ต่อกันที่ท่านั่งเมื่อขึ้นคร่อมบนเจ้า Exciter 150 กันบ้าง เราจับรถขึ้นขาตั้งคู่เพื่อให้สะดวกต่อการนั่งเซ็ทท่าทางการขับขี่โดยทำตามสเต็ปคือ ขึ้นคร่อมแล้วยืนบนพักเท้าจากนั้นหย่อนก้นลงนั่งบนเบาะตามธรรมชาติแล้วจึงเอามือจับแฮนด์ทั้งสองข้างในลักษณะที่โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แขนและข้อศอกงอพอประมาณไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ซึ่งเราก็รู้สึกได้ถึงความสบายจากท่าทางการขับขี่เป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้สึกเกร็ง สามารถที่จะบังคับแฮนด์เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้อย่างถนัดและคล่องตัว ช่วงเท้าและหน่องสามารถที่จะหนีบแหนบกระชับกับตัวรถได้อย่างพอเหมาะ นั่งอยู่บนเบาะได้เต็มๆ สัมผัสได้ถึงความนุ่มสบาย โดยพื้นที่ในส่วนของคนขี่นั้นหุ้มด้วยหนัง PVC ที่ช่วยให้สามารถสไลด์ลื่นตำแหน่งท่านั่งขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ส่วนของคนซ้อนท้ายจะหุ้มวัสดุคล้ายผ้าสักหลาดเพื่อกันลื่นในขณะซ้อนท้ายช่วยให้นั่งสบายและถนัดมากยิ่งขึ้น โดยเบาะนั่งดีไซน์ให้เป็นชิ้นเดียวแต่มีการปาดตรงส่วนคนขี่ให้เว้าเป็นหลุมเล็กน้อยตามแบบรถสปอร์ตเพื่อให้คนขี่รู้สึกสปอร์ตได้เต็มที่นั่นเอง
หลังจากสัมผัสกับรูปลักษณ์ภายนอกของ Yamaha Exciter 150 กันแล้ว คราวนี้เรามาสัมผัสกับสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ภายในกันบ้างดีกว่าบิดกุญแจเพื่อเปิดสวิตช์ เราก็จะพบกับข้อความต้นรับอย่าง HI buddy หรือ ready to GO พร้อมบนเรือนไมล์ดิจิตอล พร้อมทั้งเข็มวัดรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อคก็สวิงขึ้นไปที่เรดไลน์ 12,000 รอบ พร้อมไฟสถานะเครื่องยนต์โชว์แสดง จากนั้นก็แค่กดปุ่มสตาร์ทไฟฟ้าเพียงเบาๆ เครื่องยนต์สตาร์ทติดพร้อมทำงานแล้ว รอบเดินเบาอยู่ที่ประมาณ 1,500 รอบ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังผ่านท่อไอเสียเป็นเสียงทุ้มๆ ให้ความสุขุม เมื่อรอบบิดคันเร่งในจังหวะเกียร์ว่าง รอบเครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เข็มล์สวิงขึ้นทันทีที่บิดคันเร่ง แสดงให้เห็นถึงแรงบิดที่ติดมือตามที่ผู้ขับขี่สามารถสั่งการได้อย่างทันใจ
เมื่อลองกำคลัทช์เพื่อเตรียมตบเข้าเกียร์ 1 เรารู้สึกได้ถึงความเบาแรงและนุ่มมือเวลาที่บีบคลัทช์เป็นอย่างมาก ซึ่งการเข้าเกียร์ก็สามารถเข้าง่ายและนุ่มนวล ไม่มีอาการกระตุกหรือแข็งกระด้างจนต้องออกแรงแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเราก็บิดคันเร่งเพิ่มรอบเครื่องพร้อมทั้งค่อยๆ คลายมือคลัทช์ออกไปทีละน้อย ซึ่งค่ามาตรฐานที่ตั้งออกมาจากโรงงานนั้นอยู่ในระดับที่กำลังพอดี ไม่ตื้นหรือลึกมากจนเกินไป ทำให้การออกตัวเป็นไปด้วยความนุ่มนวลทีเดียว
หลังจากทำความคุ้นเคยกับคลัทช์ในการออกตัวเรียบร้อย คราวนี้ก็ได้เวลาบิดคันเร่งแบบเต็มพิกัด โดยคราวนี้เราออกตัวด้วยเกียร์ 1 ที่รอบสูงประมาณ 7-8000 รอบ พร้อมทั้งรีดคลัทช์ออกตัว เจ้า Yamaha Exciter 150 ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว เราลากรอบขึ้นมาแตะเรดไลน์ที่ 10,000 รอบ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียงแค่กระพริบตาก่อนที่จะงัดเขัาเกียร์ 2 แบบนุ่มนวลและแม่นยำ รอบเครื่องก็ยังคงสวิงขึ้นไปแตะเรดไลน์ได้อย่างรวดเร็วเหมือนเดิม ทำให้เราต้องเตะเข้าเกียร์ 3 ในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน ส่วนในจังหวะก่อนที่จะเข้าเกียร์ 4 นั้นเรารู้สึกว่ารอบเครื่องไม่ได้ขึ้นเร็วเหมือน 1 - 2 - 3 นัก ทำให้เราพอมีเวลาพักหายใจนิดหน่อย ส่วน 4 ต่อ 5 นั้นลากยาวขึ้นอีกเล็กน้อยกว่าจะขยับขึ้นมาแตะเรดไลน์ จากนั้นเราก็จัดการลากยาวเพื่อลองท๊อปสปีด ซึ่ง Moped Sport 150 ซีซี. คันนี้ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 138 กม./ชม. (ใครที่ติดตามอ่านเล่มที่แล้วคงจะทราบกันแล้ว) ซึ่งตัวเลขนี้กว่าจะได้มาเราก็ต้องหมอบมุดกันสักพักเช่นกัน...
เมื่อทดสอบกันจนเป็นที่พอใจแล้ว เราก็ลองขับขี่ในท่านั่งแบบปกติที่ก้มตัวนิดๆ ที่ใช้ในการเดินทางทั่วไป เพื่อดูว่าเวลานั่งขับขี่แบบสบายๆ นั้นความเร็วจะอยู่ที่ประมาณไหน ซึ่งหลังจากลองดูอยู่เกือบๆ 100 กม. เราก็รู้ว่าตัวเลข 120 -125 กม./ชม. คือความเร็วที่เจ้า Exciter 150 สามารถพาเราเดินทางไปได้แบบสบายๆ ทั้งรถและคนครับ นอกจากนี้พละกำลังเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี. ก็ให้แรงบิดที่เร้าใจโดยสามารถพาเราทะยานลัดเลาะขึ้นลงเขาหรือทางลาดชันได้แบบง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องลุ้นว่ากำลังเครื่องจะหมายก่อนขึ้นถึงยอดเขาอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้เราได้ลองพิสูจน์มาเต็มที่แล้วกับเส้นทาง ชุมแพ-น้ำหนาว และเขาค้อ จากการเดินทางในครั้งที่แล้วนั้นเอง
ต่อมาเรามาพูดถึงสมรรถนะช่วงล่าง การยึดเกาะถนน การซับแรงสั่นสะเทือนกันบ้าง โดยจุดเด่นของ Yamaha Exciter 150 ก็คือ ล้อและยางหลังขนาดใหญ่ 120/70-17 ที่ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มที่ออกแบบดีไซน์ใหม่พร้อมโช้คอัพหลังแบบ Mono Shock ที่พร้อมซับแรงสั่นสะเทือนและให้การยึดเกาะถนนได้มั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งจากที่เราลองเดินทางไกลเมื่อครั้งที่แล้ว ก็ได้สัมผัสกันมาแล้วว่า Exciter 150 สามารถพาเราทะยานและทำให้เราสนุกเร้าใจไปกับโค้งบนเส้นทาง ชุมแพ-น้ำหนาว และขึ้นเขาค้อได้เป็นอย่างดี เพราะแม้ว่าจะเดินทางบนเส้นทางที่ว่ามานี้ด้วยความเร็วประมาณ 100-120 กม./ชม. ช่วงล่างก็ยังคงยึดเกาะถนนได้แบบหนึบแน่น ไม่มีอาการยุบหรือย้วยแม้แต่น้อย หรือในช่วงการเดินทางบนพื้นราบด้วยความเร็วสูง Yamaha Exciter 150 ก็พุ่งทะยานไปได้อย่างเสถียร ไม่ร่อน ไม่ส่าย อีกด้วย และนอกจากจะยึดเกาะถนนได้ดีแล้ว การซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนที่ไม่ราบเรียบหรือเส้นทางขรุขระก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อทดลองนำ Yamaha Exciter 150 มาขับขี่ในสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) ที่มีโค้งแคบๆ ต่อเนื่องให้ได้ลองทดสอบความคล่องตัว เราก็รู้สึกว่ามันสามารถที่จะเลี้ยวรถไปตามโค้งได้อย่างคล่องแคล่ว การพลิกรถซ้ายขวาแบบรวดเร็วช่วงล่างก็ไม่มีอาการดีดดิ้นให้เสียการควบคุม ทำให้เรารู้ว่าถ้าจะต้องซอกแซกไปตามการจราจรในเมือง เจ้า Yamaha Exciter 150 จะสามารถพาเราผ่านไปยังจุดหมายปลายทางได้แบบสะดวกสบาย อย่างแน่นอน อีกทั้งแฮนด์เดิลบาร์ที่ออกแบบสไตล์รถ Sport Moped ครอบครัวที่กว้างแต่งุ้มโค้งเข้าหาตัวผู้ขับขี่เล็กน้อยและอยู่ในระดับที่กำลังสบาย ทำให้เราสามารถที่จะบังคับคอนโทรลรถให้เลี้ยวไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างง่ายดายและเบาแรงอีกด้วย
ระบบเบรกก็เป็นอีกจุดนึงที่เจ้า Yamaha Exciter 150 ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง โดยมีขนาดของจานเบรกหน้าอยู่ที่ 245 มม. และหลังขนาด 203 มม. ทำให้เราสามารถที่จะหยุดรถ Sport Moped คันนี้ ได้อย่างอยู่มือและปลอดภัยอย่างแน่นอน ซึ่งจากการที่ลองทดสอบบีบการเบรกหน้าแบบออกแรงพอตึงมือเราก็รู้สึกได้ถึงแรงเบรกก็มีมากพอและพร้อมที่จะหยุดรถให้สงบนิ่งได้อย่างนุ่มนวล ส่วนเบรกหลังนั้นเรารู้สึกว่าเบรกจับค่อนข้างเร็วแม้ว่าจะใช้แรงจากเท้ากดลงไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ส่วนเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันนั้น เราขอยกตัวเลขจากการเดินทางไกลจากครั้งที่แล้วมาบอกกันนะครับ เพราะว่าเป็นการเดินทางจริง บนถนนจริง และสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ซึ่งตัวเลขอัตราการใช้น้ำมันของ Exciter 150 คันที่เราขี่นั้น มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 25.82 กม./ลิตร (น้ำมันที่ใช้เป็น E20) ที่ความเร็วเฉลี่ย 120 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจทีเดียวสำหรับการใช้ความเร็วเฉลี่ยที่เกือบจะเต็มสปีดแบบนี้ครับ
และนี่ก็คือบททดสอบแบบเนื้อๆ เน้นๆ ของ “Yamaha Exciter 150” ที่เรารวบรวมมาทั้งจากการทดสอบขับขี่ทางไกลเป็นระยะทางเกือบ 1,500 กม. และการลองขับขี่ในสนามฝึกขับขี่ ซึ่งผลลัพท์ที่ได้นั้นต้องบอกว่า Moped Sport พิกัด 150 ซีซี. รุ่นนี้ ครบเครื่องและสามารถที่จะตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันที่อยู่ในเมือง หรือจะเป็นการเดินทางไกลในวันหยุดพักผ่อนเพื่อสร้างความเร้าใจให้กับตัวเอง…สมกับที่เป็น “The Street King” ตัวจริงเสียงจริง!! และอย่าพึ่งเชื่อเราจนกว่าคุณจะได้สัมผัสกับความดุดัน...ขั้นสุดแห่งความเร้าใจของ “Yamaha Exciter 150” ด้วยตัวเอง!!!