4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_Cover
Tip & Tricks

4 เคล็ดไม่ลับ เตรียมตัวก่อนไปทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไรให้ผ่านฉลุยในรอบเดียว!

 
    ก่อนที่จะขับขี่ยานพาหนะอย่างรถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนนั้น สิ่งที่ผู้ขับขี่ควรต้องมีเป็นอันดับแรกก็คือใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้กับเหล่าไบค์เกอร์มือใหม่กัน จะต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ไปดูกัน

4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_1 


1.จองคิวอบรมสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

    ก่อนจะทำการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกที่ได้กำหนดไว้ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ใหม่ จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร การอบรมและทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ 5 ชั่วโมง(กรณีที่อบรมกับกรมการขนส่งทางบก) หรือในกรณีที่อบรมกับทางโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกจะต้องอบรมหลักสูตร 15 ชั่วโมง โดยช่องทางการจองคิวอบรมสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ สามารถจองได้ 4 ช่องทาง ดังนี้

  • กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งฯ ใกล้บ้าน

  • จองผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue

จองคิวผ่านทางโทรศัพท์ เบอร์ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือเบอร์ 1584
 

หลังจากที่ทำการจองคิวอบรมใบขับขี่มอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมเอกสารสำหรับใช้ยื่นเรื่องดำเนินการ ดังนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาอย่างละ 1 ฉบับ 

  • ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน เพื่อยืนยันตนเองว่าไม่ได้เป็นโรคต้องห้ามที่อยู่ในข้อกำหนด

  • **ในกรณีที่ผู้ขับขี่ทำการอบรมนอกกรมขนส่ง ต้องเตรียมเอกสารใบรับรองการอบรมมาประกอบด้วย


เมื่อยื่นเอกสารเสร็จแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนของการทดสอบร่างกาย โดยการทดสอบร่างกายจะมีดังนี้

  • ทดสอบตาบอดสี

  • ทดสอบสายตาทางลึก

  • ทดสอบสายตาทางกว้าง

  • ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)


 

2. ข้อมูลสำนักงานขนส่งของแต่ละจังหวัด


สำหรับผู้ขับขี่ที่จะทำการจองคิวผ่านกรมการขนส่งทางบก หากเป็นผู้ขับขี่ที่มีทะเบียนบ้านที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถเข้าไปจองคิวอบรมได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั้ง 5 แห่งได้ ดังนี้ 1.สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 1 (บางขุนเทียน) 2. สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 2 (ตลิ่งชัน) 3. สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 3 (สุขุมวิท 62) 4. สำนักงานขนส่งพื้นที่เขต 4 (หนองจอก) และสำนักงานใหญ่พื้นที่ 5 (จตุจักร) แต่หากเป็นผู้อาศัยอยู่ต่างจังหวัดให้ทำการจองคิวที่สำนักงานขนส่งของแต่ละจังหวัดหรือพื้นที่ใกล้เคียงของคุณ
 

3. สอบภาคทฤษฏี


หลังจากที่เตรียมเอกสารทำใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงรับการอบรมเป็นระยะเวลา 5 ชั่วโมง ในหลักสูตรขอรับใบอนุญาตขับขี่ใหม่ โดยจะประกอบไปด้วยหัวข้อดังนี้
  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (กฎหมายรถจักรยานยนต์ กฎหมายแพ่ง กฎหมายจราจรทางบก เครื่องหมายจราจร การบำรุงรักษารถ เป็นต้น)

  • จิตสำนึกและมารยาทในการขับขี่

  • ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาล


เมื่อทำการอบรมเสร็จแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการสอบภาคทฤษฎี จำนวน 50 ข้อ โดยสามารถเข้ารับการทดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ประเมิน 90 % (45 ข้อ) หากสอบไม่ผ่านจะต้องทำการสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังสอบ


 
4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_2

 

4. สอบภาคปฏิบัติ

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการทำใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์ ก็คือการสอบภาคปฏิบัติ โดยในการสอบภาคปฏิบัติเพื่อขอรับใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์จะมีการทดสอบด้วยกันทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้


1.การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร

จะเป็นการสอบด้วยการขับรถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามป้ายจราจรให้ถูกต้อง

 
4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_3


2.การขับรถทรงตัวบนทางแคบ

ผู้เข้ารับการอบรมและทดสอบจะต้องทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ทรงตัวบนกระดานแคบที่มีความยาว 15 เมตร และต้องทรงตัวให้ได้มากกว่า 10 วินาทีขั้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน


 
4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_4

 
4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_5


3.การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบ รูปตัว Z

ผู้ขับขี่จะต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว Z ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร โดยห้ามชนสิ่งกีดขวางต่างๆ ตลอดเส้นทาง

4.การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและขวา รูปตัว S

ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว S ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร และไม่ชนสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง

 
4-secret-tips-to-prepare-yourself-before-getting-a-motorcycle-license-how-to-pass-with-ease-in-one-round_6


5.การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง

ผู้ขับขี่จะต้องขับรถด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนเส้นทางที่กำหนดไว้ให้ โดยห้ามขับชนสิ่งกีดขวางใดๆ ตลอดทั้งเส้นทาง


ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร

หลังจากผ่านการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้ว จะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการรวมทั้งสิ้น 205 บาท โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • ค่าธรรมเนียมขอมีบัตร 5 บาท

  • ค่าทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท

  • ค่าถ่ายรูปติดบัตรสมาร์ตการ์ด 100 บาท


 
    เพียงแค่นี้คุณก็จะได้รับใบขับขี่ มอเตอร์ไซค์เป็นของตนเองและสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะในเมืองหรือออกทริปต่างจังหวัดอย่างถูกฎหมายและหายห่วงเมื่อโดนเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ผ่านฉลุยในรอบเดียว ที่ทางเรานำมาฝากชาวไบค์เกอร์มือใหม่หรือบุคคลที่ต้องการจะทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้ได้รู้และเตรียมตัว เตรียมเอกสารสำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์กันก่อน เมื่อจองคิวและไปถึงสถานที่สอบแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลา