รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc.
รถบิ๊กไบค์
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ
รถกอล์ฟ
ออนไลน์ช้อป
Yamaha Online Shop
BIGBIKE
บิ๊กไบค์
DEALER & SERVICES
ศูนย์บริการ และผู้จำหน่าย
PRIVILEGE
สิทธิพิเศษ
YAMAHA MOTOR SPORT
ยามาฮ่าเรซซิ่ง
ABOUT US
เกี่ยวกับยามาฮ่า
ค้นหา
เมนู
YAMAHA SOCIETY THAILAND
ผลิตภัณฑ์
ข่าวและกิจกรรม
ยามาฮ่าไลฟ์สไตล์ (บล็อก)
มีเดีย
YAMAHA RIDING ACADEMY (YRA)
สั่งจองอะไหล่
สมุดภาพอะไหล่
ติดต่อยามาฮ่า
ดาวน์โหลดโบรชัวร์
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
คู่มือผู้ใช้รถจักรยานยนต์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc. / COMMUTER
รถบิ๊กไบค์ / BIGBIKE
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ / MARINE
รถกอล์ฟ / GOLF CAR
ออนไลน์ช้อป / ACCESSORIES
หน้าหลัก
อุปกรณ์เสริม
หมวกกันน็อก
เครื่องแต่งกาย
ยามาลู้ป
อะไหล่
HOME
MODEL
NEWS
CALCULATOR
FIND A DEALER
TEST RIDING
หน้าหลักศูนย์บริการและผู้จำหน่าย
ผู้จำหน่าย
เช็กข้อมูลรถจักรยานยนต์
โครงการอบรมผู้จำหน่าย
โปรแคร์
ศูนย์บริการสีเขียว
แนะนำบริการ
หน้าหลักสิทธิพิเศษ
เข้าสู่ระบบ
สิทธิประโยชน์สมาชิก
ข่าวสาร
ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งหมด
กิจกรรม
บทความทั้งหมด
วิดีโอ
โบรชัวร์
แกลลอรี
wallpaper
สกรีนเซฟเวอร์
เพลง
แอปพลิเคชัน
Home
International
National
Team & Rider Profile
Motorsport Activity
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับ YRA
สมัครอบรม
ข่าวสารและกิจกรรม
02-740-8001
ความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทยามาฮ่าประเทศไทย
ร่วมงานกับเรา
เรียกได้ว่าผมก็เดินทางมาถึงวันที่ 4 วันสุดท้ายของการเดินทางใน ทริปสุดฟินน์ “เมืองสามหมอก” 4,088 โค้ง 4 วัน 3 คืน ของพวกเรา (การเดินทางวันแรก , การเดินทางวันที่สอง , การเดินทางวันที่สาม) กับการเดินทางด้วย Yamaha Finn และ Yamaha Spark 135 เพื่อพาเพื่อนๆมาเที่ยวในเส้นรอบจังหวัดแม่ฮ่องสอนกับสมญานาม “เมืองสามหมอก” จากเมื่อคืนที่เราได้เที่ยวเทศกาลโคมและพักที่โรงแรมเล็กๆในตัวอำเภอแม่สะเรียง เราก็ออกเดินทางตั้งแต่เช้าไปในเส้นทางมุ่งไปยังตัวอำเภอสบเมย เพื่อไปขึ้นไปสัมผัสความฟินน์บน “ดอยพุยโค” การเดินทางจากตัวอำเภอแม่สะเรียงไปยัง “ดอยพุยโค” ไม่ไกลมากราวๆ 45 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางในช่วงแรกในเส้นทางหลักถนนหลวงหมายเลข 105 ก็เป็นเส้นทางปกติแต่เมื่อถึงทางแยกเข้าไปยังดอยพุยโคจะเป็นทางที่ค่อนข้างแคบและชันพอสมควร การเดินทางต้องระมัดระวังกันสักหน่อยครับ Yamaha Finn ลุยขึ้นไปได้สบายแต่ต้องลดเกียร์ลงมาพอสมควรเพื่อสู้กับเนินในครั้งนี้ครับ เส้นทางบางช่วงจะเป็นคอนกรีตสลับกับทางดินบ้าง ซึ่งในวันที่ผมไปหมอกลงมาค่อนข้างหนาทีเดียวอากาศเย็นๆกับหมอกที่เข้ามาประทะร่างกายฟินน์จริงๆครับ
เรื่องวัวมาขวางถนนผมถือว่าเป็นเรื่องปกติเลยในการเดินทางบนภูเขาแบบนี้ครับ แต่ที่ต้องระวังเลยคือหลบ หลุมระเบิด (ขี้วัว) ให้ดีครับ ขี่รถเหยียบขึ้นมาไม่อยากพูดถึงครับ ^^
สองข้างทางก่อนขึ้นไปถึงจุดชมวิวยอดดอยพุยโคก็สามารถแวะถ่ายรูปได้เป็นระยะๆครับ
เมื่อใกล้ถึงจะมีจุดให้ต้องจอดรถไว้และต้องเดินขึ้นไม่ไกลมากราวๆ 7-800 เมตร เป็นทางดินที่ทำเป็นบันไดไม้และราวไม้ไว้ให้เกาะแลดูได้บรรยากาศและธรรมชาติมากครับ แต่ต้องบอกว่าบางช่วงก็ชันเอาเรื่องเหมือนกันครับทำเอามีเหนื่อยเอาการ พกน้ำไปด้วยจะดีมากๆ โดยใช้เวลาการเดินราวๆ 20 นาทีครับ ในจุดแรกก่อนถึงทางชันๆก็จะเป็นจุดแวะพักเพื่อให้หายเหนื่อยเพื่อลุยต่อ แต่จุดนี้ก็จะมีวิวที่สวยงามไปอีกแบบ เพราะสามารถเห็นทิวเขาที่ถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอกอยู่ในระดับแทบจะอยู่ในระดับสายตา ที่สวยงามเป็นอย่างมากครับ ขนาดว่าในวันที่พวกเราไปหมอกยังไม่เยอะดังที่หวังไว้แต่ก็สวยงามฟินน์ทีเดียวครับ
ที่เห็นหมอกปกคลุมนั่นแหล่ะคือยอดดอยพุยโค เดินสู้เนินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะถึงเล่นเอาหอบทีเดียวครับ ซึ่งวันนี้หมอกปกคุมยอดดอยอาจจะได้เห็นวิวในอีกมุมหนึ่งครับ เอาเดินๆ
บนยอดดอยพุยโคในวันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ซึ่งมันก็ได้บรรยากาศที่ฟินน์ไปอีกแบบ เหมือนเราเดินอยู่บนสวรรค์เลยครับ (แล้วแต่คนจินตนาการนะครับ) ซึ่งบนยอดดอยพุยโคได้ทำทางเดินไว้ทำให้สามารถถ่ายรูปบรรยากาศได้สวยมากขึ้นครับ
บนยอดจะมี “ต้นเดียวดาย” ซึ่งเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่อยู่ในบริเวณนั้นก็เลยคงได้ชื่อนี้ไป แต่คงไม่เหงาครับ เพราะจะมีคนมาแวะถ่ายรูปและมาทักทายไม่เว้นแต่ละวันครับ
พวกเราใช้เวลาอยู่บนนี้ร่วมชั่วโมงเพื่อเสพบรรยากาศที่หาไม่ได้จากในเมือง ปล่อยสมองให้โล่งๆแล้วจดจำภาพบรรยากาศดีๆแบบนี้ วิวสวยๆแบบนี้ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนที่จะกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ ต้องบอกว่าทริปนี้ฟินน์จริงๆครับ พวกเรากลับลงมาและเดินทางกลับเชียงใหม่และมาจบทริปที่ “สวนสนบ่อแก้ว” ซึ่งก็ถือว่าเป็นการจบ ทริปสุดฟินน์ “เมืองสามหมอก” 4,088 โค้ง ได้ฟินน์สมชื่อจริงๆ งานนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่ให้ผมได้ยืมรถ Yamaha Finn เพื่อออกทริปเที่ยวในครั้งนี้ครับ ซึ่งจากที่เที่ยวมาแล้ว 4 วัน 3 คืน กับการใช้งานที่ค่อนข้างหนักหน่วงผมขอกล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ใช้ Yamaha Finn ออกเที่ยวในครั้งนี้ครับ โดยรวมแล้วเป็นรถที่ให้ความคล่องตัวสูง มีความรู้สึกว่ารถเบาขี่ง่ายทั้งในเมืองและการเดินทางไกล มีช่องเก็บของที่ใหญ่ทั้งใต้เบาะที่เก็บเสื้อผ้าของผมได้ทั้ง 4 วัน อีกทั้งด้านหน้ามีช่องที่สามารถเสียบขวดน้ำได้ 1 ขวดสะดวกจริงๆครับ ช่วงล่างเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไปโดยเฉพาะการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หากนำมาออกทริปซัดโค้งหนักๆอาจจะต้องได้ปรับเซ็ทเกี่ยวกับช่วงล่างเพิ่มอีกนิดหน่อยจะฟินน์ขึ้นอีกเยอะครับ เครื่องยนต์ถือว่าเป็นรถที่ขี่ได้สนุกในการขึ้นเขาก็มีแรงขึ้นได้แม้ในจุดที่ชันมากๆและยังมี Engine break ที่พอเหมาะในการใช้งาน แต่ที่ฟินน์มากก็จะเป้นเรื่องของการบริโภคน้ำมันที่โครตฟินน์ ขนาดขี่กันไม่บันยะบันยัง ประหยัดได้ถึง 62 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียว สบายกระเป๋ามากๆ ต้องขอแนะนำว่า Yamaha Finn เป็นรถครอบครัวในพิกัด 115 ซีซี ที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งทีเดียวครับ ขอบคุณยามาฮ่าที่มีโอกาสให้ผมได้ออกไปฟินน์ในครั้งนี้ครับ
คำนวณค่างวด
เปรียบเทียบ
ค้นหาผู้จำหน่าย
สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์