รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc.
รถบิ๊กไบค์
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ
รถกอล์ฟ
ออนไลน์ช้อป
Yamaha Online Shop
BIGBIKE
บิ๊กไบค์
DEALER & SERVICES
ศูนย์บริการ และผู้จำหน่าย
PRIVILEGE
สิทธิพิเศษ
YAMAHA MOTOR SPORT
ยามาฮ่าเรซซิ่ง
ABOUT US
เกี่ยวกับยามาฮ่า
ค้นหา
เมนู
YAMAHA SOCIETY THAILAND
ผลิตภัณฑ์
ข่าวและกิจกรรม
ยามาฮ่าไลฟ์สไตล์ (บล็อก)
มีเดีย
YAMAHA RIDING ACADEMY (YRA)
สั่งจองอะไหล่
สมุดภาพอะไหล่
ติดต่อยามาฮ่า
ดาวน์โหลดโบรชัวร์
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
คู่มือผู้ใช้รถจักรยานยนต์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc. / COMMUTER
รถบิ๊กไบค์ / BIGBIKE
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ / MARINE
รถกอล์ฟ / GOLF CAR
ออนไลน์ช้อป / ACCESSORIES
หน้าหลัก
อุปกรณ์เสริม
หมวกกันน็อก
เครื่องแต่งกาย
ยามาลู้ป
อะไหล่
HOME
MODEL
NEWS
CALCULATOR
FIND A DEALER
TEST RIDING
หน้าหลักศูนย์บริการและผู้จำหน่าย
ผู้จำหน่าย
เช็กข้อมูลรถจักรยานยนต์
โครงการอบรมผู้จำหน่าย
โปรแคร์
ศูนย์บริการสีเขียว
แนะนำบริการ
หน้าหลักสิทธิพิเศษ
เข้าสู่ระบบ
สิทธิประโยชน์สมาชิก
ข่าวสาร
ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งหมด
กิจกรรม
บทความทั้งหมด
วิดีโอ
โบรชัวร์
แกลลอรี
wallpaper
สกรีนเซฟเวอร์
เพลง
แอปพลิเคชัน
Home
International
National
Team & Rider Profile
Motorsport Activity
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับ YRA
สมัครอบรม
ข่าวสารและกิจกรรม
02-740-8001
ความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทยามาฮ่าประเทศไทย
ร่วมงานกับเรา
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนแนวเขา 4 จังหวัด สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และ นครนายก เป็นเทือกเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับความสูง 400-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พืชพรรณมี 3,000 ชนิด, มีผีเสื้ออยู่กว่า 189 ชนิด, นกป่ามากมายกว่า 350 ชนิดและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 71 ชนิด ซึ่งได้แก่ ช้าง เสือ ชะนี กวาง และหมูป่า พบอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้างทั่ว ๆ ไป หลายคนอาจเคยเข้ามาเพื่อท่องเที่ยว มาเพื่อใช้เป็นทางผ่านไปอีกจังหวัด ด้วยเส้นทางที่เต็มไปด้วยโค้งมากมาย อากาศเย็นสบายจนถึงหนาวในบางจุด มันคือสวรรค์ของสองล้อที่ไปได้ในทุกฤดู ****************** ค่าน้ำมันเดินทาง 300 บาทไปกลับ ค่าเข้าเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท / คน เด็ก 20 บาท / คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท / คน เด็ก 200 บาท / คน รถจักรยาน 20 บาท / คัน ค่ากางเต็นท์ฟรี ค่าเช่าเต็นท์ 350 บาท เพิ่มราคาออฟชั่นได้ตามต้องการ หมอน , ผ้าห่ม , ผ้าใบปูพื้น ******** เส้นทางจากกรุงเทพก็มีให้เลือกออกได้หลายทาง ระยะทางอยู่ที่ 127-143 กิโลเมตรตามแต่เลือก ส่วนรอบนี้ผมขอเลือกเส้นทางรังสิต-นครนายก เพราะเป็นทางที่ขับขี่แบบชิลๆได้ดีที่สุด เริ่มต้นจากถนนวิภาวดีเลี้ยวเข้ารังสิต ไล่ตั้งแต่คลอง 1 2 3 ไปเรื่อยๆ ทางตรงๆ ไม่งงอะไร วิ่งมาจนถึงแยกโรงเรียนทหาร นับจากนั้นไปอีก 1 ไฟแดง มาถึงแยกบ้านนา เราก็เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งตรงไปอีก หน้าทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจในเรื่องของเสียงท่อไอเสียที่ดังเกินมาตรฐาน ด้วยเหตุที่ว่ามันจะไปรบกวนสัตว์ป่าให้ตกใจ ส่วนรถของเราห่ายห่วง เงียบกริ๊บ (ฮ่าๆๆๆๆๆ) ต่อคิวจ่ายค่าผ่านทางจำนวน .. เรียบร้อยเราก็วิ่งตรงดิ่งเข้ามา ผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ไปราว 20 กิโลเมตร จนมาถึงจุดกางเต็นท์ ที่เขาใหญ่นี่มีจุดกางเต็นท์อยู่ 2 จุด คือ ลำตะคอง กับ ผากล้วยไม้ ระยะทางห่างกัน 3 กิโลเมตร ตรงลำตะคองนั้นจะมีแอ่งน้ำให้ลงเล่นได้ พร้อมกับบรรดาลิงและกวางที่มาอาศัยนอนข้างๆเต็นท์เราเหมือนกับเดินทางร่วมทริปมาด้วยกัน ภายในมีที่กางเต็นท์หลายจุดหลายมุม แต่ถึงจะดูว่าใหญ่ขนาดนี้ ช่วงเทศกาลก็ยังเต็มชนิดที่ว่าแทบเอาเสาเต็นท์ต่อกันหลังต่อหลัง ในส่วนของห้องน้ำก็มีอำนวยความสะดวก โดยจัดแยกระหว่างห้องน้ำและห้องอาบน้ำออกจากกัน และจุดล้างจานก็ไปอยู่ที่ด้านหลัง หลังจากที่เราเลือกจุดนอนได้เรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหาร อันนี้ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าบนนี้เขามีชุดหมูกะทะจำหน่ายเป็นชุดพร้อมเตาและถ่านด้วย ดันมารู้เอาตอนที่จะกลับแล้ว และหากใครที่ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องของอาหารค่ำมาหละก็ ให้รีบไปร้านค้าสหกรณ์ตามจุดให้ไว เพราะว่าเขาไม่ได้เปิดบริการตลอดทั้งคืนนะ !!!! หากใครที่ต้องการมานอนดูดาวที่เขาใหญ่แล้วหละก็ แนะนำให้นอนที่จุดกางเต็นท์ลำตะคอง เพราะว่ามพื้นที่โล่งมากกว่า ส่วนจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้นั้นจะมีต้นไม้ใหญ่เยอะทำให้มองดูดาวไม่ค่อยถนัดนัก ลำตะคองจึงได้รับความนิยมมากกว่า แต่ต้องขอเตือนเพื่อนๆเอาไว้หน่อยเรื่องการวางของไว้นอกเต็นท์โดยเฉพาะอาหารและถุงขยะ เพราะว่าในจังหวะที่เรากำลังนอนบรรดาลิงและกวางจะเข้ามาขุดคุ้ยของเราออกมากระจัดกระจาย เช้าวันใหม่ ไปเหวสุวัต !!! คว้ากุญแจเตรียมรถเริ่มภารกิจ “เที่ยวให้รู้ ดูให้ครบ” ได้ เริ่มต้นกันที่น้ำตก “เหวสุวัต” อยู่สุดทางถนนเขาใหญ่ วิ่งเลยจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ขึ้นไป 5 กิโลเมตร มีที่จอดรถและร้านอาหารบริการอยู่ที่นี่ด้วย เป็นน้ำตกอีกแห่งที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เราจะต้องเดินเท้าลงตามขั้นบันไดไปไม่ไกลนัก และด้านบนก็ยังมีจุดถ่ายรูปเซลฟี่ได้จากมุมสูงด้วย น้ำตกแหวสุวัตเกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25 เมตร และมีแอ่งน้ำทางด้านล่างเหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างมาก แต่ทางอุทยานแห่งชาติได้มีป้ายประกาศว่าห้ามเล่นน้ำไว้เนื่องจากกลัวอันตรายว่าจะมีน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ในฤดูฝนสายน้ำที่ตกลงมาจะเป็นละอองกระจายเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบาย แต่หากมาในฤดูน้ำน้อย จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็กๆ ใต้หน้าผาน้ำตกได้ จากนั้นเราก็คว้ารถบิดตามโค้งย้อนกลับมาผ่านจุดกางเต็นท์ขึ้นไป 14 กิโลเมตรจะเจอกับป้ายบอกทางไปจุดชมวิว ผาตรอมใจและผาเดียวดาย ระยะทางอีก 10 กิโลเมตร จากตรงนี้เป็นทางขึ้นเขาชันมากกกกกกก แถมยังเป็นทางโค้งกลับรถอีก ที่แรกผมก็กังวลอยู่ว่ารถออโตเมติคจะขึ้นไหวหรือเปล่า แต่ว่ารถคันที่ผมเอามามันมีดีเหนือธรรมชาติก็ตรงวาล์ว VVA นี่แหละที่ช่วยให้ทางชันกลายเป็นทางสบายไป พอขึ้นมาถึงนี่คุ้มค่ามากเพราะว่าอากาศบนนี้สุโค้ยอย่าบอกใครเชียว ผาเดียวดาย ไปแล้วไม่โดดเดี่ยว !!!! พอจอดรถได้ ผมเห็นทางลงไปชมวิวผาเดียวดาย คือทีแรกมันดูเหมือนทางสำรวจป่าชายเลน ก็ยังคิดอยู่ว่าจะเดินไปดูดีไหม แต่ว่ามาถึงตรงนี้แล้วก็เลยขอเดินชมหย่อยละกัน กลายเป็นว่าตรงกลางของทางเดินมันพาเรามาจุดชมวิวแนวเขาแสนสวยงาม แถมตรงนี้เองมีหน้าผายื่นออกมาเรียกว่าเป็นส่วนที่ถ่ายรูปได้สวยและหน้าหวาดเสียวที่สุด ดีนะที่ตัดสินใจเดินมาดู ผาตรอมใจ ขึ้นไปแล้วไม่ตรอมตรม !!! ถัดจากผาตรอมใจ เราขี่รถขึ้นทางชันชั้นชันมาอีกนิด ก็ถึงยอดจุดชมวิว “ผาตรอมใจ” โอ้โห บนนี้แตกตางจากจุดอื่นชัดเจน เพราะมีกองอำนวยการ ทั้งร้านกาแฟ ร้านข้าว (แบบเล็กๆ) และมีป้ายจุดชมวิวแสนสวยงามเป็นพร๊อบประกอบ มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาพักชมมากมาย อากาศตรงนี่ก็ปลอดโปร่งโล่งสบายดีด้วย พักกันยาวๆไปเลย นรกแสนสวย น้ำตกช่วยความตื่นตา !!! จากนั้นเราก็ย้อนกลับลงมาทางเดิม เพื่อไปเที่ยวต่อที่ น้ำตกเหวนรก จากตรงนี้เราต้องขี่รถกันไกลถึง 20 กว่า กม. ไล่เลาะเส้นทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติแสนสมบูรณ์ นี่ถ้าใครมาเป็นคู่บอกได้เลยว่าโรแมนติคมาก มาถึงน้ำตกแหวนรก เราจอดรถแล้วต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 800 เมตร ผ่านสะพานข้ามลำธารใหญ่ๆ วิวตรงนี้สวยดี ถ้ายืนรอสักพักจะได้เห็นสัตว์ป่าข้ามน้ำด้วยนะ พอเดินลึกเข้าไปอีกก็จะเป็นทางปูนยาวๆ จนมาถึงไฮไลท์คือบันไดที่ต้องเดินลงไปชมน้ำตก มันเหมือนกับบันไดหนีไฟแคบและชัน ตรงนี้ต้องระวังให้ดีหน่อย พอลงมาได้บอกเลยครับ คุ้มค่ามาก น้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกจากหน้าผาสูงมาก และน้ำที่ตกลงมาก็ไหลแรงมากด้วยชนิดที่เขาว่าถ้ามาช่วงหน้าฝน ระอองน้ำที่ไหลงมามันแรงจนกระเด็นมาถึงตัวเราเลย จากตรงนี้ไม่มีทางให้เดินลงไปเล่นน้ำนะ เราได้แค่มาชมเฉยๆ แต่ก็คุ้มค่าที่ได้เห็นของจริง จบจากการชมน้ำตกเหวนรกเราก็วิ่งออกจากเขาใหญ่ลงมาเพื่อเดินทางกลับได้ทันทีเพราะทางออกอยู่ไม่ไกลแล้ว จากนั้นก็ใช้ถนนมิตรภาพนี่แหละกลับสู้กรุงเทพบ้านเรา นับว่าเป็นครั้งแรกของผมกับการมาเที่ยวเขาใหญ่แบบครบๆอย่างนี้ ขาดก็เพียงการเดินป่า ถ้าใครมีเวลาก็ลองมากางเต็นท์นอนสักสองสามวันดูคิดว่าน่าจะเที่ยวได้ครบทุกจุดของเขาใหญ่เลยครับ แต่ถ้าใครยังไม่หนำใจจะแวะไปเที่ยวต่อเขายายเที่ยงชมกังหันลมก็ได้นะครับ
คำนวณค่างวด
เปรียบเทียบ
ค้นหาผู้จำหน่าย
สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์