Yamaha WAVERUNNER กับการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ “รวมหัวใจ..ไปให้สุดที่แดนใต้”

วันที่ 3 เราชาวยามาฮ่าเวฟรันเนอร์ Yamaha WAVERUNNER ออกเดินทางเข้าสู่เมืองสามอ่าว จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักกายและใจ ซึ่งเราต้องผ่านอุทยานเขาสามร้อยยอด ยอดเขากลางทะเลที่มีโถงถ้ำตามธรรมชาติให้เราได้สัมผัสและเก็บภาพธรรมชาติที่หาไม่ได้จากการเดินทางบนบก หรือจะเดินทางเพื่อไปชมถ้ำพระยานคร จุดท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อยู่ใจกลางของถ้ำ เป็นสถานที่ที่มีแสงส่องลงมาผ่านเพดานถ้ำ สะท้อนแสงของพระที่นั่งสะกดสายตาของนักท่องเที่ยว แต่หากจะเดินทางทางน้ำเพื่อเข้าไปจอดหน้าถ้ำพระยานคร ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จาก กรมอุทยานแห่งชาติ เขาสามร้อยยอด










วันที่ 4 เราเตรียมตัวเพื่อที่จะไปจุดหมายต่อไป นั้นก็คือจังหวัดชุมพร การเดินทางนี้จะผ่านวัดวัดนึง ที่ถือว่าเป็นจุดแลนด์มาร์คของกิจกรรมครั้งนี้ คือวัดทางสาย อ.บางสะพาน วัดที่มีพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ วัดนี้สร้างเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 วัดนี้หากขับขี่ผ่านทางทะเล และมีพระพุทธกิติสิริชัย พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่ตั้งอยู่ข้างพระมหาธาตุเจดีย์ เป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกหรือสิ่งที่ได้สัมผัสได้หมด ต้องมาด้วยตัวเองเท่านั้น หลังจากนั้นเดินทางต่อเข้าสู่หาดทรายรีจังหวัดชุมพร




หากถึงที่เกาะลำพูนแล้ว ไม่ควรลืมที่จะถ่ายกับป้ายจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่จะถ่ายตรงด้านหน้าได้ เฉพาะผู้ที่ขับขี่ยานยนต์ทางน้ำเท่านั้น



วันที่ 6 เดินทางต่อสู่ อำเภอ ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช การเดินทางวันนี้จะผ่านอีก จุดแลนด์มาร์คสำคัญของ ทริปนี้ คือ หลวงพ่อโต ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือดอนสักท่าเรือข้ามฝากไปเกาะ สมุย พระพุทธรูปสีขาวบริสุทธิ์ นั่งประดิษฐานบนเขาหันหน้ามองไปเกาะสมุย ไม่ว่าใครที่ขับขี่ผ่านทะเลตรงนี้ก็จะต้องประทับใจกับภาพนี้ เป็นภาพที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ 




หลังจากนั้นเราเข้าไปจอดที่อนุเสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเป็นอนุเสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ อ.สิชล ปากทางคลองสิชล เป็นที่รู้กันว่า หากจะเดินทางออกทะเล ต้องมากราบไหว้เพื่อขอพร เป็นสิริมงคลและขอให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง 




วันที่ 7 จุดหมายต่อไปอยู่ที่ อ.ปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เราจะต้องผ่านแหลมที่มีประวัติศาสตร์ที่ทำให้เราได้จดจำและระลึกถึง คือ แหลมตะลุมพุกที่ต้องเผชิญกับพายุแฮเรียตในอดีต ซึ่งในปัจจุบัน แหลมตะลุมพุก ถือเป็นอีกหนึ่งแหลมที่สวยงามที่สุดในภาคใต้ที่ไม่ว่าใครๆก็แวะเข้ามาชม หลังจากนั้นเดินทางเข้าสู่แม่น้ำปากพนัง ที่เป็นบริเวณที่มีโคลนและเลนตลอดทาง จึงต้องใช้ความชำนาญในการดูล่องน้ำเพื่อเดินทางเข้าออก ตลอดสองข้างฝั่งจะเห็นวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ที่แปลกตากว่าทั่วๆไป

วันที่ 8 เราออกจากแม่น้ำปากพนังมุ่งหน้าไปหาดปลาไก่ ปากอ่าวทะเลสาบสงขลา การเดินทางเลาะริมฝั่งเราได้เห็นกังหันลมขนาดใหญ่ตลอดริมฝั่งเส้นทางเดินเรือก่อนเข้าหาดสมิหลา มีเพียงไม่กี่ที่ในประเทศเท่านั้น ที่มีกังลมหันไฟฟ้าขนาดใหญ่ริมฝั่งทะเล ถึงที่หมายหาดสมิหลา หาดทรายยาวสุดสายตา คงอยู่กับธรรมชาติที่สวยงาม หากคุณเหนื่อยล้าจากการขับขี่ เมื่อมาถึงที่นี้ คุณจะได้รับการฟื้นฟูพลังกายและใจ จากธรรมชาติที่สวยงามตรงหน้าคุณ








ช่วงเช้า วันที่ 9 เราชาวยามาฮ่าเวฟรันเนอร์ Yamaha WAVERUNNER มุ่งหน้าไปหาดสมิหลา เป็นจุดสำคัญที่มีการนัดพบกับทางทีมจักรยานเพื่อมาร่วมพิธีมอบเงินบริจาคเพื่อสมทบในกิจกรรม เป้าหมายต่อไปคือ ตัวเมืองจังหวัดปัตตานี เมืองที่ไม่ได้อันตรายอย่างที่ใครๆคิด  








หลังจากนั้น เราออกเดินทางจากหาดสมิหลา การเดินทางนั้นจะผ่านอีก 1 แหลมที่ยังคงความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอยู่ คือ แหลมตาชีที่สามารถมองดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ในที่เดียวกัน จากนั้นวิ่งตามแม่น้ำปัตตานีเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง แม่น้ำปัตตานีเป็นแม่น้ำที่มีเรือประมงมากที่สุดในภาคใต้ และตลอดทางเดินเรือ บ้านเมืองนั้นแสดงถึงเมืองที่มีความเก่าแก่ มีมัสยิดตลอดสองฝั่ง และบ้านเรือนที่ยังคงประวัติศาสตร์ไว้ และ เราได้จอดเทียบเรือที่บริเวณหน้าศาลหลักเมือง


















วันที่ 10 วันสุดท้ายสำหรับการเดินทางไปที่ปลายสุดด้ามขวานที่หาดนราทัศน์ จังหวัดนราธิวาส หาดทรายสุดท้ายก่อนจะเข้าประเทศเพื่อนบ้านของเรา หาดนราทัศน์มีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นหาดทรายสีขาวและต้นไม้จำนวนมากที่ปกคลุมหาดนี้ ภาพที่เราเห็นคือ ธรรมชาติที่สวยงามและยังคงอยู่ไว้จากประชาชนในพื้นที่ ความสวยงามของทะเล บวกกับ ธรรมชาติบนผืนบก สถานที่นี้อาจจะเป็นเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในภาคใต้ก็ได้ ตลอดการเดินทาง 1,400 กิโลเมตร ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการเดินทาง มีพิธีการต้อนรับจากหน่วยงานราชการ และ มีการมอบประกาศณียบัตรเพื่อเป็นการแสดงความยินดีในการสำเร็จในกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์นี้ หลังจากนั้นเรานำยามาฮ่าเวฟรันเนอร์ Yamaha WAVERUNNER ทั้งหมดขึ้นเทรลเลอร์เพื่อนำกลับกรุงเทพฯ เป็นการสิ้นสุดกิจกรรมได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจ ผู้สนใจสามารถดูภาพกิจกรรม“รวมหัวใจ..ไปให้สุดที่แดนใต้” ได้ที่  https://www.facebook.com/SuddantaiThailand/

นอกจากนี้ หากใครยังสนใจที่จะรวมพลังเพื่อช่วยเหลือเด็กในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนได้ที่นี่