การได้ออกไปท่องเที่ยวในวันหยุดถือเป็นสิ่งที่ใครหลายคนฝันหา ไม่ว่าจะไปแบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 2 วัน 1 คืนก็ตาม แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลามากนัก การได้ออกไปท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะเหล่าไบค์เกอร์ที่มีรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่พร้อมจะออกเดินทางไปแบบค่ำไหนนอนนั่น ถึงไหนถึงกันอยู่เสมอ วันนี้เราจะขี่ Yamaha YZF-R3 2023 พาเที่ยวนครปฐมแบบ One Day Trip ให้เหล่าไบค์เกอร์ได้ปักหมุดเที่ยววันหยุดแบบชิลล์ๆ เรียกว่าไปวันเดียวคุ้ม จะมีสถานที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
|
|
1.พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย หรือ หอภาพยนตร์
เปิดทริปที่เที่ยวนครปฐมที่แรกกันแบบเอาใจคอหนังและคนรักหนัง กับพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ หอภาพยนตร์ ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล ที่เป็นเหมือนหอจดหมายเหตุสำหรับภาพยนตร์ที่มีในต่างประเทศ เพราะเป็นสถานที่จัดเก็บ อนุรักษ์ความเป็นหนังในทุกมิติ ทั้งฟิล์มภาพยนตร์ไทย การซ่อมแซม โรงหนังเสมือนจริง และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยให้คนที่มีใจรักได้ศึกษาค้นคว้า
ล่าสุดมีตึกหลังใหม่ดีไซน์เท่ๆ ชื่อสรรพสาตรศุภกิจที่เป็นทั้งโรงหนัง (3 โรง) ห้องสมุดที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือ นิตยสาร รวมถึงตำราที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสารคดีข่าว และสุดท้ายคือพื้นที่จัดนิทรรศการที่มีทั้งแบบชั่วคราวและระยะยาวไว้ให้ผู้คนเชื่อมต่อความชอบถึงกันและกันผ่านการพูดคุยและดูหนัง ใครรักชอบหรือเป็นสายหนังตัวจริงควรไปอย่างยิ่ง
วันเวลา เปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00 น.
|
|
2.Woodland เมืองไม้
มาต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานไม้แกะสลักสวยงาม ทรงคุณค่าและหาชมได้ยากในยุคนี้ Woodland เมืองไม้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลดอนแฝก อำเภอนครชัยศรี ภายในมีการจัดแสดงในรูปแบบ Modern Museum ชื่อนิทานเมืองไม้ แบ่งออกเป็น 10 ห้อง โชว์งานไม้แกะสลักกว่า 2,000 ชิ้น ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป อาทิ ห้องคริสต์ เป็นชิ้นงานแกะสลักจากแกนของไม้สักทองโดยฝีมือช่างแกะสลักชาวฟิลิปปินส์ จำลองให้เหมือนโบสถ์คริสต์ ใช้เวลาสร้างถึง 10 ปี ส่วนไฮไลท์อยู่ที่ห้องโลกใต้บาดาล ห้องพญานาค และห้องเทวาณฤมิตร ที่ใช้ซากไม้เทพทาโรซึ่งเป็นไม้มงคลพระราชทานทางภาคใต้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มาแกะสลักขึ้นรูปจนได้เป็นชิ้นงานสุดวิจิตร
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวนครปฐมที่ไบค์เกอร์สายอาร์ต คนรักงานไม้ไม่ควรพลาด! นอกจากนี้ยังเปิดคอร์สสอนศิลปะ วาดรูปให้นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวที่สนใจได้ลับฝีมือท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอีกด้วย
วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน 09.00-17.00 น.
|
|
3.เมืองรัตติยา
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครปฐมที่ไบค์เกอร์สายเที่ยวไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน อำเภอบางเลน เมืองรัตติยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติร่วมสมัยในบรรยากาศย้อนยุค ในรูปแบบของเมืองที่จำลองมาจากเมืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่สวยงามและสมจริง ทั้งประตูชัย ป้อมปราการ กำแพงเมือง ฯลฯ ซึ่งใช้เป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องศรีอโยธยา มีจุดเช็กอินให้ถ่ายรูปไม่ได้หยุด โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญอย่างสะพานแขวนสีแดง ระหว่างวันมีกิจกรรมการแสดงศิลปะการต่อสู้ให้ชมรอบละประมาณ 1 ชม. อีกด้วย
เดินถ่ายรูปจนเหนื่อยอยากเติมพลังที่นี่ก็มีร้านอาหารให้ฝากท้องมื้อหนัก และคาเฟ่ริมน้ำให้ไว้พักจิบกาแฟชมวิวแม่น้ำท่าจีนแบบชิลล์ๆ ขากลับอย่าลืมของฝากที่มีให้เลือกมากมายทั้งอาหาร สิ่งทอ ของตกแต่งบ้าน งานฝีมือ ศิลปะประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร รับรองว่าขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวที่นี่ที่เดียว… ได้ครบทุกเรื่องแบบไม่มีตกหล่น!
วันเวลา เปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00-17.30 น.
|
|
4.อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ
นี่คือที่เที่ยวนครปฐมที่เหมาะกับไบค์เกอร์สายเขียว ที่บอกอย่างนี้เพราะอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสมุนไพรและธรรมชาติวิทยาระดับโลก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านพฤกษศาสตร์ด้วย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ภายในอุทยานฯ แห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมพืชสมุนไพรไทยหายากที่มีอยู่จริงในตำราเอาไว้มากที่สุดถึง 800 ชนิด มุ่งหวังสร้างประสบการณ์จริงในการใช้สมุนไพรไทยที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวของคนยุคนี้ ให้เข้าใกล้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าห้องเรียนธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ แถมได้สำรวจและทำความรู้จักพืชสมุนไพรไทยอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมีหลายลานกิจกรรมและห้องนิทรรศการให้เลือกมากมาย อาทิ ลานสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ลานไม้เลื้อย หอดูนก ฯลฯ และอาคารใบไม้สามใบที่บรรจุห้องนิทรรศการพร้อมต้อนรับผู้สนใจทุกเมื่อ ภายในยังมี Cafeteria ไว้พักเบรกจิบกาแฟหอมๆ และร้านขายของที่ระลึก ความพิเศษคือตัวอาคารเป็นผนังกระจกทำให้สามารถมองเห็นลานนานาสมุนไพรได้อย่างชัดเจน… แค่เห็นพื้นที่สีเขียวบรรยากาศร่มรื่นอย่างนี้ รับรองว่าแม้ในวันที่ร้อนอบอ้าวร่างกายก็พร้อมที่จะผ่อนคลาย ไบค์เกอร์สายเขียวไม่ควรพลาด!
วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00
|
|
5.ถนนสีชมพู ชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตรฯ กำแพงแสน
จบทริปเที่ยวนครปฐมด้วยบรรยากาศที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศ เรียกว่าไม่ต้องเดินทางไกลให้เหนื่อยก็ได้ชื่นชมความสวยงามเป็นอาหารตากับถนนสีชมพูที่เต็มไปด้วยดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ (Tabebuia Rosea) หรือตาเบบูญ่าดอกสีชมพูบานสะพรั่งสองข้างทาง ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งความสวยงามนี้มีที่จากแนวคิดการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็นแนวกันลม ให้ความร่มรื่นและเป็นร่มเงาในอนาคต จนถึงปัจจุบันมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กว่า 1,258 ต้น! เริ่มตั้งแต่พื้นที่ภายในของมหาวิทยาลัยเรื่อยไปจนถึงสองข้างทางถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ (หน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ซึ่งเป็นพิกัดไฮไลท์ที่เราจะได้เห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสวยที่สุด และแน่นอนว่ามีนักท่องเที่ยวเช็กอินถ่ายรูปมากที่สุดอีกด้วย
ความพิเศษต่อมาคือต้นชมพูพันธุ์ทิพย์บางโซนมีอายุเก่าแก่กว่า 40 ปี เป็นกลุ่มที่ปลูกตั้งแต่ปี 2520 และได้รับการขึ้นทะเบียน “รุกข มรดกแผ่นดิน” โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์จะเริ่มออกดอกให้เห็นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และบานสะพรั่งในช่วงเดือนมีนาคม ทุกปีมหาวิทยาลัยฯ จะจัด “เทศกาลดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน” อีกด้วย บางปีอาจได้เห็นความสวยงามแบบทิ้งทวนของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ในเดือนเมษายน… ไบเกอร์สายเที่ยว ชอบบรรยากาศฟีลธรรมชาติแบบนี้ไม่ควรพลาดบิดมอเตอร์ไซค์ชวนคนรู้ใจนั่งซ้อนท้ายไปเช็กอินถ่ายรูปสวยๆ จบทริป One Day Trip เที่ยวนครปฐมแบบหวานๆ เหมือนถ่ายรูปกับซากุระบานที่ญี่ปุ่น
|
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 พิกัดเที่ยวนครปฐมที่เรานำมาฝาก ไม่ว่าคุณจะเป็นไบเกอร์สายอาร์ต สายเขียว สายเที่ยว รักธรรมชาติ พร้อมแล้วอย่ารอช้ารีบบิดมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวจังหวัดนครปฐมแบบ One Day Trip ไปเช้าเย็นกลับได้แบบสบายๆ ตามพิกัดที่เราปักหมุดรอไว้ได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง!
|
|
และจะดียิ่งกว่าหากได้คู่หูร่วมทางสายสปอร์ตที่พร้อมไปด้วยทุกทริปแบบถึงไหนถึงกันอย่าง Yamaha YZF-R3 2023 ตัวจริงสายสปอร์ตตระกูล R-Series ขับขี่สนุกด้วยเครื่องยนต์ขนาด 321 ซีซี 2 สูบเรียง เกียร์แบบสปอร์ต 6 ระดับ บิดแรง เร่งได้อย่างใจ ยกระดับด้วยการออกแบบแฟริ่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Air Management) เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ด้วยโช๊คหัวกลับ Telescopic Upside Down ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม พร้อมระบบเบรก ABS หยุดรถได้อย่างมั่นใจ ป้องกันล้อล็อกและการลื่นไถลเมื่อเบรกฉุกเฉิน
|
|
อีกทั้งฟีเจอร์สุดล้ำทั้ง Full LED Meter หน้าปัดแสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน พร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ (Shift Light) สวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์ดีไซน์เท่ล้ำ และ Handle Crown ลุคซูเปอร์สปอร์ตสไตลิ่ง ให้ความแข็งแรงและลดน้ำหนักได้มากขึ้น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว Full LED Headlight ดีไซน์ใหม่ ไม่ว่าจะขับขี่ในช่วงเวลาไหนก็สว่างชัดทุกเส้นทาง เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ศูนย์ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศ
|