3-Stone-Castles-with-Yamaha-XMAX-Connected_Cover
Lifestyle

ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวอีสานใต้ ชม 3 ปราสาทหิน ร่องรอยอารยธรรมโบราณไปกับ Yamaha XMAX Connected

 
     ภาคอีสาน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และร่องรอยอารยธรรมสมัยโบราณปรากฏอยู่มากมาย ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของปราสาทหินและศาสนสถานต่างๆ โดยเฉพาะดินแดนอีสานใต้ ที่กินพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ที่ยังมีร่องรอยอารยธรรมโบราณขึ้นชื่อให้ได้ไปสัมผัสและศึกษาประวัติศาสตร์กัน วันนี้เราเลยมี 3 ที่เที่ยวอีสานใต้ มาแนะนำให้กับเหล่าไบเกอร์ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่แฝงด้วยเสน่ห์และบรรยากาศสุดคลาสสิค จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน
 
3-Stone-Castles-with-Yamaha-XMAX-Connected_1
 

ปราสาทหินพนมรุ้ง

     ปราสาทหินสีชมพูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโบราณสถานที่มีความงดงามและมีความสำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และยังจัดตั้งเป็นโครงการอุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นด้วย ความโดดเด่นของปราสาทหินพนมรุ้งที่เห็นได้ชัดเจนคือสถาปัตยกรรมแบบขอมที่สร้างด้วยศิลาแลงและหินทราย ขึ้นมาเป็นอาคารและเรียงรายไปจนถึงปราสาท มีไฮไลท์สำคัญคือปราสาทประธาน ที่ภายในตัวเรือนธาตุมีห้องครรถคฤหะเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์รูปเคารพสำคัญของลัทธิไศวนิกาย ผ่านฝีมือแกะสลักสุดประณีตและสร้างสรรค์ของช่างขอมโบราณ ซึ่งมีให้เห็นตามกำแพงรอบๆ ปราสาท 


     อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของปราสาทหินพนมรุ้ง บอกเลยว่าหากมีโอกาสได้ไปต้องไม่พลาดเช็กอินเก็บภาพความประทับใจ นั่นคือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ลอด 15 ช่องประตู ซึ่งปรากฎการณ์นี้จะมีขึ้น 4 ครั้ง ใน 1 ปีเท่านั้น คือช่วงดวงอาทิตย์ขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน และ 8 - 10 กันยายน และพระอาทิตย์ตกช่วงระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคมของทุกปี โดยมีความเชื่อกันว่าใครได้ชมแสงที่ลอดช่องผ่านประตูทั้ง 15 บานนี้ จะเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตทั้งตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปีอีกด้วย


     ไบเกอร์คนไหนสนใจไปเก็บภาพความสวยงามของปราสาทหินพนมรุ้ง สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 218 (บุรีรัมย์ - นางรอง) จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 24 (สีคิ้ว - อุบลราชธานี) เพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2117 และขี่ไปต่ออีก 12 กิโลเมตร จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือจะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 219 (บุรีรัมย์ - ประโคนชัย) เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2075 และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ก็ได้เช่นกัน


วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น. 

คนไทยเสียค่าเข้าชม 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท

 
 
3-Stone-Castles-with-Yamaha-XMAX-Connected_2
 

ปราสาทหินเมืองต่ำ

     จากปราสาทหินพนมรุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพียง 8 กิโลเมตร คือที่ตั้งของปราสาทหินเมืองต่ำ มีสถาปัตยกรรมขอมแบบบาปวนอันงดงาม ในราวปี พ.ศ. 1550 - 1625 และมีศิลปะขอมแบบคลัง ราวปี พ.ศ. 1508 - 1555 ปะปนอยู่ด้วย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 (หรือประมาณราว 1,000 ปี) ได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู เนื่องจากมีการขุดพบศิวลึงค์ที่เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะบริเวณปราสาทประธาน และกำแพงภายในปราสาทประธานยังมีการสลักภาพเกี่ยวกับการอวตารของพระวิษณุ ด้วยหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์นี้ กรมศิลปากรจึงประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทหินเมืองต่ำเป็นโบราณสถานในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 


     จุดเด่นของปราสาทเมืองต่ำมีให้เห็นอยู่หลายจุดด้วยกัน จุดแรกคือปรางค์อิฐ 5 องค์ ที่ตั้งอยู่บนศิลาแลงอันเดียวกัน เรียงเป็น 2 แถว แถวหน้า 3 องค์ และแถวหลังมีปรางค์อิฐ 2 องค์ ซ้อนกันอยู่ โดยปรางค์ประธานซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งอยู่แถวหน้า แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงฐานเท่านั้น จุดต่อมาคือ โคปุระ (ซุ้มประตูชั้นนอก) ที่หน้าบันเป็นรูป “พระอินทร์ประทับนั่งบนช้างเอราวัณ” เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาจะพบกับสระน้ำ 4 สระ ล้อมรอบตัวปราสาททั้ง 4 ด้าน มีระเบียงคดที่มีลักษณะเป็นรูปตัว L สร้างด้วยแท่งหินแลงทำเป็นขั้นบันไดลงไปจนถึงก้นสระ ส่วนขอบสระแกะสลักด้วยหินทรายเป็นรูปตัวนาค มุมสระเป็นรูปนาค 5 เศียร มีความสวยงามตามแบบฉบับศิลปะขอมบาปวน ซึ่งมีความเชื่อว่าสระน้ำทั้ง 4 นี้เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและแสดงถึงมหาสมุทรทั้ง 4 ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุตามคติความเชื่อพราหมณ์ รวมถึงมีภาพจำหลักหินบนหน้าบันและทับหลังที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ศึกษาประวัติศาสตร์และศิลปะสมัยขอมโบราณได้อย่างสะดวก และมีจุดถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกอีกด้วย


     สำหรับการเดินทาง มีด้วยกัน 3 เส้นทางคือ ใช้เส้นทางบุรีรัมย์ - นางรอง - พนมรุ้ง เพื่อไปยังปราสาทหินเมืองต่ำได้ โดยมีระยะทาง 83 กิโลเมตร หรือจะไปใช้อีกเส้นทางบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ที่มีระยะทาง 16 กิโลเมตรในการเข้าปราสาทเมืองต่ำ เส้นทางสุดท้ายคือ สายประโคนชัย - บ้านกรวด ที่เป็นเส้นแยกสายตะโก - พนมรุ้ง - ละหานทราย ได้เช่นกัน 


วันเวลา เปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท

 
 
3-Stone-Castles-with-Yamaha-XMAX-Connected_3
 

ปราสาทหินพิมาย

     ที่เที่ยวอีสานใต้แห่งสุดท้ายที่เราอยากแนะนำสำหรับไบเกอร์คือ ปราสาทหินพิมาย พุทธสถานนิกายมหายานที่เก่าแก่ที่สุดในอีสานใต้ และเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนในยุคแรกซึ่งเป็นศิลปะที่รุ่งเรืองในสมัยนั้น และได้รับการต่อเติมในช่วงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงนับถือพระพุทธศาสนาลัทธิมหายานเหมือนกัน แต่ในช่วงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เมืองพิมายมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับอาณาจักรเขมร จึงทำให้ได้รับอิทธิพลศิลปะแบบนครวัดซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงนั้นปะปนเข้ามา ทำให้เราได้เห็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานศิลปะแบบนครวัดกับบาปวนที่โบราณสถานต่างๆ ภายในปราสาทหินพิมาย

     หลังจากที่ปราสาทหินพิมายถูกทิ้งร้างไปเนื่องจากเมืองพิมายหมดความสำคัญลง กรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์ด้วยการจดทะเบียนมรดกทางศิลปวัฒนธรรมในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 โดยปราสาทหินพิมายได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากรร่วมกับรัฐบาลฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2507 - 2512 ด้วยเทคนิค “อนัสติโลซีส” (Anastylosis) หรือการนำชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวปราสาทมาประกอบเข้าด้วยกันตามหลักวิชาการและนำกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม

     สิ่งก่อสร้างเด่นๆ ที่พบเห็นได้ในพื้นที่ปราสาทหินพิมายมีจำนวนมาก เริ่มจากทางเดินเข้า สะพานนาคราช ที่เชื่อกันว่าเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ตามคติจักรวาล ด้วยการสร้างเป็นรูปนาคราช 7 เศียรชูคอแผ่พังพานดูสวยงามซึ่งเป็นลักษณะที่ได้รับความนิยมของศิลปะแบบเขมรนครวัดราวกลางพุทธศตวรรษที่ 17 ถัดเข้าไปจะเป็นซุ้มประตูชั้นนอกและกำแพงแก้ว โดยโคปุระ จะมีลักษณะเป็นรูปกากบาท ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้วทั้ง 4 ด้าน ส่วนด้านกำแพงแก้วถูกสร้างขึ้นด้วยหินทราย มีความสูงประมาณ 8 เมตร มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดกว้าง 220 เมตร ยาว 275.5 เมตร ที่สามารถมองเห็นซุ้มประตูชั้นในที่ถูกรายล้อมไปด้วยปราสาท 

     เมื่อผ่านประตูชั้นนอกเข้าไปแล้ว จะพบกับชาลาทางเดินที่ก่อด้วยหินทรายยกสูงประมาณ 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่องทางเดิน และจะพบกับความยิ่งใหญ่ของปรางค์ประธาน ที่มีปรางค์หินแดงและปรางค์พรหมทัตตั้งอยู่ด้านข้าง ภายในเป็นที่ประดิษฐ์รูปเคารพของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าคือ “ท้าวพรมทัต” และรูปของพระนางชัยราชเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “นางอรพิม” ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวบ้านนั่นเอง 

     อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นจุดท่องเที่ยวของปราสาทหินพิมายที่ไม่ควรพลาดก็คือ ปรากฏการณ์สุริยาอัสดง ที่จะเกิดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น โดยจะเกิดขึ้นครั้งละ 4 - 5 วัน แบ่งเป็นช่วงแรม 1-5 ค่ำ เดือน 12 ส่วนช่วงที่ 2 นับไปอีก 6 เดือนต่อจากที่เกิดปรากฎการณ์ ถึงจะได้ชมกันอีกครั้ง


     สำหรับการเดินทางมายังปราสาทหินพิมาย หากมาจากตัวเมืองโคราชสามารถใช้ถนนมิตรภาพ หรือทางหลวงหมายเลข 2 มุ่งหน้าไปขอนแก่น ประมาณ 50 กิโลเมตร จะพบกับทางแยกตลาดแค ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 206 อีกประมาณ 10 กิโลเมตรก็จะถึงอำเภอพิมาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินพิมายนั่นเอง 

     หากมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ให้ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านทางเข้าปราสาทพนมวันที่อยู่ด้านขวามือ ให้ขับตรงต่อไปอีกจะพบกับแหล่งโบราณคดีบ้านแดง จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกนี้เข้าสู่ถนนหลวงหมายเลข 206 เพื่อเข้าสู่อำเภอพิมายประมาณ 12 กิโลเมตร ก็ถึงอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย


วันเวลา เปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30 - 18.00 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท (นักเรียน นักศึกษาที่แต่งครื่องแบบ พระภิกษุ สามเณร นักบวช เข้าชมฟรี)

 
 

     และนี่คือ 3 ปราสาทหินอีสานใต้ ที่ยังคงมีร่องรอยประวัติศาสตร์สำคัญหลงเหลืออยู่เอาไว้ให้ได้เรียนรู้ และชมความสวยงามของศิลปะในยุคโบราณที่นับวันจะหาดูได้ยาก นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานที่มีสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่าและสวยงาม ที่ได้รับการดูแลรักษาและพัฒนาจากคนในชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เมื่อเราขี่รถไปเที่ยวยังอีสานใต้ อย่างปราสาทศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทตาเมือน ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงที่มีความสวยงามและประวัติศาสตร์ความเป็นมาให้ได้เรียนรู้ ไม่แพ้กับ 3 ปราสาทหินที่เราพูดถึงไปก่อนหน้านี้

     ไบเกอร์คนไหนที่กำลังวางแพลนไปเที่ยวอีสานใต้ช่วงสิ้นปีนี้ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมและศึกษาประวัติศาสตร์ 3 ปราสาทหินที่เรานำมาฝาก รับรองว่านอกจากจะเต็มอิ่มกับบรรยากาศ ความสวยงามที่เป็นเหมือนมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาของโบราณสถาน ยังได้รูปสวยๆ กลับมาอัปลงโซเชียลไปยาวๆ อีกด้วย

 
 
3-Stone-Castles-with-Yamaha-XMAX-Connected_4
 
     โดยรถจักรยานยนต์ที่เราอยากจะแนะนำให้ขี่ไปเที่ยวอีสานใต้ในทริปนี้ก็คือ Yamaha XMAX Connected รถจักรยานยนต์ออโตเมติก ดีไซน์พรีเมียมสปอร์ต สกู๊ดเตอร์อีกขั้นของสายพันธุ์ Max Series ที่มาพร้อมฟีเจอร์เรือนไมล์แบบ Double Displays แสดงผลข้อมูลรถและการขับขี่แบบ 2 หน้าจอ พร้อมฟีเจอร์นำทางอย่าง Garmin Navigator ที่พาเที่ยวได้แบบสะดวกสบายไม่มีหลง บนหน้าจอสี TFT Infotainment ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
 
     ไบเกอร์คนไหนสนใจรถจักรยานยนต์สมรรถนะดี จัดเต็มคุณภาพทั้งฟีเจอร์และเทคโนโลยี สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูล Yamaha XMAX Connected ได้ที่ศูนย์บริการและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทุกสาขาทั่วประเทศได้ อีกทั้งทางยามาฮ่าพร้อมรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สามารถแอดไลน์ยามาฮ่าเพื่อรับสิทธิพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมได้เลยที่ @yamahasociety