youtube embed
|
เอาใจสายกินโดยเฉพาะ! ทริปนี้เราจะพาไปซอกแซกตะลุยกินร้านเด็ดย่านอโศก-ประสานมิตร ที่มีบรรยากาศดีกับยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด [Yamaha Grand Filano Hybrid] ซึ่งบอกเลยว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่เหมาะกับสายชิลล์ที่ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจอย่างเรามากๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเจ้าเด็ด คาเฟ่ลับ สตรีทฟู้ดชื่อดังริมทาง หรือตลาดฟู้ดคอร์ทใจกลางเมืองในย่านที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมากๆ อย่างอโศก ก็โนพรอบเบล็ม! สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ซอกแซกไปถึงร้านได้สบายๆ เลยล่ะ ที่เก็บของก็ใหญ่ซื้อของได้เยอะ พร้อมแล้วไปตะลุยกินกันเลยดีกว่า!
ทริปนี้เรานัดเจอเพื่อนที่ Sometime I Feel คาเฟ่สุดชิคในซอยสุขุมวิท 31 ร้านอาหารแถวอโศก บรรยากาศดี ซึ่งเกิดจากความชื่นชอบของเจ้าของร้านและหุ้นส่วนเพื่อนๆ ในการดื่มกาแฟและงานศิลปะ จึงนำความชอบของแต่ละคนมารวมกัน จนกลายเป็นคาเฟ่สุดอาร์ตแห่งนี้
|
|
ภายในร้านมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายโซน ทั้งเคาน์เตอร์บาร์ โซฟา หรือโซนสำหรับนั่งทำงานโดยเฉพาะ เหมาะจะพกโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานและจิบกาแฟชิลล์ๆ ไปด้วยในวันหยุด แถมยังมีงานศิลปะให้ชมกันเพลินๆ เพราะครอบครัวเจ้าของร้านเคยเปิดเป็นแกลเลอรีมาก่อน ตอบโจทย์ได้ทั้งสายอาร์ต สายชิลล์ และคอกาแฟเลยล่ะ!
|
|
|
สำหรับเมนูเด็ดที่นี่ เค้าเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากหลายแหล่ง ทั้งกาแฟไทยที่ปลูกทางภาคเหนือของไทยและเมล็ดกาแฟนำเข้าจากต่างประเทศ นำมาเบลนด์เป็นกาแฟสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน เราสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Happy Pills กาแฟ Cold Brew ที่ผสมน้ำมะตูมหวานหอมและน้ำใบเตยที่ทางร้านต้มเอง มาทานคู่กับ Lemon New York Cheesecake ชีสเค้กเนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น ถ้าใครอยากได้เครื่องดื่มที่มีลูกเล่นเฉพาะตัว แนะนำให้สั่ง Tainted Love กาแฟ Cold Brew ที่ผสมชากุหลาบสีชมพูสวยจากน้ำมะนาวและยังมีแยมกุหลาบ โซดา รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น เสิร์ฟมาในหลอดเก๋ๆ เวลาดื่มก็ค่อยๆ เทกาแฟในหลอดลงไปผสมกับชากุหลาบในแก้ว รสชาติเข้มข้นของกาแฟสกัดเย็นตัดกันกับความหอมหวานของชากุหลาบได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี
|
|
อ้อ...ลืมบอกไปว่าที่ร้านมีบริการแบบ Walk-Up Window จอดรถแล้วเดินลงมาสั่งกาแฟผ่านหน้าต่างเคาน์เตอร์หน้าร้านได้เลย เหมาะสำหรับใครที่มีเวลาน้อย อยากได้กาแฟสักแก้วไปจิบกระตุ้นความคึกคักระหว่างเดินทาง เราเลยสั่งใส่แก้วแบบ Take away ติดมือไปด้วยอีกคนละแก้ว
|
|
จากนั้นเราขี่ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด [YAMAHA Grand Filano Hybrid] ไปตะลุยกินเช็กอินกันต่อที่โครงการบ้านก้ามปู คอมมูนิตี้สไตล์ลอฟต์เปิดใหม่ ข้างในมีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง ให้เราเลือกชอป ชิม ชิลล์ กันแบบสบายๆ แถมทางโครงการยังมีที่จอดรถให้ด้วย สะดวกสบายสุดๆ หากมาใช้บริการร้านในโครงการจอดรถฟรี 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะใครที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาอย่างเราก็ยิ่งหมดกังวลปัญหาเรื่องที่จอดรถไปเลยล่ะ!
|
|
|
จากโครงการบ้านก้ามปูเราพุ่งเป้าไปต่อที่ร้าน “อัลทง ต๊อกกังจอง” ร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดังขวัญใจคนทำงานออฟฟิศและนักศึกษาในย่านนี้ ซึ่งเป็นร้านอาหารแถวอโศก บรรยากาศดี ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นมีกระจกใสล้อมรอบ พร้อมที่นั่งทานอาหารสบายๆ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ โดยที่ร้านนี้มีบริการแบบ Self - Service พอเราสั่งเมนูกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ก็รอรับออร์เดอร์แล้วกลับมานั่งทานที่โต๊ะได้เลย
|
|
เมนูเด็ดของที่นี่ พลาดไม่ได้ต้องสั่งคือเมนู “ไก่ทอดซิกเนเจอร์อัลทง” ที่คัดเฉพาะเนื้อสะโพกไก่ 100% หมักด้วยเครื่องเทศหอมกรุ่น นำไปทอดกรอบ แล้วคลุกเคล้าด้วยซอสสูตรพิเศษ สไปซี่คาราเมลซอสที่สามารถเลือกความเผ็ดได้ถึง 4 ระดับ พร้อมท็อปปิ้งอย่างแป้งต๊อก, มันดู (เกี๊ยว), ปอเปี๊ยะสาหร่ายหรือชีสให้เลือกโรยหน้า ใครกลัวไม่อิ่มก็ยังมีเมนูข้าวไก่ทอดสาหร่าย, ข้าวไก่ทอดซิกเนเจอร์ จะสั่งเดี่ยวๆ หรือสั่งเป็นเซ็ตพร้อมเครื่องดื่มก็ได้ ราคาเริ่มต้นที่ 59-84 บาทเท่านั้นเอง
|
|
จากนั้นเราก็ไปตะลุยกินร้านเด็ดกันต่อ ด้วยการลัดเลาะเข้าไปในซอยสุขุมวิท 21 เพื่อสำรวจร้านอร่อยในกรุงเทพฯ รอบๆ รั้ว มศว ประสานมิตร ซึ่งมีลายแทงร้านอาหารแถวอโศก บรรยากาศดี ที่เป็นร้านเด็ดให้ไปตามรอยเพียบ!!
|
|
ตะลุยกินร้านเด็ดร้านแรก ประเดิมด้วย “ร้านปลาไข่” (Shishamo) ร้านข้าวปลาไข่เจ้าดังในตำนาน เจ้าเก่าประตู 5 มศว ที่เปิดขายมานานกว่า 15 ปี ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่เมนูปลาไข่ทอดกรอบ ที่ทางร้านนำเข้าจากนอร์เวย์และแคนาดาโดยเฉพาะ นำมาชุบแป้งทอดทั้งตัวแล้วราดด้วยน้ำจิ้มที่มีให้เลือกทั้งน้ำยำ, น้ำจิ้มซีฟู้ด, น้ำจิ้มพริกน้ำปลามะนาว ฯลฯ ตักเข้าปากจะได้รสชาติของปลาไข่ทอดกรอบ หอมมันเคี้ยวกรุบๆ กินคู่กับน้ำจิ้มกำลังพอดี จะสั่งเป็นเมนูข้าวปลาไข่หรือเฉพาะปลาไข่ทอดชุดละ 30 บาทก็ได้ นอกจากนี้ ที่ร้านยังเมนูอื่นๆ อย่างข้าวไก่ทอด, ข้าวราดแกง, ข้าวไข่ต้ม-ไข่ดาว ฯลฯ ให้เลือกสั่งกันด้วย
|
|
พิกัด ทางเข้าประตู 5 มศว ประสานมิตร
ร้านเปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 06.00-14.00 น. (เปิดตามมหาวิทยาลัย มศว)
|
พอเดินผ่านประตู 5 เข้ามาทางอาคารอเนกประสงค์ (ตึกไข่ดาว) ใน มศว เราจะเจอกับร้านดังอีกร้านอย่าง “มาม่าซุ้ม” ที่จะเปลี่ยนมุมมองการกินมาม่าแบบเดิมๆ เพราะร้านนี้เค้าพิเศษตรงมีเครื่องให้เติมเพียบ!! ทั้งเต้าหู้ปลา, หมูสับ, ไส้กรอก, ปูอัดทอด, ลูกชิ้นสาหร่าย, ไข่ต้ม, ไข่ลวก ฯลฯ โดยทุกชามจะมีผักใส่มาให้ด้วย ทั้งอร่อยแถมยังราคาเบาๆ แบบนี้ กดไลก์ให้เลยจ้า!
|
|
|
ตบท้ายด้วยของหวานที่ร้าน Bake Room หรือที่รู้จักกันดีในชื่อร้าน “เบเกอรี่ มศว” ร้านเบเกอรี่ชื่อดังที่ใครๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมากเว่อร์!! โดยเฉพาะเมนูเด็ดอย่าง “ช็อคสติ๊ก” ที่กินแล้วฟินสุดๆ จนแทบหยุดไม่อยู่ นอกจากนี้ ยังมีเมนูเบเกอรี่โฮมเมดอื่นๆ เรียงรายให้เลือกในตู้อย่างละลานตา ทั้งเมนูขายดีอย่าง ขนมปังเบคอนชีส, ขนมปังทูน่าน้ำสลัด, เดนิชผักโขม, ทาร์ตไข่, ครัวซองต์, ขนมปังชีสสติ๊ก รวมทั้งยังมีสารพัดเค้กให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น เค้กท็อฟฟี่, เค้กฝอยทอง, เค้กลูกตาล, ฯลฯ ขนมอบอย่างคุ้กกี้, ขนมปังกระเทียม ฯลฯ ให้เลือกซื้อกลับบ้านกันอีกเพียบ!
|
|
|
|
|
ไหนๆ ก็แวะมาย่านมหาวิทยาลัยชื่อดังใจกลางเมืองทั้งที เราเลยขอเซอร์เวย์ให้ทั่วสักหน่อย ซึ่งพอสอบถามน้องๆ นิสิตนักศึกษาเจ้าถิ่น ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายังมีอีกร้านเด็ดที่ห้ามพลาดอย่าง “ร้านก๋วยเตี๋ยวรู” ร้านก๋วยเตี๋ยวลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ด้านหลังติดกับคณะพลศึกษา ใน มศว ประสานมิตร นั่นเอง
|
|
เดิมทีร้านก๋วยเตี๋ยวรูตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ มาก่อน ขนาดร้านแคบมากและอยู่ในซอกทางเข้าบ้านเล็กๆ เด็กนักศึกษา มศว ที่มากินประจำจึงเรียกกันติดปากว่าร้านก๋วยเตี๋ยวรูนั่นเอง ต่อมาทางร้านขายดีจนขยับขยายพื้นที่นั่งในร้านให้กว้างเพื่อรองรับลูกค้าได้มากขึ้น แต่เสน่ห์และรสชาติอร่อยของร้านก๋วยเตี๋ยวรูยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวรู คือเมนูก๋วยเตี๋ยวน้ำตกรสชาติกลมกล่อม ส่งกลิ่นหอมตั้งแต่เดินเข้าร้านเลยทีเดียว วันนี้เราเลยสั่งเมนูก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กลูกชิ้นน้ำตกแห้ง และก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นหมี่น้ำตกมาลองชิมกันคนละชาม บอกเลยว่าน้ำซุปเค้าเด็ดมากๆ หอมกลิ่นสมุนไพรทั้งรากผักชีและเครื่องเทศ ส่วนเนื้อก็เปื่อยนุ่มกำลังพอดี ที่สำคัญยังราคาเบาๆ เริ่มต้นชามละ 35-40 บาทเท่านั้นเอง
|
|
จากร้านก๋วยเตี๋ยวรู เราเดินทะลุออกไปด้านหลังฝั่งท่าเรือ มศว ด้านที่ติดกับสะพานข้ามคลองแสนแสบ วันนี้เราจะไปแซ่บกันที่ “ร้านจัดจ้าน” ร้านตามสั่งชื่อดังขวัญใจชาว มศว ที่นอกจากจะอร่อยรสชาติจัดจ้านสมชื่อร้านแล้ว ยังราคาเบาๆ เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์สุดๆ อย่างวันนี้เราสั่งเมนูแนะนำขึ้นชื่อของทางร้านอย่าง “ยำผักบุ้งกรอบและลาบทอด” มาลองชิม รสชาติเด็ดสมคำร่ำลือ ที่สำคัญ พอเช็กบิลออกมาแล้ว...บอกเลยว่าแบงค์ร้อยใบเดียวเอาอยู่!!
|
|
ถ้าใครยังไม่อิ่ม!! เราจะพาข้ามถนนจาก มศว ประสานมิตรไปตะลุยกินกันต่อที่ “ตลาดรวมทรัพย์” แหล่งรวมของกินขึ้นชื่อของชาวออฟฟิศในย่านอโศก ที่รวมของอร่อยมาไว้ให้เลือกละลานตา ร้านเด็ดขึ้นชื่อของที่นี่ บอกได้คำเดียวว่าเพียบบบ!! ทั้งอาหารไทย 4 ภาค, ซูชิ, ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง, ของกินเล่นและขนมหวาน ฯลฯ ไปจนกระทั่งร้านชาไข่มุกที่เรียงรายให้เลือกนับสิบร้าน เรียกว่าถ้าเก็บวันเดียวหมดทุกร้านในตลาดรวมทรัพย์ งานนี้รับรองว่าท้องแตกกันชัวร์!
|
|
ประเดิมร้านแรกกันที่ร้าน “ป้าอ้วน ข้าวเหนียวเนื้อทอด” ร้านเนื้อทอดเจ้าเด็ดแห่งตลาดรวมทรัพย์ที่ขายมานานกว่า 8 ปี ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่เมนูเนื้อทอดสูตรพิเศษที่ทางร้านหมักเอง มีให้เลือกทั้งสูตรเนื้อเค็มและเนื้อหวาน รสชาติกลมกล่อม เนื้อทอดออกมาไม่เหนียว ชุ่มฉ่ำน้ำซอสกำลังพอดี ยิ่งได้ทานกับข้าวเหนียว พร้อมผักสดและน้ำจิ้มแจ่ว งานนี้บอกเลยว่าเอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม!
|
|
ส่วนใครอยากลองเมนูแปลกใหม่ ห้ามพลาดร้านนี้ “Shawarma Kebab” ร้านเคบับเจ้าเดียวแห่งตลาดรวมทรัพย์ ที่เสิร์ฟเมนูเคบับปรุงใหม่ๆ ร้อนๆ ที่กำลังเสียบเหล็กย่างหอมกรุ่นจากเตา ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายจนมีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสายเลยทีเดียว เคบับร้านนี้เป็นสูตรต้นตำรับความอร่อยจากร้านดังชื่อเดียวกันที่ซอยนานา มีให้เลือกหลายไส้ ทั้งเคบับเนื้อ, ไก่, ชีส และฟาราเฟลที่เป็นไส้มังสวิรัติ นอกจากนี้ ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างปอเปี๊ยะให้เลือกอิ่มอร่อยกันอีกด้วย
|
|
ไปตะลุยกันต่อที่ร้านเด็ดในตลาดรวมทรัพย์อีกร้านที่อยู่ใกล้ๆ กัน อย่างร้าน “โตเกียว ชาร์โคล” ร้านขนมโตเกียวเจ้าเด็ดที่มีกิมมิคเก๋ๆ อย่างการใช้แป้งชาร์โคลสีดำมาพรีเซนต์ให้ขนมโตเกียวธรรมดาดูมีลูกเล่น เพิ่มความพิเศษด้วยไส้หลากหลายสีสันสดใสที่ทางร้านทำเอง เช่น ไส้ใบเตย, มันม่วง, ข้าวโพด, เผือก, มะพร้าว, ช็อกโกแลต, ชาเขียว, คัสตาร์ด,ฝอยทอง นอกจากนี้ ยังมีไส้กรอกไก่เป็นทางเลือก เผื่อใครที่อยากทานของคาว ตอบโจทย์ครบทุกรสชาติแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ร้านนี้จะฮอตคิวยาวแทบตลอด แนะนำว่ามาสักช่วงสายๆ หรือหลังบ่ายโมง คนไม่เยอะกำลังดี
|
|
ร้านเปิด วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 10.30-14.00 น.
|
เอาใจคนชอบกินของทอดกันบ้าง กับร้านกล้วยทอดเจ้าเด็ดในตลาดรวมทรัพย์ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีชื่อร้าน แต่ก็มีป้าย “กล้วยทอด” ตัวโตๆ เปิดขายมานานหลายปี การันตีความอร่อยด้วยเมนูเด็ดอย่างกล้วยทอด มันทอดและขนมไข่นกกระทามันม่วง ทำจากแป้งผสมมันเทศสีม่วงแล้วนำไปทอดในกระทะร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวหนุบหนับเพลินเกินห้ามใจจริงๆ!
|
|
ร้านเปิด วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 08.30-14.00 น.
|
ไปต่อกันที่ “Crepe Phorn” (เครปพร) ร้านเครปเจ้าดังแห่งตลาดรวมทรัพย์ ที่มาพร้อมกับเครปไส้ทะลัก เครื่องเน้นๆ จุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้คือแป้งเครปที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ไฮไลท์อยู่ที่แป้งเรนโบว์และเรนโบว์กาแลคซี่ แป้งเครปสีรุ้งสีสันสดใส หรือจะเลือกเป็นแบบแป้งทูโทนสองสี แป้งเครปออริจินัลผสมกับชาร์โคล แป้งช็อกโกแลต หรือแป้งมันม่วงก็ได้ สามารถเลือกไส้หรือท็อปปิ้งได้ว่าจะเป็นเมนูคาวหรือเครปหวาน เมนูยอดฮิตขายดีของที่ร้าน อาทิ เครปแป้งนมสด ไส้เนยถั่ว ฝอยทอง กล้วย และช็อกโกแลต, แป้งชาร์โคล ฝอยทองใบเตย ใส่คอนเฟล็ก ช็อกโกแลตชิพ ราดนมข้นหวาน ฯลฯ การันตีว่าอร่อยทุกไส้!
|
|
ร้านเปิดวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 16.00 น.
|
เดินตะลุยกินหลายร้านจนคอแห้ง มองหาร้านน้ำก็บังเอิญไปสะดุดตาเข้ากับร้านนี้ “28ml Specialty Coffee and Tea Bar” ร้านกาแฟและชาขวัญใจชาวออฟฟิศในย่านนี้ ที่เพิ่งขยับขยายจากตึกเสริมมิตร อโศก มาเปิดสาขาที่นี่เพิ่มหมาดๆ ได้แค่ไม่กี่วัน แต่มีคนมายืนรอคิวหน้าร้านแน่นทั้งสองฝั่ง แถมภายในร้านยังตกแต่งสวยจนเหมือนยกเอาคาเฟ่เก๋ๆ มาไว้ใจกลางตลาดรวมทรัพย์เลยทีเดียวเชียวล่ะ!
|
|
ที่มาของชื่อร้านชวนสะดุดหูอย่าง “28ml” มาจากชื่อของโรงแรมและคาเฟ่ชื่อเดียวกันในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เจ้าของร้านหลงใหลและอยากให้ทุกคนได้ดื่มกาแฟดีๆ คุณภาพคับแก้ว พอขยายสาขามาในกรุงเทพฯ ก็ได้ฟีดแบ็คดีจนมีสาขาเพิ่มอย่างรวดเร็วและเป็นกระแสปากต่อปาก ว่าถ้าใครอยากดื่มชาและกาแฟอร่อยๆ ล่ะก็...มาเช็กอินที่ร้านนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน
เมนูเด็ดของร้านนี้ มีให้เลือกทั้งเมนูกาแฟสดหอมละมุน ชานมไข่มุกหนึบหนับ อาทิ Cappuccino on Fire กาแฟคาปูชิโน่ท้อปด้วยฟองนมและน้ำตาลทรายแดงที่เบิร์นไฟจนหอม เวลาดื่มจะได้กลิ่นน้ำตาลไหม้นิดๆ เป็นเอกลักษณ์ และ Taiwanese Milk Tea Bubble ชานมไข่มุกไต้หวันสูตรพิเศษ ที่มาพร้อมกับไข่มุกสีทองสวยเคี้ยวหนึบๆ เพลินจนหมดแก้วไม่รู้ตัว
|
|
เปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 07.00- 15.00 น. (หยุดวันอาทิตย์ )
โทร. 064-5146464
|
ปิดท้ายทริปตะลุยกินร้านอาหารแถวอโศก บรรยากาศดี กับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) กันที่ร้าน “เลอ ดาลัด” (Le Dalat) ร้านอาหารเวียดนามชื่อดังที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักชิมมานานกว่า 30 ปี ตัวร้านโดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งเหมือนจำลองเอาบรรยากาศคฤหาสน์โบราณจากกรุงฮานอย เวียดนาม มาไว้ใจกลางย่านอโศกในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว!
|
|
โดยเฉพาะบริเวณห้องรับรองด้านหน้า ที่ทางร้านลงทุนซื้อโครงบ้านไม้เก่าแก่โบราณจากเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม นำมารีโนเวทให้เป็นร้านอาหารได้อย่างสวยงามลงตัว ผนังรอบๆ ร้านยังประดับด้วยภาพวาดที่เป็นผลงานสะสมของบุตรสาวของผู้ก่อตั้งร้านอย่าง “มาดามฮัวลี” ที่สืบทอดต้นตำรับเมนูอาหารมาจากตระกูลเก่าแก่ของประเทศเวียดนาม
|
|
นอกจากการตกแต่งภายในร้านจะสวยเก๋น่านั่งแล้ว เมนูเด็ดของที่ร้านเลอ ดาลัด ก็เลิศเลอไม่แพ้กันเลย ประเดิมด้วยเมนูเมนคอร์สจานแรกอย่าง “จ่าก๊าลาวอง” อาหารขึ้นชื่อของฮานอย ที่ทำจากปลากะพงนำเอาไปนาบบนกระทะกับน้ำมันพอสุก โรยหน้าด้วยผักชีลาว เสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นแป้ง ผักสดเป็นกระบุงและน้ำจิ้มสองรสอย่างน้ำจิ้มกะปิและน้ำจิ้มมะขามรสเปรี้ยวหวาน อร่อยเข้ากันมากๆ จัดเป็นเมนูหาทานยากที่มีเฉพาะที่นี่ ต่อด้วยเมนู “บุ้งจ๋าฮานอย” ขนมจีนหน้าหมูย่างสูตรฮานอย ความพิเศษอยู่ตรงที่หมูย่างของที่นี่เนื้อนุ่มหอมมากๆ เนื่องจากทางร้านย่างด้วยถ่านไม้แบบโบราณ ทานคู่กับ “เนือกจัน” หรือน้ำจิ้มซอสมะนาวสูตรพิเศษ อร่อยเด็ดแบบไม่ต้องบินไปกินไกลถึงเวียดนาม
|
|
ต่อด้วยเมนูไฮไลท์อย่าง “เฝอเนื้อวากิว” ใครที่เคยกินเฝอทั่วไปต้องประทับใจกับเมนูนี้แน่นอน! เพราะที่ร้านเลอ ดาลัด เค้าคัดเนื้อวากิวเกรดพรีเมียมนำมาทำเป็นเมนูเฝอแบบพิเศษสุดๆ โดยเสิร์ฟเนื้อสไลด์มาเป็นถาดพร้อมผักสดเครื่องเคียง เวลาทานเราจะใช้ตะเกียบจุ่มเนื้อลงไปลวกในน้ำซุปร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เนื้อนุ่มละลายในปาก เป็นเมนูแนะนำที่ห้ามพลาดต้องมาลองจริงๆ
|
|
ตบท้ายด้วย “แจ่โบกควาย” เมนูของหวานมงคลของเวียดนาม ซึ่งปกติจะทำเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่เท่านั้น แต่ที่ร้านเลอ ดาลัด มีเมนูนี้ให้ทานกันตลอดทั้งปี หน้าตาและรสชาติของหวานชนิดนี้คล้ายกับเต้าทึงที่เราคุ้นเคย อัดแน่นมาด้วยเครื่องแบบรวมมิตร มีทั้งแปะก๊วย, เกาลัด, พุทราจีน, แห้ว, เห็ดหูหนูขาว และสาหร่ายทะเล จัดเป็นของหวานสุดเฮลธ์ตี้ที่ทานได้ทั้งครอบครัว
|
|
เรียกว่ามื้อนี้เป็นการจบทริปตะลุยกินกันไปแบบประทับใจ ฟินทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศกันสุดๆ ไปเลยจ้า!
|
และทั้งหมดนี้ก็คือร้านเด็ดย่านอโศก-ประสานมิตร ที่เราอาสาพาไปตะลุยกิน ชี้เป้าพิกัดร้านเด็ดกับรถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด [Yamaha Grand Filano Hybrid] ที่นอกจากจะพาเราไปซอกแซกตะลุยกินฟินกันพุงกาง ไม่ต้องกลัวรถติดแบบนี้...ยังมาพร้อมกับดีไซน์ออโตเมติกแฟชั่นพรีเมียม สีสันสดใส และระบบไฮบริดที่ช่วยให้ออกตัวเร็วยิ่งขึ้น แถมยังประหยัดน้ำมัน พร้อมฟังก์ชันคูลๆ ไม่ว่าจะเป็นเรือนไมล์ดิจิทัลแบบ TFT มาตรวัดจอสีครบทุกฟังก์ชั่น, ไฟหน้าและไฟท้าย LED ดีไซน์ลงตัวกับบอดี้ช่วงท้าย เบาะใหญ่นั่งซ้อนสบายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีช่องเติมน้ำมันด้านหน้าพร้อมปุ่มกดฝาเปิดอัตโนมัติ, ช่องต่อไฟสำรองสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 27 ลิตร พร้อมไฟ LED อัตโนมัติ ช่วยให้เราหาสิ่งของได้สะดวกสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นทริปขี่รถซอกแซกในกรุงเทพฯ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ตอบโจทย์ได้ลงตัวทุกสไตล์เลยจริง
คลิกชมรายละเอียดของรถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด [Yamaha Grand Filano Hybrid] ที่นี่
|
|
|