Blog-7-Tents-Yamaha-EP05 800x420
Reviews

ปลายฝนต้นหนาว ดูดาวนอนอุ่น 7 จุดกางเต็นท์ ไม่ไกลเมืองกรุง !!! EP5





ลมเย็นๆพัดผ่านร่างกาย ในขณะที่สายตาผมกำลังมองภาพอันสวยงามของพระอาทิตย์ที่กำลังเปลี่ยนแสงเป็นสีทองกระทบแนวสันเขาน้อยใหญ่เรียงรายหน้ากระดาน จากใกล้สุดไปจนลับตา ไอหมอกบางๆทำให้แนวเขาลูกสุดท้ายที่เห็นเป็นสีขาวขุ่น ท้องฟ้าสีครามกลับเปลี่ยนเป็นสีส้ม ความมืดเริ่มปกคลุมรอบตัวผม กลุ่มดาวเริ่มเข้าประจำตำแหน่งทำหน้าที่สร้างความสวยงามให้กับโลกของเรา มันเป็นการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและสงบจนบอกไม่ถูก รู้สึกตัวอีกที่อากาศก็เย็นลงจนเหลือ 18 องศาแล้ว ผมจึงขยับตัวออกจากจุดชมวิว ป้ายผาเก็บตะวัน !!!

ค่าน้ำมันไปกลับ 320 บาท ค่าเข้าอุทยาน 30 บาท ค่ากางเต็นท์นำมาเอง 30 บาท ค่าเช่าเต็นท์ 350 บาท







จากกรุงเทพมหานคร วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปกางเต็นท์นอนในบรรยากาศแสนสงบและสวยงามกันที่จังหวัดปราจีนบุรี ณ ผาเก็บตะวัน จุดชมวิวสุดมหรรศจรรย์ เพราะทางขึ้นของมันคือจังหวัดนคราชสีมา อำเภอวังน้ำเขียว ระยะทาง 219 กิโลเมตร เราออกทางหลวงหมายเลข 305 รังสิต - นครนายก ระยะทาง 72.6 กม. เลี้ยวซ้ายไฟแดงแรกหลังจากเลยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เข้ามาอีกตามถนนหมายเลข 3049 มาจนถึงตัวเมืองนครนายก เสร็จแล้วตามป้ายสระแก้วไปทางหลวงหมายเลข 33 ตรงยาวไปอีก 21 กม. เอาง่ายๆเกาะป้าย กบินทร์บุรีไป จนถึงวงเวียนปราจีนบุรี จากนั้นก็ให้ตามป้าย สระแก้ว ไปอีก 49 กม. จนถึง 4 แยกกบินทร์บุรี จาก 4 แยก กบินท์บุรี 
ใช้ ถนนหมายเลข 304 มุ่งหน้าสู่ อำเภอวังน้ำเขียว ประมาณ 59.6 กิโลเมตร จากนั้น กลับรถ จากนั้น ขับย้อนกลับมา ประมาณ 600 เมตร จากนั้น เลี้ยวซ้าย ขับตรงไป ประมาณ 9.6 กิโลเมตร  เลี้ยวขวาขับตรงไป ประมาณ 3.5 กิโลเมตร ก็จะถึง ผาเก็บตะวัน


















สำหรับรถ YAMAHA EXCITER 150 อยากบอกว่ามันเป็นรถครอบครัวที่มันส์สุดโต่งจริงๆ ด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต Mono โช้คอัพ เวลาเจอโค้งนี่อัดคันเร่งเข้าไปได้เลย และพอตัดภาพกลับมาในเมืองก็เปลี่ยนการขี่มาเป็นนิ่มๆชิลๆได้ดีจริงๆ








































ถนนเส้นนี้จะเรียกว่าเป็นเส้นทางสายไบค์เกอร์ก็ว่าได้ ด้วยร่มไม้ใบบังกับภูมิอากาศที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ทำให้อากาศแถวนี้ไม่ค่อยร้อนนัก นักท่องเที่ยวสองล้อเราจึงชอบที่จะใช้เส้นทางนครนายกเป็นตัวเปิดทริปสู่ภาคอีสาน ทางตรงยาว 4 เลนทำให้เราสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยพอสมควร แต่ก็อย่าชะล่าใจเพราะมันมีทางยูเทิร์นเยอะพอสมควรเหมือนกัน  และที่สำคัญควรเติมน้ำมันมาให้พร้อมเพราะระยะห่างของปั๊มค่อนข้างใกลพอสมควร สำหรับผมกับเจ้า Yamaha Exciter 150 จัดมาเรียบร้อย     4 ลิตรเต็มถัง วิ่งได้ยาวถึงนครนายกยังเหลือ

ทางเข้าของผาเก็บตะวันจะป้าบอกชัดเจน พอเลี้ยวเข้ามาก็จะเจอะกับร้านค้ามากมาย สามารถจัดหาเสบียงสำหรับอาหารค่ำได้หายห่วง จากนั้นเราก็วิ่งตรงเข้าไปอีก 12 กม. เป็นทางตรงขึ้นเขาสลับกับโค้งน้อยใหญ่ เรามากับรถ 150 cc หายห่วงเรื่องพละกำลัง และช่วงล่างแบบสปอร์ตของ Yamaha Exciter ก็ยิ่งทำให้เส้นทางสนุกยิ่งกว่าเดิม 



































มาถึงหน้าด่านทางเข้า เขายังไม่เก็บตังค์ในตอนนี้สำหรับผู้ที่มากางเต็นท์ เลยขึ้นมาจากประตูทางเข้า 500 เมตรก็จะถึงจุดแรกคือจุดชมวิวผาเก็บตะวันก่อน ตรงนี้มีทั้งป้ายสวยๆและก้อนหินใหญ่เอาไว้ให้ถ่ายรูปกัน ริมขอบเขาจะเป็นระเบียงยาวสำหรับเอาไว้ชมวิวพระอาทิตย์ตก  ส่วนจุดกางเต็นท์จะต้องเลยขึ้นไปอีกหน่อย 

พอขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่งยาวผมขอแบ่งโซนออกเป็น 2 โซนคือซ้ายกับขวา  เริ่มจากด้านขวาจะสามารถนำรถของเราเข้ามาจอดใกล้ๆกับเต็นท์ได้เลย แต่วิวตรงนี้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เพราะมีต้นไม้บดบังทัศณียภาพอยู่ ส่วนฝั่งด้านซ้ายมันถูกเชื่อมติดกับตรงจุดชมวิวด้านล่าง ตรงนี้สามรถนั่งนอนชมวิวได้อย่างถนัดตา และแน่นอนผมเลือกฝั่งซ้าย เพราะนอกจากจะชมวิวได้ดีที่สุดแล้ว ห้องน้ำและห้องอาบน้ำเองยังอยู่ตรงนี้ด้วย  















































สำหรับผู้ที่ไม่ได้นำเต็นท์มาก็สามรถมาเช่าของอุทยานได้ในราคามาตรฐาน 350 บาท มีมาพร้อมทั้งชุดหมอนผ้าห่ม ก่อนที่แสงจะหมดผมรับจับจองหาที่กางเต็นท์ก่อนใคร ประเด็นมันอยู่ตรงที่พื้นตรงนี้มันเป็นเนิน จึงทำให้การหาที่เรียบเพื่อกางเต็นท์มันจะต้องขยับมาอยู่ช่วงตรงกลาง แต่ก็อีกนั่นแหละ มันอยู่ห่างจากวิวทิวทัศไปหน่อย ผมเลยลองเดินความหาจุดที่ราบเรียบและใกล้กับวิวที่สุดจนไปเจอกับจุดหนึ่งใต้ต้นไม่และติดกับหน้าผาพอดี เอาตรงนี้หละ !!! 

ผมเอาชุดเครื่องครัว โต๊ะ เก้าอี้ปิคนิค เพื่อเตรียมตัวรอทำหาร แต่ก่อนนั้นขอไปเดินถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกก่อนดีกว่า ตรงกลางจุดกางเต็นท์จะมีก้อนหินเขียนชื่อผาเก็บตะวันเอาไว้ เป็นจุดถ่ายภาพของโซนกางเต็นท์  พอตกดึกลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยจนถึงขั้นที่เราต้องเอาผ้าใบมากางเพื่อกันลม เพราะมันมาพร้อมกับความหนาวเย็นอีกด้วย จากนั้นก็รีบไปอาบน้ำซะก่อนที่ร่างกายจะบอกว่า “ถ้าใจเราสะอาด น้ำไม่ต้องอาบก็ได้” !!!  แล้วจึงรีบกลับมาทำอาหารค่ำกัน 















































พระอาทิตย์ขึ้นด้านหลัง !!!

ก็แน่นอนหละเรามานอนกันที่ผาเก็บตะวัน ฝั่งที่เราอยู่มันคือจุดที่พระอาทิตย์ตก หมายความว่าเราจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแน่นอน แต่เราก็ยังรีบตื่นแต่เช้ามาเพื่อรอลุ้นว่าจะได้ดูทะเลหมอกหรือไม่ ปรากฎว่าในตอนที่มานี้ความหนาแน่นของหมอกยังไม่เยอะมาก จึงได้เห็นเพียงบรรยากาศยามเช้าสวยๆเท่านั้น แต่อากาศก็ยังคงหนาวเย็นอยู่ดี ผมเลยหยิบเอาขวดกาแฟกับแก้วใบโปรดมาเริ่มต้มน้ำเพื่อชงดื่มให้เข้ากับบรรยากาศ ที่จุดชมวิวด้านล่างมีร้านค้าสหกรณ์สามรถมาซื้อของกินได้ตรงนี้
อ้อลืมบอกไปถ้าใครค้นหาแผนที่คำว่า อุทยานแห่งชาติทับลาน มันจะไปโผล่อีกที่หนึ่งซึ่งอยู่ห่างกันราว 40 กม. นะครับ ต้องค้นหาคำว่า “ผาเก็บตะวัน”นะ !!!
















หลังจากเก็บของเรียบร้อยหากใครยังมีเวลาจะลงไปสนุกต่อที่เขาใหญ่ก็ได้นะ หรือจะย้อนกลับมาที่เขื่อนขุนด่านก็ดี จากตรงนี้ยังมีที่ให้ไปแวะท่องเที่ยวอีกมากมายนะครับ ลองจัดตารางเวลาให้ดี ส่วนผมขอออกไปสนุกกับเส้นทางโค้งมันส์เส้นปราจีนบุรีกลับ กทม. ต่อเพราะเจ้ารถ Yamaha Exciter 150 นี้มีเครื่องยนต์กับช่วงล่างที่สนุกจนไม่อาจหยุดขี่แค่ 200 กม. ไปก่อนหละ ฟิ้ววววววววว.....