สองนักแข่งทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทำผลงานได้ดีในการแข่งขันโมโตจีพีสนามที่ 12
Octo British Grand Prix โดย
มาเวอริค บีญาเลส ขยับจากอันดับที่ 4 ขึ้นไปคว้าอันดับที่ 2 มาครองได้ ส่วน
วาเลนติโน่ รอสซี่ ที่ลงขี่แข่งขันในเกมพรีเมี่ยมคลาสเป็นครั้งที่ 300 สามารถเริ่มต้นเกมได้ดีกับการขึ้นสู่อันดับที่ 1 ก่อนจบการแข่งขันในอันดับที่ 3 เป็นโพเดี้ยมคู่ของทีมอีกครั้ง
การแข่งขันโมโตจีพีสนามที่ 12 Octo British Grand Prix ทำการแข่งขันที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ กับการแข่งขันรวม 20 รอบสนาม โดยในรอบการควอลิฟายนั้น วาเลนติโน่ รอสซี่ ออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 เวลา 2'00.025 นาที ส่วนเพื่อนร่วมทีม มาเวอริค บีญาเลส ออกสตาร์ทในอันดับที่ 4 เวลา 2'00.341 นาที เกมออกสตาร์ท วาเลนติโน่ รอสซี่ บิดยามาฮ่า YZR-M1 เริ่มต้นได้ดีขยับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงได้ก่อนใคร โดยมีมาร์ค มาเกรซ, มาเวอริค บีญาเลส, แคล คลัทช์โลว์, ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่, อังเดร โดวิซิโอโซ่ ไล่ตาม ผ่านรอบแรก รอสซี่ยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป มาถึงรอบที่ 3 มาเวอริค บีญาเลส บิดยามาฮ่า YZR-M1 ขยับแซง มาร์ค มาเกรซ ขึ้นรั้งที่ 2 ขณะที่อังเดร โดวิซิโฮโซ่ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4 เกมชิงชัยกันอย่างดุเดือด โดยวาเลนติโน่ รอสซี่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำไวได้อย่างต่อเนื่อง จนมาถึงรอบที่ 14 มาร์ค มาเกรซ ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้เกมการชิงตำแหน่งเปลี่ยนแปลง ช่วงท้ายวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่บิดนำยาวมาตลอดเริ่มต้นก็ดดยอังเดรโดวิซิโอโซ่ แซงขึ้นไปในรอบที่ 17 ขณะเดียวกับ มาเวอริค บีญาเลส ที่แผ่วลงไปในช่วงกลางๆรอบก็ขยับขึ้นมาแซงวาเลนติโน่ รอสซี่ พร้อมไล่กกดันอังเดร โดวิซิโอโซ่ ในรอบสุดท้าย ก่อนที่ มาเวอริค บีญาเลส จะเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 3 เป็นของวาเลนติโน่ รอสซี่
สำหรับผลคะแนนสะสมแชมป์โลกโมโตจีพีนั้น
มาเวอริค บีญาเลส มีคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่ 3 มี 170 คะแนนส่วนวาเลนติโน่ รอสซี่ มีคะแนนสะสม 157 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 4 ส่วนการแข่งขันโมโตจีพีสนามต่อไปจะแข่งขันกันที่Gran Premio Tribul Mastercard di San Marino e della Riviera di Rimini ในวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้
มาเวอริค บัญาเลส กล่าวหลังคว้าอันดับที่ 2 ในเกมว่า "วันนี้เป็นเกมที่ยาก แต่ผมคิดว่าเราทำการแข่งขันในเกมที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีการเซ็ทติ้งกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิสก์ที่ทำให้เราแข็งแกร่งในทุกพื้นที่ของสนาม ผมคิดว่าเรามีผลงานที่ดี เป็นวันที่เกิดความรู้สึกว่าเราแข็งแกร่งอีกครั้งและถือเป็นการกลับมาในทิศทางที่ดีอีกครั้งหลังจากที่ที่ผ่านมาของการแข่งขันเราไม่มีความแข็งแกร่งพอ เวลานี้เราเป็นคนที่เร็วที่สุดในรอบการแข่งขันดังนั้นเราจะพยายามที่จะจะสร้างความแข็งแกร่งให้มากขึ้นในการแข่งขันต่อไป ผมรู้ว่าในรอบการแข่งขันรถยามาฮ่า YZR-M1 สามารถที่จะทำงานได้ดีดังนั้นผมก็แค่พยายามที่จะไปให้เร็วและมีความละเอียดในการขับขี่รวมถึงรักษาสภาพยาง ซึ่งผมสามารถที่จะทำรอบที่ดีในช่วงของการเริ่มต้น แต่แล้วยางก็มีความยึดเกาะน้อยลงดังนั้นผมคิดถึงการขับขี่ในรอบที่เหลือก่อนอื่นคือไปให้ช้าลงเพื่อรักษาสภาพยางและวางไว้ขี่ไว้ในช่วงท้ายและนี่ก็คือผลที่ได้ ผมไล่ตามโดวี่ในรอบสุดท้ายและพยายามที่ขี่ให้ดีที่สุด เป็นอีกหนึ่งรอบที่ที่ดีสุดของผมในการขับขี่ ดั้งนั้นผมจะขี่ให้เต็มที่ที่สุดเพื่อที่จะแซงเขา แต่การได้อันดับที่ 2 ก็๕อเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของวันนี้ที่ผมสามารถทำได้ ผมมีความสุขและเรากำลังจะเริ่มงานที่ถูกทางอีกครั้ง"
ส่วน
วาเลนติโน่ รอสซี่ได้กล่าวถึงผลการแข่งขันไว้ว่า "ผมมีความสุขเพราะว่ามันเป็นเกมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมหลังจากที่เรามีช่วงสัปดาห์ที่การแข่งขันที่ดี ผมออกสตาร์ทได้ดีจนสามารถที่จะทะยานขึ้นนำและสามารถที่จะใส่ได้เต็มร้อยตลอดทั้งเกมการชิงชัย ตลอดช่วงสัปดาห์ของการแข่งขันนี้เราสามารถพัฒนาและเข้าใจบางสิ่งที่สำคัญจากการทำงานในสนามแข่งขันนี้ ก่อนหน้านี้เราได้ลงทดสอบที่มิซาโน่ ทำการลองอะไรบางอย่างกับระบบอิเล็คทรอนิคส์และยาง ที่ซึ่งสามารถทำการเร่งความเร็วโดยที่สามารถลดการสึกหรอของยางได้ด้วย แน่นอนมันไม่ใช่อะไรที่สำคัญยิ่งใหญ่แต่ทว่ามันสามารถนำมาใช้ได้ดีในสนามแห่งนี้ ผมสามารถทำตำแหน่งที่ดีในแถวหน้าร่วมกับนักแข่งในแถวหน้าและรถแข่งเราก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ในช่วงรอบสุดท้ายนั้นผมกังวัลเล็กน้อยเพราะมันค่อนข้างยากลำบากอยู่บ้าง ทั้งที่ในช่วงห้ารอบสุดท้ายนั้นผมคิดว่าผมสามารถที่จะทำได้ในการที่จะเอาตำแหน่งคืนหลังจากที่ถูกโดวี่และมาเวอริคแซงขึ้นไป มันค่อนข้างจะน่าผิดหวังอยู่บ้าง เพราะว่าตัวผมเองนั้นไม่แข็งแกร่งพอที่จะสู้และชิงตำแหน่งคืนกลับมาจากพวกเขา ผมพยายามอยู่สองหรือสามครั้ง ผมทะยานเข้าไปในโค้งเพื่อที่จะทวงตำแหน่งคืน ไม่รู้สินะถ้าผมควรจะต้องหยุด แต่อย่างไรผมก็ยังคงรู้สึกมีความสุขกับการได้ขึ้นโพเดี้ยมซึ่งมันเป็นเป้าหมายของผม และเราที่มีตำแหน่งบนโพเดี้ยมนั้นก็มีเวลาที่ใกล้เคียงกันมากอีกด้วย การที่ได้ขี่รถแข่งMotoGP ในสภาพอากาศแบบนี้ที่สนามซิลเวอร์สโตนแห่งนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าสนุกอย่างยิ่ง มันเป็นหนทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการแข่งขันครั้งที่ 300 ของผมที่ได้ขึ้นไปอยู่หน้าสุดได้ขับเคี่ยวกับคู่แข่งชั้นยอดเพื่อลุ้นชัยชนะ นั่นแหละคือเป้าหมายของผมที่จะขี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะยังสามารถสู้กับนักแข่งในแถวหน้าได้ ผมคิดว่าสิ่งที่มีความกดดันมากกว่าการที่จะคิดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์นั้นก็คือการที่จะทำอย่างไรให้รถแข่งมีความพร้อมที่สุดนับตั้งแต่การลงสนามในวันศุกร์ ซึ่งมันเป็นอะไรที่มีความพิเศษอย่างยิ่งเพราะ โดยทั่วไปการลุ้นแชมป์นั้นที่ผ่านมาจะมีนักแข่งเพียงสองหรือสามคน แต่ว่าในปีนี้มีถึงห้าคน เมื่อผมเห็นว่ามาร์ค มาเกรซต้องออกจากการแข่งขันไป สถานการณ์นั้นมันมีความสำคัญต่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ เช่นเดียวกับที่ผมบอกนั่นแหละความกดดันที่มากกว่าคำว่าแชมป์นั่นก็คือ การเตรียมความพร้อมของรถแข่งให้ดีที่สุดคือความกดดันที่มีมากกว่าคำว่าแชมป์ แต่สำหรับตัวผมก็คงไม่มีอะไรมากนัก โดยส่วนตัวผมก็ต้องการเพียงแค่ที่จะชนะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทุ่มเททุกอย่างอย่างเต็มกำลังที่มีตลอดเวลา ซึ่งผมก็ทำเช่นนั้นอยู่เสมอ และผมก็มีความสุขที่ได้ทำมันอย่างเต็มที่ แม้ว่าผมจะไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะแข่งขันในรอบสุดท้ายที่จะสู้เพื่อโอกาสในการเป็นผู้ชนะ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมานี้"