แจก 7 พิกัดมรดกโลกของไทย ที่ควรค่าแก่การขี่มอเตอร์ไซค์ไปเช็กอินสักครั้ง

1.นครประวัติศาสตร์ อยุธยา

     มรดกโลกแห่งแรกที่เราอยากแนะนำให้เหล่าไบเกอร์รู้จักคือ นครประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Historic City of Ayutthaya) เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของชาวสยามต่อจากสุโขทัยที่มีเนื้อที่มากถึง 1,810 ไร่ เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรอยุธยาในสมัยโบราณ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ในชื่อนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร ในปี พ.ศ. 2534 

     ปัจจุบันเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทั้งพระปรางค์และอารามขนาดใหญ่ที่แสดงถึงความงดงามและความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ภายในยังมีโบราณสถานเท่าที่สำรวจพบแล้วกว่า 425 แห่งด้วยกัน ได้แก่ พระราชวังโบราณหรือพระราชวังหลวง, วัดพระศรีสรรเพชญ์ อดีตวัดหลวงประจำพระราชวังสมัยอยุธยาที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นจากเจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่ 3 องค์เรียงต่อกัน ซึ่งภายในของเจดีย์องค์แรกยังเป็นที่บรรจุอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถด้วย, วิหารพระมงคลบพิตร วัดที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงอยุธยาตอนต้นที่ถูกทิ้งร้างไปเป็นเวลานาน แต่ในช่วงสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ตัววิหารขึ้นมาใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในปัจจุบันที่ใครไปก็ต้องเช็กอิน! นอกจากสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามแล้ว ภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ที่มีองค์เดียวในประเทศไทย ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระไชยราชา ในปีพ.ศ. 2081 รวมถึงวัดราชบูรณะด้วย 

     นอกจากนี้ภายในนครประวัติศาสตร์ อยุธยา ยังมีโบราณสถานสำคัญอื่นๆ ที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน หนึ่งในนั้นคือวัดมหาธาตุ ที่มีเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ในต้นไม้ ไม่สามารถหาสาเหตุที่มาที่ไปได้ เป็นต้น อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญนอกจากการเดินเที่ยวชมโบราณสถานต่างๆ ที่อยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาแล้ว ก็คือ ปางช้าง ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นขี่บนหลังช้างเที่ยวชมเกาะเก่าและสถานที่โบราณต่างๆ แห่งนี้ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที เท่านั้น

     สำหรับไบเกอร์ที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยวศึกษาประวัติศาสตร์และสัมผัสกับวัฒนธรรมของคนยุคก่อนจากกรุงเทพมหานคร สามารถใช้ถนนหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ เข้าแยกทางหลวงหมายเลข 32 แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหมายเลข 309 เพื่อเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 - 18.00 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท

2.เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร

     เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ และพระพุทธรูปปางลีลา เป็นหนึ่งในไฮไลท์ความงดงามอลังการของสถาปัตยกรรม มีคุณค่าทางศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร เมืองหลวงแห่งแรกของของชาวสยามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 1 ใน 3 แหล่งมรดกโลกแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 74,045 ไร่ ในเขตอุทยานแห่งชาติถึง 3 แห่ง ได้แก่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร 

     ภายในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสุโขทัยมีสถานที่สำคัญมากมายให้ได้ชมทั้งความงดงาม และประวัติศาสตร์ความเป็นมา ทั้งพระราชวัง โบราณสถาน ศาสนสถาน โดยมีคูเมือง ประตูเมืองและกำแพงเมืองล้อมรอบอยู่ ซึ่งโบราณสถานที่น่าสนใจคือ วัดชนะสงคราม วัดมหาธาตุ วัดช้างรอบ วัดศรีชุมและพระราชวังในสมัยสุโขทัย เป็นต้น

     ไบเกอร์คนไหนสนใจปักหมุดขี่มอเตอร์ไซค์ไปชมความงดงามที่กรุ่นด้วยประวัติศาสตร์ของเมืองสุโขทัย สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์จากศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ไปตามทางหลวงหมายเลข 12 สายสุโขทัย - ตาก ทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อมายังเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ และอาทิตย์ เวลา 06.30 - 19.30 น. วันเสาร์ 06.30 - 21.00 น. (มีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน) 

คนไทยเสียค่าเข้าชม 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท

3.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง

     ผืนป่าบริสุทธิ์ของคนไทยที่ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของไทย ในวันที่ 9 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2534 โดยมีพื้นที่ครอบคลุมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงทำให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน ด้วยสภาพป่าที่มีความหลากหลายถึง 5 ใน 7 ชนิด ที่พบได้ในเขตร้อนชื้น ทั้งป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ฯลฯ พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์จึงมีความหลากหลายตามพื้นที่ ซึ่งบางชนิดบอกเลยว่าเป็นสัตว์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์และหาดูได้ยาก เช่น เสือดาว เลียงผา นกยูงไทย หมาใน และนกสายพันธุ์ต่างๆ 

     นอกจากนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยวสายกรีนด้วย ทั้งการเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ส่องสัตว์ ชมอนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร 

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00 - 16.30 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)

ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม 20 บาท เด็ก 10 บาท

4.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง

     แหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยในจังหวัดอุดรธานี ที่ถูกค้นพบว่าเป็นที่อยู่อาศัยและที่ฝังศพของคนในยุคโลหะ หรือเมื่อราวๆ 5,000 ปีก่อน จึงทำให้ทางยูเนสโกจดทะเบียนบ้านเชียงให้เป็นมรดกโลกของไทยในเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2535 โดยจัดเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม และอีกหนึ่งความพิเศษของบ้านเชียงคือการค้นพบเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมากในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกได้ถึงความมีอยู่และการตั้งถิ่นฐานของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

     ภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ถึง 3 อาคารด้วยกัน คือ อาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, อาคารกัลยาณิวัฒนา, อาคารนิทรรศการไทพวน ที่จัดแสดงนิทรรศการและจำลองวิถีชีวิต โบราณวัตถุและวัฒนธรรมบ้านเชียงในอดีต และหลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของไทย มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรที่บอกถึงขั้นตอนการขุดค้นทางโบราณคดี บอกลักษณะของวัตถุที่พบตามชั้นดินให้เข้าชมเพื่อศึกษาเรื่องการขุดค้นทางโบราณวัตถุอย่างใกล้ชิด

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท

5.กลุ่มดงป่าพญาเย็น เขาใหญ่

     ป่าดงพญาเย็นเป็นป่าฝั่งตะวันออกของไทยที่มีพื้นที่รวมราวๆ 6,155 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย 4 อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีก 1 แห่ง ได้แก่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานแห่งชาติทับลาน, อุทยานแห่งชาติปางสีดา, อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ที่ครอบคลุมถึง 6 จังหวัดด้วยกัน คือ นครราชสีมา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้วและบุรีรัมย์ ซึ่งผืนป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากๆ ตั้งแต่ป่าดงดิบเขา ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณและทุ่งหญ้า จึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์กว่า 800 ชนิด 

     ส่วนหนึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 112 ชนิด นก 392 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก รวมกัน 205 ชนิด และเงือก 4 ชนิด ซึ่งมี 9 ชนิด ที่เป็นสัตว์ชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น คือตะพาบหัวกบ หรือกราวเขียว หรือกริดดาว จิ้งจกหินเมืองกาญจน์ ตุ๊กแกเขาหินทราย กิ้งก่าภูวัว จิ้งเหลนด้วงตะวันตก จิ้งเหลนเรียวโคราช งูดินโคราช งูกินทากลายขวั้นและจระเข้น้ำจืด ซึ่งในจำนวนสัตว์ป่าที่พบทั้งหมดมีหลายชนิดที่มีความสำคัญระดับโลก และยังเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น ช้างป่า เสือโคร่งและวัวแดง ด้วยความอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ ยูเนสโกจึงประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม พ.ศ. 2548 โดยเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในลำดับที่ 184 ของโลก

     ไบเกอร์สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวได้จากกรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 365 เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนทางหลวงหมายเลข 304 ซึ่งเป็นถนนหลักที่ตรงเข้าสู่อุทยานแห่งชาติกลุ่มดงป่าพญาเย็น เขาใหญ่ ก่อนที่จะตัดเข้าถนนชนบท เพื่อเข้าสู่พื้นที่กลุ่มดงป่าพญาเย็น เขาใหญ่

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น.

ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม 40 บาท เด็ก 20 บาท

6.กลุ่มป่าแก่งกระจาน

     พื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงอันดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย และยังเป็นแหล่งอาศัยของจระเข้น้ำจืด นี่คือชื่อเสียงของกลุ่มป่าแก่งกระจานที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติด้วยพื้นที่ 4,089 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ในเขตป่าอนุรักษ์ 4 แห่ง ประกอบไปด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี, อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน, อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี 

     นอกจากเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีที่เที่ยวเชิงธรรมชาติให้ได้ชมความสวยงามและพักผ่อนหลายแห่ง ทั้งเขื่อนแก่งกระจาน น้ำตกทอทิพย์ จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง น้ำตกผาน้ำหยด เป็นต้น และยังมีจุดกางเต็นท์ให้ได้ดื่มด่ำอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแคมป์บ้านกร่าง ที่มีไฮไลท์ไม่ควรพลาดอย่างการชมความสวยงามของผีเสื้อกว่า 200 ชนิดอีกด้วย

     สำหรับการเดินทาง ไบเกอร์สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวได้จากกรุงเทพมหานคร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 ) มุ่งหน้าเข้าสู่สมุทรสาคร สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ถึง อ. ท่ายาง แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3449 เพื่อเข้าสู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

วันเวลา เปิด-ปิด : วันอาทิตย์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 18.00 น. วันเสาร์ เวลา 08.00 - 19.00 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม / ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ / ผู้ใหญ่ 300 เด็ก 150 บาท

7.เมืองโบราณศรีเทพ

     มรดกโลกไทยแห่งใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งที่ 10 ของประเทศไทยในปัจจุบัน ที่ถูกจัดตั้งโดยกรมศิลปากรในปี พ.ศ. 2527 และเป็นมรดกโลกไทยแห่งที่ 7 เพราะเป็นแหล่งอารายธรรมและเป็นพื้นที่ที่ปรากฎร่องรอยหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยของคนในอดีตที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นระยะเวลา 800 ปี ซึ่งมีวัฒนธรรมแบบทวารวดีและเขมร ก่อนจะถูกทิ้งร้างราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 19 และถูกแทนที่ด้วยความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของสุโขทัยและอยุธยา ที่เข้ามาพัฒนาถิ่นฐานอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องมาจนถึงในปัจจุบัน 

     ภายในเมืองโบราณศรีเทพประกอบไปด้วยอาคารจัดแสดงโบราณสถาน นิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณคดี เช่น ปรางค์สองพี่น้อง ศาสนสถานศิลปะแบบขอมที่ตั้งอยู่คู่กัน 2 หลัง บนศิลาแลงขนาดใหญ่, โบราณสถานเขาคลังใน โบราณสถานที่มีลักษณะคล้ายกับพีระมิดของอียิปต์ สร้างด้วยศิลาแลงฉาบปูน ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีลวดลายปูนปั้นรูปคนแคระที่มีหัวเป็นคน ลิง สิงห์ ช้างและควายอยู่ในลักษณะค้ำเอาไว้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสถานที่เก็บอาวุธและทรัพย์สมบัติมากมายในอดีต อีกทั้งยังมีสระแก้วสระขวัญ โบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์ ที่ล้วนมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานให้ได้ศึกษา และมีความสวยงามของอดีตให้ได้ชมอีกด้วย

     สำหรับการเดินทาง ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 สายสระบุรี - หล่มสัก ในการเดินทาง เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 102 ให้เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2211 ไปอีก 9 กิโลเมตร ก็จะถึงเมืองโบราณศรีเทพ

วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.

คนไทยเสียค่าเข้าชม 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท (หากนำรถส่วนตัวมาเสียค่าจอดคันละ 50 บาท)