นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์รูปแบบการตลาดในปี 2567 ว่า “สำหรับแผน และรูปแบบการตลาดเพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้าของยามาฮ่าในปีนี้ เรามีแนวทางการเสริมสร้างความแข็งแกร่งสู่ความเป็น Premium Brand กับนโยบายการขาย และการตลาดเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการส่งเสริมการขาย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ประทับใจให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี 2567
พร้อมกันนี้เรายังมีการสร้างแบรนด์ให้เป็นจุดแข็ง ด้วยปรัชญา KANDO เพื่อมุ่งสู่ความเป็น Lifetime Customer With YAMAHA as The “PREMIUM BRAND” พร้อมด้วย 6 นโยบายการตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดดังนี้
1.ONE TEAM: สร้างทีมที่แข็งแกร่งระหว่าง ยามาฮ่า ร้านผู้จำหน่าย และบริษัทเช่าซื้อ
2.เสริมสร้างการตลาดทั้ง Online และ On Ground: มุ่งเน้นเข้าหาพื้นที่ต่างๆ ที่มีศักยภาพใหม่ๆ ทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาร้านผู้จำหน่ายในการทำการตลาดในรูปแบบ Online เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
3.เพิ่มความแข็งแกร่งในเครือข่ายร้านผู้จำหน่าย: พัฒนา NEW YAMAHA SQUARE และยกระดับมาตรฐาน และบริการเพิ่มขึ้นอีก 80 แห่ง
4.ส่งมอบประสบการณ์ PREMIUM EXPERIENCE ให้ลูกค้า: อัดแน่นด้วยหลักสูตรพัฒนา และอบรมแก่พนักงานร้านผู้จำหน่าย YAMAHA SQUARE และร้านสาขา ด้วย 4 หลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจากยามาฮ่า เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การขาย และการบริการระดับพรีเมี่ยมให้มัดใจลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่า
5.อัดแน่นด้วยการตลาดเฉพาะกลุ่ม Personalize Marketing: อัดแน่นด้วยกิจกรรมทางการตลาดโดยเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารถออโตเมติก กลุ่มลูกค้ารถครอบครัว และกลุ่มลูกค้ารถสปอร์ต ให้เหมาะกับภาพลักษณ์ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
6.เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 5 รุ่น ครบทุกเซกเม้นต์: เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สามารถติดตามความเคลื่อนไหวผ่านสื่อของยามาฮ่าทุกช่องทาง และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ
พร้อมด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายด้วยความทันสมัย ด้วยการเพิ่มระบบต่างๆ ดังนี้
1.LEAD Management: พัฒนาระบบ Y-LEAD มัดใจลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
2.TYM Sales Consultant: ระบบช่วยเหลือผู้จำหน่ายในการส่งข้อมูล รวมถึงการเสริมสร้างในความเข้าใจกลไกตลาดรถจักรยานยนต์ด้วย Sales Application พร้อมสร้างทีมอบรมให้ความรู้แก่พนักงานของร้านผู้จำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าได้รับ “Premium Experience”
3.สร้างความสะดวกให้กับลูกค้าในด้าน Service และ Spare Part ด้วย Service Booking: เพิ่มช่องทางในการเลือกช่วงเวลาในการเข้ารับบริการผ่าน YAMAHA Call Center / Fast Track เพิ่มปริมาณแท่นซ่อมสำหรับงานซ่อมที่ใช้เวลาน้อยเพื่อการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น / Service Status Monitor อุ่นใจทุกครั้งที่เข้ารับบริการกับจอแสดงผลการซ่อม และสามารถประเมินเวลาในการซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ / Parts Pro Care อุ่นใจกับความพร้อมของอะไหล่เคลื่อนไหวเร็วกว่า 100 รายการ ที่มีการเติมอะไหล่ให้ผู้จำหน่ายอัตโนมัติเมื่อของหมด (Auto Fill Fast Moving Parts) ทำให้ร้านผู้จำหน่ายมีอะไหล่พร้อมบริการลูกค้าได้ตลอดเวลา โดยทั้งหมดเพื่อรองรับลูกค้าให้กลับเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยามาฮ่ายังคงมอบความมั่นใจในสินค้าด้วยการกล้ารับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ให้กับลูกค้า และสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในการรับประกันสินค้ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ด้วยระยะเวลาการรับประกัน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และสำหรับในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ เรากล้าให้การรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้อสินค้าเพื่อที่จะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม
ทั้งนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอขอบพระคุณท่านสื่อมวลชนทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา โดยบริษัทฯ จะยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และบริการที่ดี สร้างความมั่นใจสู่ความเป็น Premium Brand รวมทั้งเสริมสร้างกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทั่วประเทศ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Website: www.yamaha-motor.co.th
|