หากมองจากราคาผ่านครับเพิ่มไม่กี่พันบาท แต่ได้เทคโนโลยีใหม่และฟีเจอร์ครบขนาดนี้คุ้มมากครับ
สำหรับการทดสอบยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ครั้งนี้ เราได้รุ่น Grand Filano Hybrid มาทดสอบความเป็นจักรยานยนต์ไฮบริดกันก่อน ซึ่งรุ่นนี้จะไม่มีระบบเบรก ABS และระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Key System)
ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) เป็นรถออโตเมติกแฟชั่นแบบพรีเมียม ดังนั้นตัวรถยังคงดีไซน์ที่ดูสวยและหรูหรา แต่มีสไตล์ขึ้น เพราะบอดี้ใหม่ไม่มีนอตบริเวณรอยต่อ และใช้พลาสติก ABS ทั้งคัน แฟริ่งดูเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งรถ การตกแต่งล้อมกรอบด้วยโครเมียมทั้งชุดไฟหน้า ชุดไฟเดย์ไลท์ ชุดเรือนไมล์ กรอบชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ดูลงตัวขึ้น เบาะใหญ่ ซ้อนสบายขึ้น
การดีไซน์ที่สร้างความสะดวกสบายจนเป็นเอกลักษณ์ คือถังเก็บน้ำมันอยู่ใต้ที่พักเท้า ช่องเติมน้ำมันอยู่ด้านซ้ายของคอนโซลรถ ทำให้ไม่ต้องลงจากรถเวลาจะเติมน้ำมัน
ถึงเวลาขี่จริง เราได้ลองปุ่มสตาร์ทใหม่แบบ One push ที่สตาร์ทติดง่ายแบบรถยนต์เลยครับ ไม่ต้องกดแช่ เสียงเงียบขึ้นเพราะไม่มีมอเตอร์มากวน ซึ่งจากการสอบถามพบว่าการใช้งานของปุ่ม One push นั้นอายุการใช้งานสามารถใช้ได้กันแบบยาวๆ ไปเลยครับ
มองไปที่ชุดเรือนไมล์ พบความแตกต่าง นอกจากเข็มไมล์วัดความเร็วแบบปรกติแล้วยังมีจอดิจิทัลเป็นจอสีแบบ TFT ซึ่งเป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยเป็นนาฬิกา ตั้งทริประยะทาง ดูค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองน้ำมัน AVG. และหน้าแสดงผลการทำงานของระบบไฮบริด และหน้าจอ TFT มีกิมมิก กราฟิก Welcome เชื้อเชิญต้อนรับ และหากดับเครื่องจะขึ้น Good bye See you Soon ให้ความรู้สึกเป็นมากกว่าจักรยานยนต์ นี่แหละเพื่อนที่จะไปด้วยกัน มากไปกว่านั้น ตอนนี้ช่องเสียบกุญแจมีไฟส่องสว่างให้ด้วย แม้ในที่มืดก็เสียบกุญแจไม่มีพลาด
จากการทดสอบขับขี่ ฟีลลิ่งการขับรู้สึกยังคงความคล่องตัว ช่วงล่างนุ่มนวล ขึ้นกว่าเดิม ส่วนการทำงานของเครื่องยนต์ไฮบริด หากเปิดคันเร่งตอนออกตัว รู้สึกได้ถึงความพุ่ง ออกตัวได้ดีขึ้น นอกจากนั้นแอบเพลินกับหน้าจอที่เห็นการทำงานของระบบต่างๆ ส่วนตัวชอบกับแสดงผลแบบนี้เพราะเป็นจอสี ทำให้ดูง่ายและฟังก์ชั่นครบ
ขอชมระบบ STOP & START SYSTEM (SSS) ในยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ที่ทำงานได้ดีมาก ในการจราจรที่ติดขัด เครื่องยนต์จะดับอัตโนมัติเมื่อรถจอดหยุดนิ่งเกิน 5 วินาที รถดับเพียงบิดคันเร่งเบา ๆ รถสตาร์ทกลับมาทันใจพร้อมออกตัว
แล้วที่เก็บของใต้เบาะล่ะ ? เราได้เปิดสำรวจแล้วพบว่าใต้เบาะมีความจุเท่าเดิมคือ 27 ลิตร แม้ประจุแบตเตอรี่มากขึ้นแต่ขนาดไม่ได้กวนพื้นที่เก็บของใต้เบาะแม้แต่น้อย ยังสามารถใส่หมวกกันน็อกเต็มใบและครึ่งใบอย่างละหนึ่งเช่นเดิม พร้อมไฟ LED ส่องสว่างใต้เบาะ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ในยุคโซเชียลคือช่องชาร์จไฟสำรอง (Mobile charger) ชาร์จแบตเตอรี่มือถือได้ สามารถใช้งานได้ดี มีที่ชาร์จอุ่นใจขึ้นเยอะ แล้วก็มีช่องใส่ของด้านหน้าด้วย สะดวกดี