร้าง หรือ ทางลูกรัง

 
 
warning-sign-motorcycle-air-filter_2

4. วิธีทำความสะอาดไส้กรองอากาศรถจักรยานต์

การทำความสะอาดไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ แนะนำสำหรับไส้กรองอากาศที่เป็นแบบผ้าหรือแบบสเตนเลสเท่านั้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • ถอดไส้กรองอากาศออกมาแล้วใช้ที่เป่าลมหรือไดร์เป่าผมเป่าไส้กรองอากาศจากด้านในออกด้านนอกโดยใช้ลมธรรมดา

  • ถ้าไม่มีที่เป่าลมหรือไดร์เป่าผมให้ใช้แปรงขนอ่อนปัดเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกหลุดออกจากไส้กรองอากาศ

  • ใช้น้ำยาล้างไส้กรองอากาศหรือน้ำยาล้างจานทั่วไปฉีดให้ทั่วไส้กรองอากาศ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

  • นำไส้กรองอากาศไปล้างน้ำสะอาดจนกว่าน้ำยาล้างไส้กรองอากาศหรือน้ำยาล้างจานจะหมดไป แล้วตากแดดให้แห้งสนิท

  • พ่นน้ำยาเคลือบไส้กรองอากาศแล้วตากแดดให้แห้งอีกครั้ง

  • ติดไส้กรองอากาศเข้าที่เดิม


 

ทั้งหมดนี้ คือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไส้กรองอากาศรถมอเตอร์ไซค์ที่เรานำมาฝากชาวไบค์เกอร์ เพราะการเลือกไส้กรองอากาศที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับรถมอเตอร์ไซค์ จะช่วยให้รถมีกำลังแรงขึ้นแถมประหยัดน้ำมันอีกด้วย นอกจากนี้อย่าลืมหมั่นสังเกตและตรวจเช็กไส้กรองอากาศมอเตอร์ไซค์อยู่เสมอ หากพบสัญญาณเตือนตามที่เราบอกควรเปลี่ยนไส้กรองทันที เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยของทั้งตัวคุณเองและผู้ร่วมทาง โดยสามารถเข้าไปตรวจเช็กสภาพไส้กรองอากาศรถจักรยานยนต์ กับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ศูนย์ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศ