Blog-7-Tents-Yamaha-EP02-1200x628
Reviews

EP 2 ขี่ YAMAHA EXCITER 150 อัดมิดไมล์วิ่งใส่ทะเลสวย สวนวังแก้ว ระยอง ขอจองที่นอนแต่เพียงผู้เดียว By It My Ride

        กลับมาพบกันใน EP ที่ 2  จากโปรเจค ปลายฝยต้นหนาว ดูดาวนอนอุ่น 7 จุดกางเต็นท์ ไม่ไกลเมืองกรุง ครั้งที่แล้วเราพาเพื่อนๆไปเยื่อนยอดเขา จังหวัดราชบุรี เพื่อชมทะเลหมอกแต่ทว่ากลับโดนหมอกตลบหลังสาดสัดเข้ามาจนเต็นท์เปียกปอนไปหมด งั้นรอบนี้ผมขอพาไปนอนดูทะเลของจริงเลยก็แล้วกัน ยังไงซะทะเลก็คืออาหารหลักของการท่องเที่ยวประเทศเรา แต่ว่าทะเลรอบนี้มันจะมีความโรแมนติกกว่าทะเลไหนๆที่คุณเคยไป โดยเฉพาะหากใครไปเป็นคูด้วยแล้วก็รับรอง !!!!!!!



02




03




         รอบก่อนเราเอารถออโตเมติกมีของ YAMAHA LEXI 125 VVA ไปไต่ดินชึ้นหินทางชัน ก็คิดว่ามันส์จะไปไม่รอด แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกลับมา คราวนี้ผมได้รถเฉลยมาหนึ่งคัน (ของเพื่อนผมเอง) มันอยากลองของผลเลยจัดให้อย่างงาม YAMAHA EXCITER 150 รถแม้บ้านที่มีความเป็นสปอร์ตเต็มตัว จากคลัตช์มือและชุดเกียร์ 6 สปีด จริงๆสมัยผมนี่รถทรงนี่เป็นอะไรที่โค ตะ ระ ได้รับความนิยมอย่างมาก คือมันเป็นรถที่ค่อนข้างจะใช้งานได้หลากหลาย และใครก็ตามที่ขี่รถแบบมีคลัตช์มือได้ในบ้าน รถประเภทนี้ก็จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ คือแบบว่าขี่กันได้ตั้งแต่พ่อยันลูก สุดท้ายก็ตกเป็นมรดกลูกเอาไปแต่งจนสวยงามกัน สำหรับเจ้า YAMAHA EXCITER 150 นี่มันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 150 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ เครื่องเดียวกับเจ้า R15 ตัวก่อน ต่างกันตรงชุดเกียร์ที่มีเพียง 5 สปีด แต่ในด้านความแรงหย่อนกันก็แค่รอบปลายเท่านั้น มันเด็ดกว่าก็เรื่องของท่านั่งที่สบายและน้ำหนักที่เบากว่า จึงทำให้ท่าขับขี่นั้นสบายกว่าเยอะ และยังพลิกเลี้ยวได้รวดเร็วปานโจร 500 เอ้าว่าพรืดกันมายืดยาว เมื่อไหร่จะได้ออกเดินทางกันสักที งั้นถ้าพร้อมแล้วเรามาเก็บกระเป๋าพร้อมกันเลยดีกว่า 




04





05



06




เสียบกุญแจ บิดสตาร์ท !!! 
สำหรับข้าวของที่เราเตรียมไป หลัก ๆ ก็ต้องมีเต็นท์ เพราะแน่นอนว่าโปรเจคนี้เราจะไปกางเต็นท์นอนกัน ผมเลือกใช้เต็นท์แบบนอนคนเดียว เพราะว่าเมื่อพับเก็บแล้วมันจะมีขนาดเล็ก พกพาสะดวกหน่อย ข้าวของกระจุกกระจิกที่จำเป็นอย่าง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู อะไรพวกนี้ก็จับมัดรวมเตรียมไว้ในห่อเดียวเลย เสื้อผ้าสำหรับลงเล่นน้ำ หรือใครจะไม่ใส่ก็ตามแต่นะ ไม่เปลืองดีเหมือนกัน !!! ส่วนอาหารการกินเราออกไปหาเอาข้างหน้า ว่าแล้วก็เสียบกุญแจ กดสตาร์ทรถและบิดทะยานกันออกได้  จากกรุงเทพ เราเติมน้ำมันให้เต็มถัง 4.2 ลิตร ตอนที่เติมไปก็แค่ 80 บาท เพราะในถังยังพอมีน้ำมันอยู่  ระยะทางก็ราวๆ 193 กม. เส้นทางที่ใช้ก็เส้นทางหลัก ถนนบางนา - ตราด หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 จนมาถึงป้ายทางเลี่ยงเมืองชลบุรี หมายเลข 361 เราก็วิ่งต่อไปตามป้าย ระยอง อำเถอแกลง แล้วตัดเข้าเส้นถนนสุขุมวิทย์ หมายเลข 3  วิ่งมาจนถึงเทศบาลสุนทรภู่ ก็เลี่ยวซ้ายเข้าไปอีก 5.8 กม. จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 3145 วิ่งต่อไปอีก 1.6 กม.ก็ถึงแล้ว สวนวังแก้ว
จากรุงเทพออกเส้นบางนา-ตราด สภาพถนนและการจราจรยังคงสภาพเลเวลต่ำเหมือนเดิม ดีที่ช่วงล่างเดิมจากโรงงานค่อนข้างนุ่มเลยทำให้ช่วยลดอาการสะทานบนเส้นทางได้ดีหน่อย ความเร็วที่ใช้ก็อยู่ราวๆ 80-90 ขอบอกว่าเจ้า Exciter นี่รอบกลางถึงปลายวิ่งดีมาก 120 กม/ชม นี่ทำได้สบายเลย แต่ว่าถ้าบิดแช่ยาวก็กินน้ำมันเอาเรื่องอยู่ แต่มันก็อดไม่ได้เมื่อเจอทางดีๆก็มีกระตุกคันเร่งออกบ้างเหมือนกัน ทางที่มาส่วนมากไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนักเพราะเป็นทางตรงยาวๆ จนกระทั่งมาถึงทางเข้าสวนวังแก้ว !!! 



09




พอเข้ามาถึงก็ติดต่อกับจุดลงทะเบียนด้านซ้ายตรงปากทางเข้า สำหรับค่ากางเต็นท์อยู่ที่คนละ 200 บาท สำหรับผู้ที่นำเต็นท์มาเอง เด็กไม่เสียเงิน  จากนั้นเราก็จะได้แผนที่สำหรับวิ่งไปตรงจุดกางเต้นท์มาหนึ่งแผ่น แต่ระหว่างทางเองก็มีป้ายบอกเหมือนกัน ภายในถูกแบ่งโซนอย่างสวยงาม มีทั้งบ้านพักตากอากาศ และชายหาดหลายมุม ทางในนี้เป็นทางชันๆ แบบว่าเราต้องวิ่งขึ้นลงเขาเพื่อมาลงยังชายหาด เรียกว่าขี่รถวนเล่นได้สนุกเลยหละ 




10



            พอมาถึงตรงที่กางเต็นท์บอกเลยว่ามันกว้างขวาง และมีจุดให้เราเลือกได้หลายจุด ผมขอตรงใกล้ๆกับเสาไฟแล้วกัน  อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับห้องน้ำอีกด้วย ห้องน้ำที่นี่สะอาดใช้ได้ แต่ยังมีแค่ 2 ห้องสำหรับชาย-หญิง ส่วนที่อาบน้ำเป็นฝักบัวแบบโอเพ่นแอร์ เหมือนกับที่อยู่ริมสระว่ายน้ำ อาจจะไม่ค่อยสะดวกสำหรับสาวๆ คือต้องให้เพื่อนมานั่งเฝ้าเอาไว้หน่อย หาดทรายที่นี่เป็นสีขาวละเอียด ที่เล่นน้ำก็กว้างสบาย ไม่มีเก้าอี้ชายหาดมาบดบังสายตาหรือคนเดินขายของมากวนใจ สามารถลงเล่นได้ตลอด 24 ชม. 



11




12




13




14





พระอาทิตย์ใกล้ลับตา กายาก็เริ่มเรียกร้องหาอาหาร ผมเลยลองวิ่งรถย้อนหาดูว่าแถวนี้มีตลาดหรืออะไรน่าสนใจบ้าง จนกระทั่งไปเจอป้ายร้านนายพล สะดุดกับเมนูแนะนำ  ส้มตำปูม้า 150 บาท เลยต้องขอลองสักหน่อย สรุปว่าได้ปูเต็มตัวไม่หักครึ่ง แถมยังสดๆใหม่ๆอีกด้วย ใช้เวลาทำก็ไม่นาน ก็ได้อาหารเย็นชุดใหญ่กลับมาปาร์ตี้ต่อที่เต็นท์สบายๆ  จ่ายไป 830 บาท  ถือว่าราคามาตรฐาน แต่ได้ปริมานเกินมาตรฐานไปเยอะ ตกดึกจะขอนอนชมดาวหน่อยปรากฎว่าริมทะเลนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้ จู่ๆลมฝนก็พัดเอาเมฆดำก้อนโตบินตรงมาหาเราแบบไม่ต่อเครื่อง เลยจำต้องรีบเอาของทุกอย่าเก็บแอบในซอกเต็นท์  จากนั้นก็พักผ่อนกัน




17



17




19




รุ่งเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่มองไม่เห็นเพราะมันขึ้นด้านหลัง เลยต้องย่องเลาะริมหาดไปดูเอา ทำให้เห็นว่าอีกมุมหนี่งของหาดที่นี่ก็สวยไม่แพ้กัน สำหรับการมาถ่ายรูปนี่เหมาะเลย แต่ด้วยโขดหินเยอะจึงทำให้ตรงนี้เราเล่นน้ำไม่ได้ ส่วนหาดด้านหน้าเราลงเล่นได้ วิ่งไล่จับปูลมตัวน้อย น้ำตรงนี้ใสสะอาดหายห่วงเรื่องแมงกระพรุน เล่นน้ำเสร็จก็ขอออกไปขี่รถวนเล่นถ่ายรูปกันอีกสักหน่อย อย่างที่บอกว่าถ้าใครซ้อนรถมากันเป็นคู่นี่รับรองถูกใจแน่ ๆ  ด้วยความสงบของพื้นที่ 



24




25



สำหรับมื้อกลางวันเราก็ขี่รถขึ้นมาที่ร้านอาหารครัววังแก้วได้เลย ได้วนเล่นรอบพื้นที่แถวนี้อีกรอบด้วย ข้างๆติดกันกับครัววังแก้ว มีสมาคมประมงพื้นบ้าน กลุ่มวังแก้ว ผมเห็นเรือหาปลาสวย ๆ จอดเรียงราย เลยขอแวะลงไปเซลฟี่รถซักหน่อย พี่ๆในนี้ใจดีมาก 



26




27




28




29




30




31



ระหว่างรอาหาร เราก็วนในถ่ายรูปเล่นกันไป




32




36




33




34




35




38




39




40



41



จนบ่ายคล้อยเราจึงได้เก็บของเตรียมตัวกลับบ้านกัน โดยใช้เส้นทางเดิมนี่แหละสะดวกที่สุด ถือว่าเป็นทั้งทะเลที่แสนสงบ และจุดกางเต็นท์ริมทะเลที่ดีจุดหนึ่ง ส่วนรอบหน้าจะพาไปที่ไหนนั้นต้องคอยติดตามกันให้ดีนัครีบรับรองสนุกแน่นอน