yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_cover_800x420
Lifestyle

เที่ยวเมืองนอกทิพย์ไปกับ Yamaha Grand Filano Hybrid

 
     อดเที่ยวต่างประเทศ ทำยังไงให้หายคิดถึง เปลี่ยนวันหยุดสบาย ๆ ให้กลายเป็นทัวร์ยุโรปทิพย์แบบจัดเต็ม กับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 ขี่รถเที่ยวตะลุยแชะภาพ  5 จุดเช็กอินฮิต ๆ ในกรุงเทพมหานคร ที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนอยู่ต่างประเทศ ฟิน จบ ครบในวันเดียว

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_003

รถของเราในวันนี้ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) สีน้ำตาลใหม่ คลาสสิกสุด ๆ

 
     ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาวิถีชีวิตของใครหลายคนต้องเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับสายท่องเที่ยว หรือผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางถ่ายภาพตามที่ต่าง ๆ แพลนที่วางเอาไว้แทบจะต้องพับเก็บใส่กระเป๋า ซึ่งในประเทศว่ายากแล้ว ต่างประเทศยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้ตอนนี้สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น ถึงยังไม่เหมือนเดิมแต่ก็เพียงพอให้เราเดินทางไปเที่ยวได้บ้าง ว่าแล้วเราจึงได้จัดทริปแก้เบื่อเที่ยวต่างประเทศทิพย์ใน 1 วัน กับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 พาหนะคู่ใจที่จะพาเราทัวร์ 5 จุดเช็กอินฟีลต่างประเทศในกรุงเทพฯ กันแบบชิล ๆ พร้อมแล้วก็เปิดแม็ป ปักหมุด แล้วไปกันเลย

     สำหรับ 5 สถานที่ฟีลเหมือนเมืองนอกที่เราจะไปในทริปวันนี้ ได้แก่ London Street ถ.พัฒนาการ คอมมิวนิตี้ ฟู้ดมอลล์ ที่สร้างจำลองจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ และหอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นแวะถ่ายภาพที่สะพานแสนสำราญ สะพานธรรมดา ๆ แถวสุขุมวิท 77 ที่โด่งดังจากโซเชียลมีเดีย เพราะมีบรรยากาศไม่ธรรมดาถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย ก่อนแวะจิบกาแฟที่ร้าน สตาร์บัคส์ สุขุมวิท 24 ร้านกาแฟฟีลยุโรป หยิบกล้องเล็งมุมดี ๆ ก็ดูไม่ออกว่านี่คือใจกลางกรุงเทพฯ เสร็จแล้วขยับเข้าในเมืองกันอีกนิดกับท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล ที่ตั้งของอาคาร East Asiatic สถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูเรอเนสซองส์ที่ยังคงความสมบูรณ์ถึงปัจจุบัน และปิดท้ายกันที่ The Mustang Blu โรงแรมที่นำอาคารเก่าสไตล์โคโลเนียลมาดัดแปลงเป็นที่พัก จุดเด่นอยู่ที่ตัวอาคารด้านนอกที่ได้ฟีลแบบยุโรปสุด ๆ

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_004

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_005


yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_006 

yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_007 
 
     ดีไซน์ตัวรถดูโมเดิร์น ทันสมัย ไฟหน้าแบบ Full LED ที่ให้ความสว่างมากขึ้นทั้งไฟสูงและไฟต่ำ พร้อมไฟหรี่แบบ LED ไฟท้ายแบบ LED Taillight ที่ออกแบบให้สอดรับเข้ากับบอดี้ของตัวรถ เบาะที่นั่งหนานุ่มขนาดใหญ่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้ซ้อน หน้าจอมาตรวัดสี Color TFT LCD ที่แสดงผลครบทุกฟังก์ชันทั้งเวลา ระยะทาง และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_008

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_009

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_010

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_011

 
     รู้จักกับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 กันพอสมควรก็ถึงเวลาออกเดินทางกันแล้ว โดยจุดหมายแรกของเราก็คือ London Street คอมมิวนิตี้ ฟู้ดมอลล์ ถ.พัฒนาการ เปิดแม็ปเช็กเส้นทาง จากจุดเริ่มต้นที่บ้านพักย่านประชาชื่นจนถึงที่หมายประมาณ 21 กิโลเมตร โดยเราจะใช้เส้นทาง ถ.รัชดาภิเษก วิ่งตรงยาว ๆ เลี้ยวซ้ายที่แยก ถ.เพชรบุรี ต่อเนื่อง ถ.พัฒนาการ และจุดหมายของเราจะอยู่ทางซ้ายมือ

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_013

ไม่ต้องนั่งเครื่องบิน ก็มาถึงลอนดอนได้

 
     กว่าจะมาถึง ต้องเจอทั้งการจราจรที่หนาแน่น หรือต้องเร่งในจังหวะสำคัญ แต่ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเครื่องยนต์ Blue Core 125 ซี.ซี. 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 2 วาล์ว ที่ขี่ได้อย่างมั่นใจ
 
     เมื่อต้องติดไฟแดงก็ประหยัดหายห่วงด้วยระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ Stop & Start System ถึงรถหยุดนิ่งก็ออกตัวได้อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล ด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริด ซึ่งจุดหมายแรกเราใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 35 นาที ก็จะเจอกับอาคารสีเหลืองอ่อนขนาดใหญ่ที่สร้างจำลองมาจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ และหอนาฬิกาบิ๊กเบน แหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อดังกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาตั้งตระหง่านอยู่ในกรุงเทพมหานคร แม้จะเป็นการจำลองมา แต่การออกแบบ รายละเอียดต่าง ๆ ถือว่าเหมือนเป๊ะ ๆ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองผู้ดีจริง ๆ ภายในมีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่ แต่สำหรับจุดเด่นไม่ควรพลาดนั่นก็คือด้านนอกตัวอาคารมุมมหาชนที่ใครมาก็ต้องเก็บภาพกัน ทุกครั้ง หากเล็งมุมดี ๆ หามุมเจ๋ง ๆ ก็เนียน ๆ ว่าอยู่อังกฤษได้เลย

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_017

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_018

เก็บของได้อย่างจุใจ กับช่องเก็บของ 27 ลิตร

 
     เราใช้เวลากับที่แรกไม่นานนักเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมา และยังมีอีก 4 จุดเช็กอินที่รออยู่ สำหรับที่ต่อไปตามโปรแกรมทัวร์ก็คือ สะพานแสนสำราญ ตั้งอยู่ห่างจาก London Street ประมาณ 9 กิโลเมตร ก่อนออกเดินทางขอเก็บสัมภาระต่าง ๆ ไว้ใต้เบาะก่อนเพราะงานนี้มีเปียกแน่ ด้วยความจุใต้เบาะมากถึง 27 ลิตร สามารถเก็บของกันได้แบบจุก ๆ จะใส่หมวกกันน็อก หรือกระเป๋ากล้องขนาดพอดีก็ทำได้ สำหรับการเดินทางเราจะกลับรถและขับย้อนมาทาง ถ.พัฒนาการ ตามเดิม เลี้ยวซ้ายที่ ถ.สุขุมวิท 71 ขับมาเรื่อย ๆ จนเกือบออก ถ.สุขุมวิท เลี้ยวซ้ายที่ ซ.ปรีดี พนมยงค์ 2 ขับไปจนสุดทางซึ่งเราใช้เวลาจากจุดแรกเพียง 15 นาทีก็ถึง สะพานแสนสำราญ

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_019

สะพานข้ามคลองที่บรรยากาศไม่ธรรมดาจริง ๆ

 
     สำหรับสะพานแห่งนี้โด่งดังมาจากโซเชียลมีเดีย ตั้งอยู่ในฮาบิโตะ มอลล์ คอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่สุดชิค และด้วยความที่เป็นพื้นที่โครงการของเอกชนจึงต้องมีการเก็บค่าที่จอดรถหรือค่าผ่านทาง เพราะอีกฟากของสะพานสามารถทะลุออก ถ.อ่อนนุช ได้นั่นเอง ที่นี่ถือเป็นสะพานข้ามคลองไม่เหมือนจุดอื่น ๆ ด้วยการออกแบบที่มีความโมเดิร์น โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยราวเหล็ก และประดับเสาไฟสีดำตลอดตัวสะพาน เมื่อรวมกับบรรยากาศตึกสูงบริเวณรอบ ๆ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ต่างประเทศจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น จนเป็นกระแสโด่งดังให้ใคร ๆ ต้องมาตามรอยถ่ายรูป

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_024

 yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_025

 
     หลังจากชื่นชมบรรยากาศที่ สะพานแสนสำราญ กันอย่างหนำใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อยังจุดหมายต่อไป สตาร์บัคส์ สุขุมวิท 24 โดยเราออกมาที่ทางลัด ถ.อ่อนนุช เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถ.สุขุมวิท ระหว่างทางมีสายฝนโปรยปรายลงมาต้อนรับกันชุ่มฉ่ำพอสมควร ถนนค่อนข้างเปียกและมีแอ่งน้ำอยู่เป็นระยะ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 ที่มีช่วงล่างนุ่มนวล ล้อขนาด 12 นิ้ว ยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี และอุ่นใจในทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วยระบบเบรก ABS ที่หยุดรถได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ก็เดินทางมาถึงที่หมาย

 
yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_026

 
     หากพูดถึง สตาร์บัคส์ สุขุมวิท 24 ร้านกาแฟชื่อดังหลายคนน่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าใครไม่รู้อาจจะสงสัยว่าทำไมต้องไปที่นี่ เพราะสตาร์บัคส์สาขาไหนก็ได้ถ้าอยากจิบกาแฟสักแก้ว บอกเลยว่า สตาร์บัคส์ สุขุมวิท 24 หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า สตาร์บัคส์ Camp Davis นั้นไม่เหมือนที่อื่น ๆ อย่างแน่นอน เพราะตัวร้านมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ด้านล่างของโรงแรม The Davis ตึกสูงสไตล์อังกฤษกลางสี่แยก ซ.สุขุมวิท 24 บรรยากาศภายนอกร้านตกแต่งด้วยเสาไฟ รูปปั้น และตู้โทรศัพท์แบบยุโรปซึ่งถือเป็นไฮไลต์เด่น โดยวันที่เราเดินทางไปคนค่อนข้างเยอะ มุมถ่ายรูปต้องหมุนเวียนสลับกัน เลยขอปลีกตัวไปจิบกาแฟนั่งพักเหนื่อยชมวิวไปพลาง ๆ พอได้จังหวะคนน้อยก็ไม่รอช้ารีบคว้ากล้องตัวเก่งเก็บภาพให้ครบทุกชอต ไม่ว่าจะมุมไหนก็ได้รูปสวยเหมือนอยู่ในยุโรปจริง ๆ

     ดื่มด่ำบรรยากาศจนหายเหนื่อยก็ได้เวลาเดินทางต่อไปที่ ท่าเรือโอเรียนเต็ล ถ.เจริญกรุง ซึ่งการจราจรเส้นทางหลักในช่วงนี้เริ่มหนาแน่นเนื่องจากฝนที่ตกมาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้นเราจึงเลือกใช้ทางลัดผ่าน ถ.พละพงศ์พานิช เพื่อเชื่อมต่อไปยัง ถ.รัชดาภิเษก เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถ.พระราม 4 ขับตรงไปเรื่อย ๆ เลี้ยวซ้ายที่แยกอังรีดูนังต์ เข้าสู่ ถ.สุรวงศ์ ขับไปจนสุดจะเจอกับ ถ.เจริญกรุง ให้มองหา ซ.เจริญกรุง 40 ก็จะถึงจุดหมายของเราแล้ว สำหรับที่นี่ถือเป็นตึกแถวสไตล์ โคโลเนียล อาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้เกือบ 100% น่าเสียดายตรงวันที่เราไปด้านในมีการปิดปรับปรุงทำได้เพียงเดินชมความงดงามแค่เพียงด้านนอกเท่านั้น แต่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะดื่มด่ำบรรยากาศความเป็นเมืองเก่าในยุโรป สัมผัสกลิ่นอายความคลาสสิกที่มีมาแต่อดีต แม้จะได้เชยชมแค่เพียงด้านนอกแต่มุมถ่ายรูปก็มีให้เราได้กดชัตเตอร์กันไปหลายภาพเลย


yamaha_gfh_5-bangkok-check-in-europe_031
 
ดูเผิน ๆ นึกว่าอยู่ต่างประเทศ

 
     ถ่ายรูปไปสักพัก ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอีกครั้งบวกกับเวลาล่วงเลยมาจนเย็นแล้ว เราจึงรีบออกเดินทางต่อไปยังสถานที่สุดท้ายของทัวร์ยุโรปทิพย์ ณ โรงแรม The Mustang Blu ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือโอเรียนเต็ลประมาณ 2.8 กิโลเมตร โดยเราจะใช้เส้นทางออกจาก ซ.เจริญกรุง 40 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.เจริญกรุง ขับตรงมาเรื่อย ๆ ข้ามสะพานพิทยเสถียร ผ่านตลาดน้อย เลี้ยวขวาไปยัง ถ.ข้าวหลาม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.พระราม 4 เจอสี่แยกเลี้ยวขวาที่ ถ.มิตรพันธ์ เข้า ซ.พันธ์จิตต์ และเลี้ยวขวาอีกครั้งที่ ถ.ไมตรีจิตต์ ก็จะถึงจุดหมาย


     The Mustang Blu โรงแรมที่นำอาคารเก่าสไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 100 ปี มาดัดแปลงเป็นที่พัก เดิมทีตึกเก่าหลังนี้เคยเป็นทั้งโรงพยาบาลและธนาคาร ก่อนจะได้รับการปรับปรุงเป็นโรงแรมในภายหลัง เราเดินทางไปถึงในช่วงเย็นพอดีแสงเกือบจะหมด แต่ก็ยังเพียงพอที่จะเก็บภาพบรรยากาศความงดงามเก่าแก่ของตัวโรงแรม บวกกับแสงในช่วงพลบค่ำทำให้ตัวอาคารดูมีเสน่ห์และมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก เดินเก็บภาพโพสท่าเท่ ๆ จนแสงหมดก็เป็นอันจบทัวร์ยุโรปแบบทิพย์ของเราในวันนี้
 
     สำหรับสถานที่ที่ไปในวันนี้ แม้จะไม่ใช่ต่างประเทศจริง ๆ แต่ก็พอทำให้เราหายคิดถึงการเดินทางไปเมืองนอกได้ไม่มากก็น้อย หลังจากที่ต้องอยู่บ้านหรือ Work Form Home กันมาอย่างยาวนาน ใครที่สนใจอยากตามรอยที่เที่ยวยุโรปในกรุงเทพฯ บ้าง ก็จัดทริปไปลุยกันได้เลย ซึ่งตลอดการเดินทางในทริปนี้เรียกได้ว่าสบายและชิลสุด ๆ แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ Yamaha Grand Filano Hybrid 2021 ที่ขับขี่ง่าย คล่องตัว มีอัตราเร่งดีเยี่ยม แถมมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย ถือว่าเปลี่ยนวันหยุดธรรมดา ๆ กลายเป็นทริปแสนพิเศษที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตที่แตกต่าง อย่างมีคลาสได้เหมือนกัน

   หากกำลังมองหารถคันคู่ใจสักคัน สามารถเช็กรายละเอียด ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด (Yamaha Grand Filano Hybrid) ปี 2021 ได้ที่นี่ หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ