Blog-Tamroy-EP07-800x420
Lifestyle

ตามรอยพ่อขี่มอไซค์ไป 38 โครงการหลวง : โครงการหลวงสะโงะ โครงการหลวงห้วยแล้ง โครงการหลวงผาตั้ง โครงการหลวงปังค่า

 ผ่านมาเกินครึ่งทางแล้ว สำหรับการเดินทางตามรอยพ่อของพวกเรา ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน กว่า 26 โครงการหลวง และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเดินทางไปยังเหนือสุดแดนสยาม ที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดที่โดยส่วนตัวเราเองขอยกให้เป็นเมืองที่มีวิวสวยที่สุด เพราะไม่ว่าจะขี่รถไปทางไหนก็สวยงามไปเสียหมดจริงๆ
 
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโงะ
ดอกเก๊กฮวยเหลือง วิถีอาข่า และจุดชมวิว 3 ประเทศ
 

                           พวกเราได้เดินทางออกจาก โครงการหลวงหมอกจ๋าม อำเภอแม่อาย ไปตามเส้นทางท่าตอน อ้อมขึ้นทางดอยแม่สลอง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง โครงการหลวงสะโงะ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เส้นทางมีความสวยงามมาก แต่จะขับขี่ยากอยู่สักหน่อย เพราะถนนแคบและชันพอสมควร แต่ยังไงทั้งคน ทั้งรถ ก็เอาอยู่ สามารถผ่านไปได้ด้วยดี ระหว่างทางก็มีที่เที่ยวอย่าง ไร่ชาฉุยฟง ที่อำเภอแม่จัน ไร่ชาขั้นบันไดผืนใหญ่ ที่ปลูกโค้งวนไปตามสันเขา หรือถ้าอยากชื่นชมธรรมชาติ ผสมผสานกับการท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ ก็ต้องลองมาเดินบน เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเรือนยอดไม้ หรือ DoiTung Tree Top Walk หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไปว่า สะพานยอดไม้ ไม่ก็ สะพานต้นไม้ ภายใน สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง
                 แวะเที่ยวระหว่างทางไปแล้ว ก็ถึงเวลายิงยาวไป โครงการหลวงสะโงะ กันต่อเสียที โดยพวกเราขี่เลียบน้ำโขงกันไป สองข้างทางซ้าย – ขวามีวิวทุ่งนาขนานยาวไปกับเราจนสุดสายตา มันช่างเป็นภาพที่สวยงามมากจนเราแทบบรรยายออกมาเป็นคำไม่พูดไม่ได้ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าแค่คำว่า "สวยงาม" มันจะเพียงพอไหมกับภาพที่พวกเราเห็น เอาเป็นว่าเราขอปักหมุดให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางแนะนำสำหรับไบเกอร์ที่รักธรรมชาติทุกคน ลองหาโอกาสมากันสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังเพราะมันสวยมากจริง ๆ
                  และเมื่อเราได้เดินทางมาถึง โครงการหลวงสะโงะ เราก็พบแปลงองุ่นที่กำลังโตเป็นพวงสวย ดูๆ แล้วก็น่าจะเป็นผลผลิตที่เยอะพอสมควร แต่องุ่นยังไม่ใช่ผลผลิตของที่นี่ เพราะผลผลิตหลักของที่นี่จริง ๆ คือดอกเก๊กฮวยเหลืองสายพันธุ์จีน ซึ่งวันนี้เราก็โชคดีได้มาเห็นภาพความน่ารักของเด็ก ๆ ชาวเขาที่ใส่ชุดชนเผ่าเต็มยศมาเก็บดอกเก๊กฮวยกัน และแน่นอนว่าพวกเราเองก็ไม่พลาด โดดเข้าไปช่วยเด็กๆ เก็บดอกเก๊กฮวยกันสนุกสนาน
                 พอเก็บดอกเก๊กฮวยเสร็จ เราก็ได้เข้ามาจองที่พักของ โครงการหลวงสะโงะ ซึ่งราคาที่พักก็เป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่พักของโครงการหลวงแห่งอื่นๆ ที่ทั้งถูก ทั้งสะอาดสะอ้าน ตกก็แสนจะถูก แค่เพียงคนละ 100 บาทเท่านั้นเอง ส่วนที่พักบริเวณจุดชมวิวที่เป็นบ้านแนวพื้นเมือง มีความเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ แถมมีโอกาสได้ชิมอาหารของชนเผ่าอาข่าแท้ๆ อีกด้วย
                 จุดชมวิวดอยสะโงะ จะเห็นวิว 3 ประเทศก็คือ ประเทศลาว ประเทศพม่า และประเทศไทยของเราเอง พร้อมด้วยทิวทัศน์ของน้ำโขงตกกลางคืนก็จะได้เห็นแสงไฟในฝั่งลาวดูระยิบระยับเหมือนดาวบนดินไม่มีผิด พอมานั่งคิดๆ ดู แค่การที่เรานั่งชมวิวอยู่เฉยๆ แบบนี้ มันกลับทำให้เรามีความสุขขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ไม่ต้องคุยโทรศัพท์ ไม่ได้นั่งแชตกับใคร แค่นั่งมองดาวบนดิน บนฟ้า สลับกันไปมาอยู่คนเดียวเฉย ๆ ก็มีความสุขมาก ๆ แล้ว ท่าทางคืนนี้คงได้นอนหลับสบาย


                หลังจากที่เมื่อคืนเข้านอนด้วยความสุขใจ พวกเราก็ตื่นมาด้วยความสดใสสุด ๆ พร้อมแล้วสำหรับจุดหมายถัดไป โครงการหลวงห้วยแล้ง ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ เราจะต้องผ่านสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ที่เคยมีความสำคัญในเชิงลบกับประเทศของเราในอดีต แต่ในปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่สีขาว และมี หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำเป็นแหล่งการเรียนรู้สำคัญ ที่เปรียบเหมือนอนุสรณ์ของช่วงเวลาอันดำมืดและภัยร้ายของยาเสพติด เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจและให้ความรู้กับคนรุ่นหลัง
 
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง
ฝนกระหน่ำ ทะเลหมอก กับแง่งามของคำว่า "ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ"
 

           จริงๆแล้วตามแผนเดิมของเรา พอออกจาก หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ แล้วเราจะต้องมุ่งหน้าไปที่ โครงการหลวงห้วยแล้ง ก่อน แล้วถึงจะมาที่ โครงการหลวงผาตั้ง แต่ระหว่างที่เรากำลังเดินทางตามแผนที่วางเอาไว้ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนแผน ขึ้นไปนอนกันที่ โครงการหลวงผาตั้ง ก่อน เนื่องจากพวกเราก็ได้จองที่พักไว้ที่นั่นด้วยเหมือนกัน  ขี่รถลุยฝนกันมาจนเกือบถึง โครงการหลวงผาตั้ง อยู่แล้ว ฝนเจ้ากรรมก็หยุดตกได้สักที ตอนที่นาฬิกาข้อมือบอกเวลาบ่ายสามโมง เมื่อฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เพราะหลังฝนหยุดทะเลหมอกก็ออกมาโชว์ตัวให้พวกเราได้ชื่นชมจนชื่นใจ พวกเรารีบหยุดรถเพื่อบันทึกภาพความงามที่ธรรมชาติมอบให้อย่างเต็มที่ และตอนนี้เราก็เข้ามาในเขตบ้านผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
             โครงการหลวงผาตั้ง เป็นโครงการหลวงน้องเล็กสุดท้อง คือเป็นโครงการหลวงที่ 38 นั่นเอง โดยมีการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกสตรอว์เบอร์รี่ พลับ เคพกูสเบอร์รี่ แล้วก็ผักสลัดต่าง ๆ เช่น โอ๊คลีฟแดง แครอทม่วง ถั่วลันเตาหวาน เป็นต้น และอีกอย่างที่เป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ จุดชมวิวทะเลหมอกผาบ่อง – เนิน 103 ที่บอกได้คำเดียวว่าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนได้มาถึงที่ผาตั้งนี่แล้ว เราก็ขอให้อดทนเดินทางต่ออีกนิด รับรองว่าไม่ว่าจะเหนื่อยจากการเดินทางขนาดไหน เมื่อมาเห็นวิวทะเลหมอกตรงนี้แล้ว คุณจะลืมเหนื่อยไปเลย
 
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง
ผักสดๆ จากเชียงรายที่เราเห็น เขาคัดแยกกันที่นี่นี่แหละ
 

                 เมื่อเสร็จจาก โครงการหลวงผาตั้ง พวกเราก็ต้องเดินทางย้อนลงมาเพื่อไปยัง โครงการหลวงห้วยแล้ง แต่เนื่องจากฝนตกมาตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้การขับขี่ในเส้นทางนี้ยากลำบากอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่มีความชันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วยังมาเพิ่มความลื่นเข้าไปอีก แถมหมอกยังลงหนามาก ๆ อีก ทำให้ขณะขับขี่เราต้องระมัดระวังพอสมควร แต่จริง ๆ แล้วในเวลาปกติ ฟ้าเปิดสดใส เส้นทางสายนี้จะเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่มีวิวสวยจัดเลยทีเดียว  เมื่อเข้ามาถึงตัว โครงการหลวงห้วยแล้ง ก็ทราบว่าที่นี่จะมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด ก็คือจุดที่เป็นสำนักงาน แปลงเพาะกล้า และโรงคัดแยก และอีกส่วนหนึ่งก็คือพื้นที่สนับสนุนการเพาะปลูก ซึ่งจะอยู่บนที่สูง โดยที่นี่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวบ้านเพาะปลูกบล็อกโคลี่ กะหล่ำปี และไม้ผลอีก 13 ชนิด อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมในการคัดแยกผักของโครงการหลวงที่อยู่ในจังหวัดเชียงรายทั้งหมด ส่วนคนที่กำลังมองหาจุดชมวิวของ โครงการหลวงห้วยแล้ง อยู่ล่ะก็ ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลหรอก มุมดีอยู่บนนี้ต่างหากล่ะ ซึ่งตรงบริเวณพื้นที่สนับสนุนการเพาะปลูกนี่แหละ มุมดี วิวสวย Bird's Eye View ที่สุด แถมอากาศก็เย็นดีอีกด้วย
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า
ผักสด ๆ จากแพร่ น่าน จะมารวมกันอยู่ที่นี่
 

                      โครงการหลวงแห่งสุดท้ายที่เรากำลังจะมุ่งหน้าไปนี้ เราต้องเตรียมออกเดินทางกันสักหน่อย เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล โดยเราเดินทางจาก โครงการหลวงห้วยแล้ง จังหวัดเชียงราย เพื่อมุ่งหน้าไปยัง โครงการหลวงปังค่า จังหวัดพะเยา โดยเราใช้เส้นทางอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ผ่านอำเภอเชียงคำจังหวัดพะเยา ซึ่งระหว่างทางเราก็ไปสะดุดกับชื่อหมู่บ้านหนึ่ง ชื่อว่า บ้านรักแผ่นดิน เห็นแล้วรู้สึกชอบชื่อนี้เป็นการส่วนตัว ถึงขนาดต้องจอดรถแล้วโดดลงไปถ่ายรูปกับป้ายชื่อหมู่บ้านนี้เลยทีเดียว การเดินทางไปยัง โครงการหลวงปังค่า นี้ก็จะขึ้นไปในเส้นทางมุ่งสู่ยอดดอยภูลังกา และเมื่อขึ้นมาถึงเราก็ไม่รีรอที่จะเดินสำรวจบรรยากาศโดยรอบทันที ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่มีบรรยากาศเหมือนรีสอร์ต ตัวบ้านพักถูกจัดแบบเรียบง่าย แต่ก็สะอาดสะอ้านน่าพักเลยที่เดียว
                       โครงการหลวงปังค่า จะมีการสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกผักกับไม้ผล โดยผักก็จะมี พริกหวาน คะน้ายอด คะน้าฮ่องกง เบบี้ฮ่องเต้ ส่วนไม้ผลก็มีทั้ง เสาวรสหวาน แมคคาดีเมีย อะโวคาโด มะม่วงนวลคำ และเคฟกูสเบอรรี่ และนอกจากจะเพาะปลูกผักและไม้ผลแล้ว โครงการหลวงปังค่า ยังมีโรงคัดแยกไว้รับคัดแยกผักจากศูนย์ขยายผลโครงการหลวงอีกหลายที่ในจังหวัดน่าน บางแห่งมาไกลจากขุนสถานที่อยู่ติดกับจังหวัดแพร่ เลยทีเดียว สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ใกล้กับ โครงการหลวงปังค่า ก็คือ ยอดดอยภูลังกา แต่การพิชิตยอดดอยของพวกเราก็ต้องสะดุด หยุดอยู่แค่จุดกางเต็นท์ เพราะฝนตก ถนนลื่น แต่ถ้าหากเราอยากขึ้นไปจริ ๆ ช่วงนี้ต้องใช้โฟวิลเท่านั้นที่จะพาคุณผ่านไปถึงยอดดอยได้ ไม่อย่างนั้นก็มีอีกทางเลือกหนึ่งคือขึ้นไปชมวิวดอยภูลังกาที่ จุดชมวิวเนินสะเกิน ซึ่งอยู่เลยไปอีก 50 กม. เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไปถ่ายรูปกัน สิ่งที่เราได้เห็นจากการเดินทางในครั้งนี้ คือในหลายๆ พื้นที่ยังคงรักษาสภาพของแหล่งท่องเที่ยวไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด โดยไม่ดึงเอาความเจริญเข้าไปจนทำให้สภาพพื้นที่สูญเสียความเป็นธรรมชาติไป เพื่อที่จะรักษาแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้ชื่นชมอีกนานเท่านาน
 
"หากเรารู้จักใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะยังคงอยู่กับเราตลอดไป"