Blog-GFH-Sangkra-1200x628
Reviews

ประเพณีงานบุญเดือนสิบ ลอยเรือสะเดาะเคราะห์ที่สังขละบุรี กับ Yamaha Grand Filano Hybrid By Mocyc Pantip


    วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกับเจ้าสองล้อคันคู่ใจโดยเราจะขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแบบสายชิล ไม่เน้นเร็ว ไม่เน้นไกล กินอิ่ม นอนอุ่น แวะเช็คอินร้านกาแฟน่ารักๆ และเจ้าสองล้อที่จะพาไปเที่ยวกับเราในครั้งนี้ก็คือ Yamaha Grand Filano Hybrid (ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด) รถออโตเมติกแฟชั่นพรีเมี่ยม 125 ซีซี คันนี้นี่เอง



01



และที่เที่ยวที่เรากำลังจะไปนั้นก็คือ จ.กาญจนบุรี ซึ่งทริปนี้ เราใช้เวลาที่กาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน เน้นขับขี่ชิลล์ๆ สบายๆ ออกจาก กทม. สายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง


02



โดยมีแผนการเดินทางดังนี้

วันแรกเราจะออกเดินทางจาก กรุงเทพ  - ไทรโยค เราจะได้แวะเช็คอินร้านกาแฟ แล้วไปนอนริมแคว แบบใกล้ชิดธรรมชาติ

วันที่ 2 ไทรโยค – สังขละบุรี เราจะได้สัมผัสกับวิถีชาวมอญ ประเพณีงานบุญเดือนสิบ ลอยเรือสะเดาะเคราะห์

วันที่ 3 เป็นการเดินทางกลับจาก สังขละบุรี – กรุงเทพ


03



        ในทริปนี้ เราออกเดินทางไปกันทั้งหมด 3 คน และใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) จำนวน 2 คัน โดยพบกันที่จุดนัดหมายในเวลา 8.00 น. ก่อนออกเดินทางเราก็ได้ทำการ ตรวจเช็คสภาพรถ และความพร้อมต่างๆ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางโดยใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนี แยกเข้านครชัยศรีแล้วผ่านไปทางนครปฐม จากนั้นแยกเข้าไปกาญจนบุรี โดยผ่าน อ.บ้านโป่ง เมื่อเข้ากาญจนบุรีมาแล้ว เราก็พุ่งไปที่ร้านกาแฟที่เป็นเป้าหมายของเรานั้นก็คือร้าน Ravi Riva Cafe’ (ราวี รีวา คาเฟ่) 


04





Ravi Riva Cafe’ (ราวี รีวา คาเฟ่) 

ร้านกาแฟสไตล์ Vintage Loft  ริมแม่น้ำแม่กลอง บริเวณพื้นที่ภายนอกตกแต่งสวนสวยๆ สบายๆ เหมาะกันการนั่งจิบชายามบ่าย  มีต้นไม้และศาลา ดูร่มรื่น ส่วนภายใน เป็นเรือนกระจก ตกแต่งแนวยุโรปวินเทจ ของตกแต่งเยอะไปหมด ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่มุมน่าถ่ายรูป ดูดีมีคลาส เหมาะแก่การถ่ายรูป อัพIG เช็คอิน เปลี่ยน Profile เกร๋ๆ

05




06




07




08




09




10




11




12






13

         ทั้งนี้ ทางร้านให้บริการทั้งอาหารคาว ของหวาน อีกด้วย จากนั้นก็ได้เวลาไปต่อ จากร้านกาแฟ เราจะมุ่งหน้าไปยัง อ.ไทรโยค ซึ่งเป็นที่พักของเราในค่ำคืนนี้ ระยะทางประมาณ 100 กม.




14


เมื่อเราขับขี่ไปเรื่อยๆ สบายๆ สักพัก เราก็มาถึงที่พักของเราในวันนี้กันแล้วค่า

 

River Kwai Resotel Resort

15



River Kwai Resotel Resort เป็นบูติครีสอร์ท ริมแม่น้ำแควน้อย ห้องพักทั้งหมดจะเป็บแบบบังกะโลแยกเป็นหลัง มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ โดยบังกะโลจะเป็นแบบ Tropical มีความกลมกลืนไปกันธรรมชาติ สามารถมองเห็นแม่น้ำแควน้อยและหน้าผาฝั่งตรงข้ามได้เลย ภายในรีสอร์ทมีความร่มรื่นมากๆ บังกะโลแต่ละหลังจะแทรกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ โดยพื้นที่ของรีสอร์ทจะมีทั้งโซนที่อยู่ใกล้ริมน้ำ ซึ่งทางรีสอร์ทก็จะมีแพให้เราสามารถลงไปนั่งเล่นกันได้ด้วย และยังมีในส่วนของสวนที่มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นสุดๆ


16




18



19




20




21


        และในวันรุ่งขึ้นเมื่อเราตื่นเช้ามา เราก็ออกมาเดินเล่น ถ่ายรูป ยืนดูหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่ตรงหน้าช่างเป็นช่วงเวลาของ การพักผ่อนที่แท้จริง และเมื่อเสร็จจากการเดินเล่นแล้วเราก็มารับประทานอาหารเช้ากันที่รีสอร์ท

 

แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะต้อง check out เก็บกระเป๋า เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อ สัมภาระใบใหญ่ไม่เป็นปัญหาต่อการเดินทางเลย เพราะว่ารถยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) สามารถวางสัมภาระไว้บนที่พักเท้าได้อย่างสบาย โดยยังเหลือพื้นที่วางเท้าอีก


22




26



        สำหรับจุดหมายวันนี้ เราจะไปพักกันที่ แพริมแม่น้ำสามประสบที่สังขละบุรี เราขี่มาจนถึงทองผาภูมิ ใกล้จะแยกเข้า สังขละบุรี ก็แวะพัก นั่งจิบกาแฟกันไป


27

  


28


         เส้นทางไปสังขละส่วนใหญ่จะเป็นทางขึ้นลงภูเขา ซึ่งการที่ได้ขับขี่บนทางโค้ง มันก็ทำให้เราได้หายง่วงดีเหมือนกัน และยิ่งฝนเพิ่งจะหยุดตกไป ทำให้ถนนลื่นไป เราจึงต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังไปตลอดทาง จากจุดนี้ ไปอีก 15 กม. ก็ถึงสังขละแล้ว

29



และเมื่อเราเดินทางมาถึง แพเคียงหมอก ก็เกือบค่ำ เราได้ check in เข้าที่พักกันเลย ซึ่งแพเคียงหมอกนี้ มองเห็นสะพานมอญอยู่ลิบๆ ช่วงนี้น้ำขึ้นเยอะมาก สะพานจึงดูเตี้ยไปเลย นอกจากนั้นเรายังเห็นเจดีย์พุทธคยาอีกด้วย

33



31



32



 จากนั้นช่วงค่ำๆ เราได้ออกไปเที่ยวงานบุญที่สังขละจัดงานประเพณี “‘งานบุญเดือนสิบลอยเรือสะเดาห์เคราะห์” นี้

34




35




         งานบุญเดือนสิบ ลอยเรือสะเดาะเคราะห์ เป็นประเพณีของชาวไทยรามัญ หรือชาวมอญ จะจัดขึ้น 3 วัน ในช่วงวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ถือเป็นงานบุญครั้งใหญ่ของชาวมอญที่ อ.สังขละบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่าและบนบก

36


         งานจัดขึ้นที่บริเวณพระเจดีย์พุทธคยา โดยชาวบ้านจะร่วมกันสร้างเรือไม้ไผ่ นำมาตั้งไว้ที่หน้าพระเจดีย์ตั้งแต่ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 10 จากนั้นชาวบ้านจะรวมตัวกันเพื่อนำอาหารมาถวายในเรือ มีทั้งข้าวสวย ข้าวตอก กล้วย ข้าวต้มมัด อ้อย ถั่วตัด ขนม ผลไม้ต่างๆ หมากพลู รวม 9 อย่าง และตุง ซึ่งเป็นธงกระดาษมาเสียบประดับไว้บนเรือไม้ไผ่ พร้อมกับจุดธูปเทียนบูชา ตามกำลังวันเกิดของตัวเอง เพื่อเป็นการสะเดาะห์เคราะห์ ต่ออายุ อธิษฐานให้สิ่งไม่ดี และเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ไปให้พ้นจากชีวิตตน นอกจากนี้ยังมีการเล่นโคมเพื่อลอยโคมขึ้นสู่ท้องฟ้า บริเวณลานด้านหน้า เป็นสัญญาณบอกเทวดาที่อยู่เบื้องบนอีกด้วย

37



38



39



40



         ในช่วงเช้าของวันขึ้น 15 ค่ำ จะมีการตักบาตรน้ำผึ้ง น้ำตาล ที่วัดวังก์วิเวการาม สืบเนื่องมาจากความเชื่อเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเคยเสด็จประทับที่ป่าเลไลย์ มีช้างและลิงคอยอุปัฏฐากโดยการนำเอาอ้อยและน้ำผึ้งคอยถวาย  กิจกรรมนี้จึงเป็นการน้อมนำ ให้ระลึกว่าสัตว์ยังรู้คุณค่าของศาสนาเพื่อได้สดับรับฟังธรรมนั่นเอง

41




42



44




43



         ชาวบ้านที่นี่ ไม่ว่าจะช่วงอายุไหน ทั้งเด็ก หนุ่มสาว และผู้สูงวัย ต่างก็มาร่วมทำบุญกัน ด้วยแรงศรัทธาในช่วงกลางคืน ก่อนถึงวันลอยเรือสะเดาะเคราะห์ พระภิกษุและสามเณรก็จะมาสวดมงคลสะเดาะเคราะห์บริเวณด้านหน้าเรือไม้ไผ่ มีการเผาธูป จุดเทียนสะเดาะเคราะห์ที่คนนำมาถวายทั้งหมดบริเวณปะรำพิธีลานเจดีย์พุทธคยา และในงานวันสุดท้าย ชาวบ้านจะช่วยกันลากเรือไม้ไผ่ด้วยเชือกเส้นยาว พร้อมกับมีดนตรีและการเต้นรำของสาวมอญไปตลอดทาง จนถึงบริเวณที่ปล่อยเรือ คือ บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย ได้แก่ ซองกาเลีย รันตี และบิคลี่ หรือเรียกว่า สามประสบ และเป็นที่มาของแม่น้ำแคว สายน้ำแห่งกาญจนบุรีนั่นเอง ถือเป็นอันเสร็จพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ลอยความทุกข์โศกไปกับสายน้ำ

งานบุญเดือนสิบนี้ นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีดั้งเดิมของกลุ่มชนแล้ว ยังเป็นการแสดงความร่วมแรง ร่วมใจ

ทั้งแรงสามัคคีและแรงศรัทธาของชาวบ้านอีกด้วย เป็นงานที่น่าประทับใจจริงๆ น่าเสียดายที่เราได้อยู่ร่วมงานแค่ช่วงค่ำของงานวันที่แรก และช่วงเช้าของงานวันที่สอง เลยไม่มีภาพการลอยเรือสะเดาะห์เคราะห์มาฝาก

45



ขนมจีนหยวกกล้วย เป็นอาหารรองท้องของเราในนเช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ และถ้าเรามาถึงสังขละ แล้วไม่ไปสะพานมอญ คงจะเรียกว่ามาไม่ถึง

46



สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี

2

47



        เราก็เพิ่งจะเคยได้เห็นสะพานมอญที่ทอดยาวไปถึงปลายทางเป็นครั้งแรกเหมือนกัน เพราะครั้งก่อนที่เคยมา เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าพัดเอาท่อนซุงชนตอม่อ ทำให้สะพานขาด และได้รับความเสียหายเยอะ ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว นอกจากนี้ ที่สังขละยังมีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะ แต่เสียดายที่เรามีเวลาน้อยไปหน่อย ถึงเวลาต้องโบกมือลาสังขละ และเราก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ

 

การเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางที่สนุกทีเดียว ได้เที่ยวได้กินครบ และยิ่งไปกับเจ้ายามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) คันนี้ ยิ่งสนุกมากขึ้น เป็นการขับขี่ในระยะทางไกล ที่รู้สึกว่าสบายมาก นั่งก็สบาย ไม่เมื่อยเลย และสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างเจ้า Yamaha Grand Filano Hybrid กับเจ้า Yamaha Grand Filano ตัวเก่าที่เราใช้อยู่ นั่นก็คือ

 

★ ด้านความแรง ★

เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะรถยามาฮ่าแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) แรงกว่า ยามาฮ่า แรกนด์ ฟีลาโน่ (Yamaha Grand Filano) คันเดิมพอสมควรเลย ทำให้รู้สึกว่าขี่สนุกกว่าเดิม มันเบาๆ และตอบสนองดีกว่าเดิม นอกจากความต่างในด้านความแรงแล้ว ยังมีอย่างอื่นที่เปลี่ยนไป ตามรายละเอียดด้านล่าง (ความเห็นในส่วนของรายละเอียดของรถ ส่วนหนึ่งเป็นความเห็นของเราที่เคยใช้รถ Yamaha Grand Filano ตัวเก่ามา และอีกส่วนหนึ่งเป็นของพี่ที่มีประสบการณ์ด้านการขี่มอเตอร์ไซค์)

 

★ ด้านเครื่องยนต์ ★

บนพื้นฐานของเครื่องยนต์บลูคอร์ (Blue Core) สูบเดียว 125cc  SOHC 2 วาล์ว ระบายด้วยอากาศ

เมื่อเทียบเครื่องยนต์ของยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ (Yamaha Grand Filano) ตัวเก่า กับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ที่มีระบบ Hybrid Motor SMG มาช่วยเสริมกำลังออกตัวในช่วงสั้นๆ จะรู้สึกว่าตอนออกตัวจะรู้สึกเบาและพุ่งขึ้นตัวเก่า แต่ในรอบกลางและรอบปลายกลับดีขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเกิดจากการปรับจูนในหลายๆอย่าง ทำให้เครื่องยนต์ของยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ใหม่นี้ มีกำลังที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย รุ่นพี่บอกเราว่า ที่ดีขึ้นเพราะมี Hybrid Motor มาช่วยส่งกำลังช่วงจังหวะออกตัวเล็กน้อย เลยทำให้เซ็ทเม็ดหนักขึ้น ทำให้ย่านกำลังย้ายมาอยู่ที่รอบกลางและปลายมากขึ้น

จากการทำ Top Speed แบบวิ่งตามลม ทำได้ถึง 110 กม/ชม (ตัวเก่าทำได้ประมาณ 102 ) ตามเรือนไมล์ และ 104 km/h ตาม GPS (ซึ่งในรุ่นเก่าบิดยังไงก็ไม่สามารถทำความเร็วได้แบบนี้)

ส่วนในการขับขี่ธรรมดาทั่วไป สามารถทำความเร็วได้ถึง 95 กม/ชม (ตัวเก่าทำได้ 85) แบบไม่ต้องลุ้นเหมือนตัวเก่าและเราก็รู้สึกมีความมั่นใจในการเร่งแซงมากขึ้น

ส่วนด้านความประหยัดน้ำมันก็ยังได้ดีเหมือนเดิม คือ ประมาณ 45-50 กม/ลิตร ซึ่งก็แล้วแต่ความเร็วที่ใช้และการโหลดน้ำหนักด้วย

 

★ ระบบ Start Stop System ★

อีกหนึ่งสิ่งที่ดีงามมากๆ ที่มีในเครื่องยนต์ใหม่นี้คือ ระบบ Start Stop System ถ้าเปิดระบบนี้ไว้ เมื่อเราหยุดรถ เครื่องยนต์ก็จะดับเองอัตโนมัติ และเมื่อเราบิดคันเร่ง เครื่องจะติดขึ้นอย่างนุ่มนวล บางทีไม่รู้สึกตัวเลยว่าเครื่องยนต์ติดแล้ว เงียบดีจริง ซึ่งถ้าใช้งานในเมืองก็จะช่วยให้ประหยัดขึ้น และโดยส่วนตัวเวลาหยุดรถนานๆ (เช่นรอไฟแดงนานๆ) ถ้าเครื่องยนต์ดับจะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าติดเครื่องยนต์อยู่ เป็นสิ่งที่ดีงามเลยทีเดียว

 

เครื่องยนต์ของยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ใหม่นี้ ถือว่ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดไปในรุ่นเก่าได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะในแง่ Performance ที่ให้กำลังได้ดีขึ้นชัดเจน หรือความ Smart กับ function ต่างๆ ของระบบ Hybrid และ Start Stop System ตรงจุดนี้ถือว่าน่าประทับเลยทีเดียว แต่จุดที่ต้องบอกไว้เลยก็คือ Performance ของเครื่องตัวนี้มันส่งออกแบบแนวนุ่มนวล ให้แรงบิดในรอบต่ำเยอะ

51




49



★ หน้าตา รูปลักษณ์ แฟริ่ง เปลี่ยนไปจากเดิม ★   

★ ไฟ ★

ไฟหน้าเปลี่ยนเป็น FULL LED ส่วนหน้าตาไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังก็เปลี่ยนไป ไฟท้ายก็มีการปรับรูปทรงให้ดูโค้งมนมากขึ้นและปรับตำแหน่งให้สูงขึ้นด้วย

50



51



★ เรือนไมล์ ★

เรือนไมล์ดิจิตอล มีจอสี TFT แสดงเกจน้ำมัน ระบบ Eco Guide บอกว่าประหยัดน้ำมันมากน้อยแค่ไหน  ที่สำคัญ ตัวเลข Average Consumption ที่รายงานนั้นตรงกับความเป็นจริงมากๆ ( ลองจับโดยเทียบกับจำนวนลิตรในการเติมจริงๆ )

นอกจากนั้น ยังมีการแสดงการทำงานของไฮบริดด้วย ดู High tech มากมาย และดูดีมีสไตล์กว่าเดิมอีกต่างหาก

52






53



★ Mobile Charger ★

มี Mobile Charger มาด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องโทรศัพท์แบตหมดอีกต่อไป

 

54


★ระบบกุญแจ★

สำหรับในรุ่น ABS นั้น ระบบกุญแจจะเป็น Smart Key ไม่ใช่เป็นกุญแจปกติแบบในรูป

 

★ พื้นที่ Space การใช้งาน ★

จุดเด่นสุดๆเลยของรถยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Finano Hybrid) ที่ทำให้เราประทับใจ นั้นก็คือพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆ ที่กว้างขวางพอสมควรเลยค่ะ เมื่อเทียบกับขนาดรถอย่างแรกเลยก็คือออ



55

56



★ U-Box ★

ใช้งานสะดวกเช่นเคย จากประสบการณ์ใช้งานจริง เวลาไปแคมป์ปิ้ง ไม่ว่าจะเต้นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ยัดลงไปได้หมดเลย แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ อยากให้ใส่หมวกกันน๊อกแบบเต็มใบได้ด้วยอ่ะ จะปลื้มมาก

57


★ พื้นที่วางเท้า ★

พื้นที่วางเท้ากว้างขวางที่สุดในท้องตลาดแล้ว จะวางของอะไร ก็ได้ สะดวกไปย

58


★ เบาะ ★

เบาะมีความกว้างและนั่งสบายมากทั้งคนขี่และคนซ้อนเลย confirm จากการเดินทางไกล เมื่อผ่านไปสัก 100-150 กิโลเมตร ลงจากรถแล้วยังรู้สึกสบายๆ

59



★ พักเท้าหลัง ★

มีพื้นที่กว้างเหยียบสบาย ที่สำคัญกดครั้งเดียวก็เด้งออกมาเลย ใช้งานสะดวกดีจัง

60




★ ถังน้ำมัน ★

เป็นถังขนาด 4.4 ลิตรที่เติมน้ำมันสะดวกที่สุดกว่ารุ่นไหนๆ (อันนี้ได้ใจผู้ใช้งานผู้หญิงมาก) และด้วยความประหยัดของ Grand Finano Hybrid ทำให้ระยะต่อถังนั้นทำได้ประมาณ 200 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้งได้เลย

 

★ เบรกและช่วงล่าง ★

สำหรับการทำงานของระบบเบรกและช่วงล่างของ Yamaha Grand Filano Hybrid ถือว่าทำงานได้ดีโดยในเรื่องระบบเบรกหน้านั้นเอาไป 4.5 ดาวเลยเพราะ "ไม่ทื่อ" แบบรถในกลุ่ม automatic หลายๆคัน ส่วนเบรกหลังที่เป็นดรัมเบรกนั้นทำงานได้ในระดับดีตามที่ควรจะเป็น ว่ากันเรื่องช่วงล่าง ถ้าถามถึงความนุ่มนวลก็ถือว่าสอบผ่านในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังแอบมีความกระด้างอยู่บ้างตามธรรมชาติของรถ Automatic ล้อเล็กที่มีช่วงยุบค่อนข้างสั้น แถมในด้านหลังยังต้องแบกน้ำหนักของเครื่องยนต์ไว้ใต้สปริงโช๊คด้วย ซึ่งเราก็เข้าใจในตรงนี้ ว่าจะให้ยุบแบบนุ่มนวลแบบรถที่ช่วงยุบเยอะๆและมีอิสระไม่ต้องแบกน้ำหนักเครื่องยนต์ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นตรงจุดนี้ ก็ให้คะแนนตามที่ควรจะเป็น

 

            ส่วนการยึดเกาะของช่วงล่าง ในย่านความเร็วต่ำถึงปานกลางทำได้น่าพอใจ ส่วนในย่านความเร็วสูงนั้น ก็จะหวิวๆหน่อย แต่เข้าใจว่ารถไม่ได้ถูก Design มาให้ตอบสนองตรงจุดนั้นมากมายค่ะ เพราะเป็นรถขี่ชิลล์ๆ ไม่ใช่รถที่เน้น Performance ด้าน Sport มากมาย และสำหรับในรุ่น ABS จะมีสติกเกอร์ ABS ติดมาให้ที่ล้อหน้าด้วย เมื่อเราเบรกกันมิดๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าล้อจะล็อค ช่วยมือใหม่ได้มากเลย แต่รุ่นที่นำมารีวิวนี้เป็นรุ่น Standard จะไม่มี ABS

 

61

★ สรุป ★

สิ่งที่เพิ่มมาในเจ้ายามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ตัวใหม่นี้ เรียกได้ว่าคุ้มค่า กับราคาที่จ่ายแพงกว่าเดิมนิดเดียว จากที่เราชอบเจ้ายามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ (Yamaha Grand Filano) ตัวเดิมอยู่แล้ว  พอได้มาลองตัวใหม่ ติดใจเลย แต่ก็ทิ้งเจ้าตัวเก่าไม่ลง แต่ถ้าเทียบกับรถที่มีขนาด 125cc เท่ากัน ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด) Yamaha Grand Filano Hybrid ใหม่นี้ ก็อาจไม่ใช่รถที่แรงที่สุดในรถคลาสเดียวกัน เพราะยังมีรถกลุ่มที่ระบายความร้อนด้วยน้ำด้วยที่แรงกว่า แต่ถ้าในกลุ่มหม้อลม มั่นใจได้เลยว่า ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ค่อนข้างอยู่แถวหน้าแล้ว ซึ่งจุดนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล


62




ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ตัวนี้ อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบความเร็วมาก แต่ถ้าเป็นเรื่อง อรรถประโยชน์และความสะดวกสบาย มั่นใจได้เลย รถที่ดี คือรถที่ถูกใจเรา ใช้แล้วสบายใจ ไปไหนไปกัน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 

ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านจนถึงตรงนี้ และท้ายที่สุด ขอบคุณทีมงานที่เดินทางด้วยกัน ช่วยกันขี่ ช่วยกันทดสอบ ช่วยกันเก็บข้อมูล แล้วพบกันในบทความฉบับหน้านะค่ะ