4-ways-to-choose-motorcycle-insurance_Cover
Tip & Tricks

4 วิธีเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ ที่ไบค์เกอร์ต้องรู้

 
     แน่นอนว่าการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ คงเป็นเรื่องที่ไบเกอร์หลายคนยังเกิดคำถามว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำหรือไม่? เนื่องจากมีความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์อยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะว่าการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ควบคู่กับ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ย่อมดีกว่า เพราะประกันรถมอเตอร์ไซค์จะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองหลายอย่าง และยังช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ในทุกการขับขี่ด้วย ทั้งการใช้รถในชีวิตประจำวันหรือออกทริปทางไกล มาดูกันว่าการเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์สักกรมธรรม์ ต้องดูอะไรบ้าง
 
4-ways-to-choose-motorcycle-insurance_1
 

1.ทำความรู้จักประกันรถมอเตอร์ไซค์มีกี่ประเภท

    วิธีเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ข้อแรกที่ควรรู้คือ ประเภทของประกันรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งออกเป็น ประกันชั้น 1, 2+, 3+, 3 ซึ่งแต่ละประเภทก็มีเงื่อนไขและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1

     ความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 มีดังนี้

  • ให้ความคุ้มครองกรณีที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเองและไม่มีคู่กรณี เช่น รถลื่นล้มเอง

  • ให้ความคุ้มครองทั้งคู่กรณีและผู้ทำประกัน

  • ให้ความคุ้มครองกรณีที่รถมอเตอร์ไซค์หาย เกิดไฟไหม้หรือน้ำท่วมรถ

  • รับผิดชอบต่อร่างกายและชีวิต, ทรัพย์สิน รวมถึงค่ารักษาพยาบาล

  • มีค่าเสียหายส่วนแรก (ยอดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน)


ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

     สำหรับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 จะมีความคุ้มครองที่เทียบเท่ากับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 นั่นก็คือ

  • ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก และค่าเสียหายต่อรถมอเตอร์ไซค์ที่มีประกันภัยทั้งคู่

  • ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่สามารถระบุคู่กรณีได้

  • ให้ความคุ้มครอง เมื่อรถมอเตอร์ไซค์หายหรือเกิดไฟไหม้

     ซึ่งข้อดีของประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ ก็คือมีราคาที่ประหยัดกว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 แต่ได้รับความคุ้มครองเทียบเท่าประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+

 

     ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+ จะมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 + ในด้านของราคาและความคุ้มครอง ซึ่งมีจุดที่แตกต่างกันแค่นี้ คือ

  • จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่สามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น

  • ไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถหายและเกิดไฟไหม้


ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3

     ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาถูกที่สุด และมีความคุ้มครองที่แตกต่างจากประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้นอื่นๆ ดังนี้

  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น

  • ไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีที่รถหายและเกิดไฟไหม้

  • ไม่คุ้มครองรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำประกัน


 
4-ways-to-choose-motorcycle-insurance_2
 

2.ดูพฤติกรรมการขับขี่และใช้งานของเราเอง

     หลังจากทำความรู้จักกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทต่างๆ กันไปแล้ว ก็มาถึงการสำรวจพฤติกรรมการขับขี่และใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองในชีวิตประจำวันว่าเป็นอย่างไร เช่น

  • ขับขี่ทุกวัน หมายถึงการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทางไปทำงาน ไปเรียน หรือบริการรับส่งคน เอกสารและส่งอาหาร ที่ต้องเจอสภาพการจราจรที่ติดขัดในทุกวัน หากไบเกอร์คนไหนต้องขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำและใช้งานในลักษณะนี้ คุณเหมาะกับการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เพราะจะได้รับความคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

  • มือใหม่หัดขับ หมายถึงไบเกอร์ที่เพิ่งหัดขี่มอเตอร์ไซค์และยังไม่มีความชำนาญมากนัก หรือผู้ที่ออกรถมอเตอร์ไซค์มาใหม่และอยากให้รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจดูใหม่ เหมาะกับการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 เพราะจะได้รับความคุ้มครองทุกกรณีทั้งอุบัติเหตุและการชนเองโดยที่ไม่มีคู่กรณี

  • ไม่ค่อยได้ขับขี่ หมายถึง ไบเกอร์ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์นานๆ ครั้ง แบบนี้เหมาะกับการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 เนื่องจากเป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาถูก ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุประกันรถมอเตอร์ไซค์จะรับผิดชอบแค่ความเสียหายของคู่กรณีเท่านั้น

  • ขี่รถออกทริปบ่อย หมายถึง ไบเกอร์ที่มีพฤติกรรมในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกเดินทางไกลหรือไปต่างจังหวัดบ่อยๆ แบบนี้เหมาะกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภท 2+ ที่จะได้รับความคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างเดินทาง

**หมายเหตุ : ทั้งนี้การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล และไลฟ์สไตล์การใช้รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงความพร้อมในการจ่ายเบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เท่ากันด้วย
 

3.ประเภทรถมอเตอร์ไซค์ของเรา

     ประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่คุณใช้ขับขี่ในปัจจุบันก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เมื่อต้องเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละประเภท มีความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป เช่น

  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาด 500 ซีซี ขึ้นไปหรือที่เรียกกันว่าบิ๊กไบค์ รถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ควรเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 เพราะจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงในกรณีที่รถเกิดสูญหาย เนื่องจากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาสูงนั่นเอง

  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี รถประเภทนี้สามารถเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ได้ตั้งแต่ชั้น 2+, 3+ และชั้น 3 ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของไบเกอร์ เพราะเบี้ยประกันไม่แพงและได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า

 
4-ways-to-choose-motorcycle-insurance_3
 

4.ดูเงื่อนไขและความคุ้มค่าของประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละบริษัท

     อย่างที่ทราบกันดีว่า บริษัทประกันภัยในปัจจุบันมีแผนประกันรถมอเตอร์ไซค์ออกมาให้เลือกมากมายเพื่อรองรับความต้องการของชาวไบเกอร์ ซึ่งแต่ละที่ก็มีเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อยกเว้นต่างๆ ดังนั้นก่อนที่จะเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ควรนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบเบื้องต้น เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าของประกันรถมอเตอร์ไซค์แต่ละเจ้า เช่น

  • ค่าเสียหายส่วนแรก คือค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยก่อนที่จะทำการเคลม ในกรณีที่ผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุและเป็นฝ่ายผิด แต่หากเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนี้

  • ความคุ้มครอง คือเงื่อนไขการดูแลในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ทางบริษัทประกันภัยต้องเป็นคนรับผิดชอบให้กับผู้ทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจะแบ่งเป็นความคุ้มครองหลัก เช่น ค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุอย่าง ค่าซ่อม ค่าชดเชย (รวมถึงค่าเสียหายของคู่กรณีด้วย) ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น ส่วนความคุ้มครองเสริม ที่ซื้อเพิ่มจากประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำอยู่แล้วอย่าง ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลและความคุ้มครองในการต่อสู้คดี

  • ทุนประกันภัย คือค่าสินไหมทดแทน ที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันภัยเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความเสียหาย ยิ่งทุนประกันที่จะได้รับมีมูลค่าสูงเท่าไร เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็จะสูงตามไปด้วย

 
     ถึงแม้การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่และเสริมเกราะป้องกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วและความประมาท เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้บนท้องถนน ทางที่ดีควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวไบเกอร์เองและผู้ใช้ถนนร่วมจะดีที่สุด
 
4-ways-to-choose-motorcycle-insurance_4
 
     และทั้งหมดนี้คือ 4 วิธีเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ ที่ไบเกอร์ต้องรู้ เพื่อที่จะได้เลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์การขับขี่และรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ นอกจากทำประกันรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็อย่าลืมนำรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดไปตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถมอเตอร์ไซค์ด้วย โดยสามารถเข้าไปตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ได้ที่ ศูนย์บริการและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศได้เลย ที่สำคัญทางยามาฮ่ายังมีการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตรอีกด้วย และอย่าลืมแอดไลน์ยามาฮ่าเพื่อรับสิทธิพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมได้เลยที่ @yamahasociety